ปชป.ประชุมใหญ่ประจำปี เสนอพิมพ์เขียวประเทศ-ปฏิรูป7ด้าน
นายอภิรักษ์โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเปิดประชุมสมัชชาประชาชน-ประชาธิปัตย์ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ในหัวข้อ พิมพ์เขียวประเทศไทย-ข้อเสนอปฏิรูป 7 ด้าน ตอนหนึ่งว่า พรรคจะผลักดันให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม คือ ตำรวจ ไปจนถึงกระบวนการอัยการและศาลยุติธรรม โดยต้องให้ทำงานอย่างรวดเร็ว และไม่สองมาตรฐาน ปฏิรูปการศึกษาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเยาวชนและสังคม ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผลักดันให้แก้กฎหมายคดีทุจริตไม่มีอายุความ ส่งเสริมศักยภาพการทำงานขององค์กรอิสระให้ทำงานเชิงรุก รวมถึงการวางแนวทางในการตรวจสอบภาษีย้อนหลังนักการเมืองและผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างให้เทียบเท่ากับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และยังต่อยอด หลักสูตรโตไปไม่โกงที่ กทม.ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า พรรคจะผลักดันให้ปฎิรูประบบบริหารงานภาครัฐและรัฐ วิสาหกิจ โดยต้องจัดตั้งสภาพลเมืองเพื่อตรวจสอบนักการเมืองทั้งท้องถิ่นและส่วนกลางที่ผูกขาดด้านพลังงาน เพราะปัจจุบันประชาชนใช้พลังงานในราคาสูงเนื่องจากถูกผูกขาดของปตท. โดยระบบสัมปทานต้องมีการแข่งขันอย่างเท่าเทียม ส่วนด้านการลดความเหลื่อมล้ำนั้น ทั้งเรื่องการประกันรายได้เกษตรกร กองทุนการออมแห่งชาติ และปัญหาที่ดินทำกินมีการปฏิรูประบบที่ดิน จะเสนอกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สรุปแนวคิดปฏิรูปประเทศ ว่าจากการลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากประชาชนและฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนำมาทำเป็นพิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศ โดยมีเป้าหมายว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์ ประชาชนต้องมีอำนาจมากขึ้น และประเทศต้องดีกว่าปัจจุบัน
ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องแก้อันดับแรกคือ ปัญหาการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่โปร่งใส โดยเพิ่มโทษคดีทุจริตเลือกตั้งให้มากขึ้น หากเป็นนักการเมืองควรเพิ่มโทษมากกว่าการให้เว้นวรรคการเมือง 5 ปี และคดีเลือกตั้งต้องมีกรอบเวลา รวมทั้งต้องรับผิดชอบต่อนโยบายประชานิยมที่นำเสนอ อาจถึงขั้นแสดงที่มาของรายได้ที่จะใช้ในโครงการด้วย
สำหรับการปฏิรูปการทุจริตคอรัปชั่นนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคมีแนวทางว่า ต่อไปนี้คดีทุจริตจะต้องไม่มีอายุความ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอันเป็นหัวใจสำคัญในการใช้อำนาจรัฐจะต้องพัฒนาไปถึงขึ้นเป็นพรบ.เพื่อลดการหลีกเลี่ยง ต่อไปนี้ประเทศไทยต้องมีพรบ.ฉบับหนึ่งที่จะอนุมัติว่าต้องเป็นไปด้วยพันธสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นสากล ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะทำให้สามารถยึดทรัพย์จากการทุจริตและนำเงินไปซุกไว้ในต่างประเทศไทย และต้องมีกระบวนการจัดการกับการทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งต้องไปคิดต่อว่าต้องทำอย่างไร นอกจากนี้การไต่สวนคดีทุจริตสำคัญของป.ป.ช. ต้องให้ทุกฝ่ายยอมรับอำนาจการถ่วงดุล คนที่อยู่ในอำนาจรัฐจะต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เพื่อให้สาธารณะตรวจสอบได้ ต้องบรรจุหลักสูตรโตไปไม่โกงไว้ในหลักสูตรการศึกษา ประชาชนต้องได้รับสิทธิในการฟ้องร้องผู้ใช้อำนาจรัฐในคดีทุจริตได้เองได้ ไม่ใช่รออัยการเพียงอย่างเดียว และสุดท้ายเราต้องปฏิรูปโดยการสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนทุกฝ่ายยอมรับกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งต้องนับหนึ่งที่รัฐบาลชุดนี้
การปฏิรูปเรื่องการกระจายอำนาจนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงในจังหวัดที่มีความพร้อม ต้องเพิ่มรูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นเช่นเดียวกับพัทยาในเมืองหน้าด่านชายแดน ต้องมีสภาภาคพลเมือง หน่วยการปกครองท้องถิ่นควรได้รับงบประมาณตรงจากรัฐบาล โดยไม่ผ่านกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และสุดท้ายต้องให้ท้องถิ่นบริหารตัวเองได้ด้วยการเก็บภาษีเองได้
ส่วนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม นายจุรินทร์ กล่าวว่า เริ่มจากการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งถึงเวลาที่ต้องมีคณะกรรมการตำรวจจังหวัดที่อาจจะมาจากประชาชนเลือก เพื่อตรวจสอบการทำงานของตำรวจ ต้องถ่ายโอนภารกิจของตำรวจที่ไม่จำเป็นให้กับท้องถิ่น เช่นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการจราจรในเขตเทศบาล ในเขตเมือง การปรับในคดีทั่วไปเกี่ยวกับพรบ.รักษาความสะอาด และให้ตำรวจทำหน้าที่หลักของตำรวจคือการสืบสวน สอบสวน ปราบปรามและดำเนินคดี ส่วนอัยการนั้น พรรคเสนอว่าการสั่งคดีของอัยการจะต้องมีระบบการตรวจสอบ
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงแนวทางปