องค์กรสิทธิฯแถลงประณาม"ฆ่าผู้หญิง-ตัดคอ" สมาคม ผญบ.จี้แม่ทัพใหม่เร่งแก้
องค์กรสิทธิชายแดนใต้แถลงประณาม "ฆ่าผู้หญิง-ตัดคอ" สังหารเด็ก-พลเรือนไม่เลือกเป้า เตือนเข้าข่ายอาชญากรรมมนุษยชาติ ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ตำรวจเผยคนร้ายใช้ปืนสงคราม 6 กระบอกระดมยิงคณะผู้ใหญ่บ้านดับ 3 ระบุมี 3 กระบอกเคยก่อเหตุกรงปินัง-ยะหา นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านยะลา จี้แม่ทัพภาค 4 คนใหม่เร่งแก้
องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่ทำงานด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายองค์กร ได้พร้อมใจกันออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์สังหารหมู่ นายเอียะ ศรีทอง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านกาสังใน ต.ตะเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นางเฉลียว พิกุลกลิ่น อายุ 49 ปี และ นางอุไร ทับทอง อายุ 42 ปี ผู้ช่วยใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) หมู่บ้านเดียวกัน ขณะนั่งรถกลับจากประชุมที่อำเภอ โดยคนร้ายได้ตัดศีรษะนางอุไรด้วย รวมทั้งเหตุสังหาร นางประภรณ์ แก้วมณีรัตน์ อายุ 51 ปี อาสารักษาดินแดน (อส.) หญิง ประจำ จ.ปัตตานี ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของมูลนิธิผสานวัฒนธรรมใช้ชื่อว่า "อย่าล้ำเส้น ฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างเป็นระบบ การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์จะกลายเป็นอาชญกรรมต่อมวลมนุษยชาติ" โดยระบุว่า การฆ่าสังหารผู้บริสุทธิ์ทั้งเด็กและผู้หญิงในสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่มีจำนวนและความรุนแรงมากขึ้นในปี 2556 และช่วงสามเดือนแรกของปี 2557 ทั้งการฆ่าสังหารและเผาศพ การฆ่าสังหารพระ สตรี และเด็ก เหตุการณ์ความรุนแรงต่อพลเรือนอาจเข้าข่าย "อาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ" ที่กลุ่มก่อความไม่สงบจะต้องรับผิดทางอาญาตามหลักการของกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งแตกต่างจากการรับผิดของรัฐในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ฉะนั้นจึงขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงทุกฝ่ายยุติการฆ่าสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ การฆ่าสังหารผู้บริสุทธิ์ ชาย หญิง เด็ก เป้าอ่อนแอ รวมทั้งการทำลายศพ ที่เป็นการกระทำอย่างเป็นระบบแพร่หลาย จะเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การต่อสู้เพื่อเรียกร้องความไม่เป็นธรรมต้องอาศัยความชอบธรรมในการต่อสู้ วงจรความรุนแรงจะนำมาแต่เพียงความสูญเสียต่อมวลมนุษยชาติ
กลุ่มด้วยใจชี้ฆ่า-ทำลายศพผิดหลักศาสนา
ขณะที่กลุ่มด้วยใจ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง "การเสียชีวิตของผู้หญิงในจังหวัดชายแดนใต้" โดยระบุว่า ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ในเวลาห่างกันไม่นาน แต่คนละสถานที่ แสดงให้เห็นว่ามีความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงโดยตรงอย่างโหดเหี้ยม ไร้ซึ่งมนุษยธรรม และไม่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ รวมทั้งความเป็นผู้หญิงแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ลงนามในสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิง (The UN Declaration on the Elimination of Violence Against Women : CEDAW) และในปัจจุบันทั่วโลกต่างก็ให้ความสำคัญต่อเนื่องในการปกป้องผู้หญิงและเด็กในภาวะสงคราม ดังที่มีการประกาศมติสมัชชาความมั่นคง 1325 ของสหประชาชาติว่าด้วย สตรี สันติภาพ และความมั่นคง (UN Security Council Resolution 1325 on Women, Peace and Security) ซึ่งให้ความสำคัญในการไม่ยอมรับความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิง และ เรียกร้องให้กองกำลังและระบบการรักษาความมั่นคงให้ปกป้องผู้หญิงและเด็กหญิงให้พ้นจากความรุนแรง
แต่เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่องของรัฐในการป้องกันเหตุ การแจ้งเตือนให้กับเจ้าหน้าที่หรือประชาชนทราบถึงเหตุร้าย จึงทำให้เกิดการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิงถึง 2 ครั้งในวันเดียวกัน
ทางกลุ่มด้วยใจและเครือข่ายจึงขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายดังนี้
1.เรียกร้องให้ผู้ที่ใช้ความรุนแรงหยุดการกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะผู้หญิง และหยุดการทำลายศพซึ่งผิดทั้งหลักศาสนาและกฎในภาวะสงคราม
2.ขอเรียกร้องให้รัฐที่มีพันธะหน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครองให้ผู้หญิงได้มีชีวิตรอด ได้ดำเนินการหามาตรการป้องกันเหตุอย่างจริงจัง
จี้แม่ทัพภาค 4 เร่งแก้ปัญหา
มีรายงานว่า นายสมมาศ มะมุพิ นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดยะลา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนักว่า เหตุการณ์สังหารผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยฯครั้งนี้ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะผู้เสียชีวิตทั้งสามเป็นไทยพุทธทั้งหมด จึงเกรงสถานการณ์จะบานปลาย เจ้าหน้าที่รัฐในพี้นที่ตั้งแต่ระดับสูงสุดอย่างแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ต้องเร่งสืบหาตัวคนร้าย แต่อย่ารีบด่วนสรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ต้องหาหลักฐานให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ นายสมมาศ ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าหารือกับทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อวางแนวทางแก้ไขและดูแลความปลอดภัยให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ด้วย
คนร้ายใช้ปืน 6 กระบอกยิงคณะ ผญบ.
