ป.ป.ช.จัดที่รับนายกฯแจงจำนำข้าวไม่หวั่นโดนล้อม
"เลขาฯป.ป.ช." เตรียมจัดที่รับรอง "นายกรัฐมนตรี" แจงโครงการจำนำข้าวที่สนามบินน้ำ ไม่หวั่นกวป.ล้อม
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีในวันที่ 31 มี.ค. จะครบกำหนดที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีละเว้นไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่มีความเสียหายเกิดขึ้น ว่า เบื้องต้นทางสำนักงานป.ป.ช.ได้เตรียมสถานที่รองรับการมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทั้งการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรหรือจะมาชี้แจงด้วยตัวเองทางวาจาไว้ที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี โดยจะมีเจ้าหน้าที่สำนักงานป.ป.ช.รวมทั้งกรรมการป.ป.ช. เข้าทำงานตามปกติ เนื่องจากขณะนี้กลุ่มกวป.ยังไม่มีการไปปิดล้อมที่สำนักงานป.ป.ช. ที่สนามบินน้ำ
"หากมีเหตุการณ์จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ทางสำนักงานป.ป.ช.ก็ได้จัดเตรียมสถานที่สำรองไว้รองรับอยู่แล้ว คือ ที่สำนักงานป.ป.ช.ถนนพิษณุโลก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือทนายความว่าจะมาชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรหรือจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งนี้คาดว่าจะได้รับการประสานในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.) " นายสรรเสริญ กล่าว
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบนโยบายว่าจะไม่ย้ายสถานที่รับชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คือ ที่สำนักงานป.ป.ช.สนามบินน้ำ เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะที่เป็นองค์คณะไต่สวนสามารถที่จะมอบหมายให้กรรมการ ป.ป.ช.ท่านใดท่านหนึ่งไปรับฟังการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ เพราะยังมีกรรมการ ป.ป.ช.บางท่านที่ไม่ได้ถูกคัดค้านจากกลุ่มผู้ชุมนุมกวป. โดยจะนำการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ในภายหลัง ดังนั้นกลุ่มกวป.ไม่ควรจะมาปิดล้อมไม่ให้ท่านนายกฯมาชี้แจงได้ เพราะจะเป็นการตัดสิทธิ์ของตัวเองที่จะเข้ามาชี้แจงเพื่อขอสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติม อย่างน้อยในวันพรุ่งนี้ก็ควรจะส่งทนายความมายื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน ส่วนหากต้องการที่จะมาชี้แจงด้วยตัวเองด้วยก็แจ้งความประสงค์ว่าจะมาอีกในภายหลังก็ได้
นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ตามขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อได้รับคำชี้แจงแล้ว คณะทำงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสำนวนดังกล่าวก็จะพิจารณาคำชี้แจงว่าผู้ถูกกล่าวหาได้ขอสืบพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและเอกสารหลักฐานใดเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์คณะไต่สวนทั้งคณะเพื่อพิจารณาว่าจะอนุมัติให้สืบพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่ผู้ถูกกล่าวหากล่าวอ้างหรือไม่ เพราะถ้าหากพยานหลักฐานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนวนคดีหรือมีอยู่ในสำนวนเดิมอยู่แล้วก็อาจจะไม่จำเป็นต้องสืบพยานและเรียกเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้คณะกรรมการป.ป.ช.จะไม่พิจารณาในวันที่ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงในวันที่ 31 มี.ค.ในทันทีเพราะต้องให้คณะทำงานไปศึกษาเพื่อนำเข้าสู่ในที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อพิจารณาในวันถัดไปว่าจะมีมติอนุญาตหรือไม่ ส่วนจะชี้มูลได้เมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาลและไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช.
ขอบคุณข่าวจาก