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .223 จำนวนกว่า 50 ปลอก ซึ่งส่วนใหญ่พบอยู่บนเนินดินข้างทาง และบนถนน ปลอกกระสุนปืนเหล่านั้นยิงมาจากอาวุธปืนจำนวน 6 กระบอก เป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนเอชเค 33 จำนวน 1 กระบอก ในจำนวนนี้มีอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 กระบอกที่มีประวัติอยู่ในสารบบของเจ้าหน้าที่ คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ 3 ครั้งใน อ.กรงปินัง อ.ยะหา จ.ยะลา จึงสามารถชี้ชัดได้ว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกันกับกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ยะหา อ.กรงปินัง และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เผยว่า หลังก่อเหตุฆ่าผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยฯ กลุ่มคนร้ายได้รื้อค้นในรถกระบะ และได้ขโมยเงินสดไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาทในรถหลบหนีไปด้วย
"ทวี"เป็นประธานรดน้ำศพ
ที่ฌาปนสถานเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและวางพวงหรีดหน้าหีบศพผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านกาสังใน ที่เสียชีวิตจากการถูกลอบยิง โดยมีข้าราชการระดับสูงทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ไปร่วมพิธีกันจนแน่นศาลา บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต.พร้อมด้วย นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาของงศูนย์ปฏิบัติการเยียวยา จ.ยะลา ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เบื้องต้นรายละ 5 แสนบาท
แม่ทัพ4รับตำแหน่ง ผอ.รมน.ภาค4สน.
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก พร้อมด้วย พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ได้ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายสิรินธรเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้ร่วมพิธีลงนามรับ-ส่งหน้าที่ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระหว่าง พล.อ.สกล กับ พล.ท.วลิต ด้วย
พล.ท.วลิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับโอกาสให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 และขอสัญญาว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนประสานงานและบูรณการกับหน่วยงานอื่นๆ ในการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และให้พี่น้องประชาชนมีความสงบสุข อยู่ดีกินดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้ง จะสานต่อเจตนารมของ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำความสงบสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป
ยิงอดีตผู้ช่วย ผญบ.บาเจาะสาหัส
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีเหตุรุนแรงต่อเนื่อง เวลา 18.15 น.วันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ นายอาแซ หะยีสาวี อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 4 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บาเระเหนือ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดขณะกำลังปั่นจักรยานออกกำลังการยอยู่บนถนนทางแยกเข้าบ้านอีโยะ หมู่ 5 ต.บาเระเหนือ
เวลา 16.45 น.วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.มายอ จ.ปัตตานี เข้าตรวจสอบเหตุมีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 54 หมู่ 2 ต.กะหวะ อ.มายอ ตามที่รับแจ้งจากชาวบ้าน เมื่อเข้าไปถึงพบศพ นายการียา ฮาแว อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะและต้นคอ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชั่วโมง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ (ขวา) ในพิธีรับมอบหน้าที่ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จาก พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษาพิเศษ กองทัพบก
2 พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา
3 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. มอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติของคณะผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยที่ถูกยิงเสียชีวิต
4 พล.ท.วลิต กำลังพูดคุยทักทายกับผู้นำศาสนาหลังรับมอบหน้าที่ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า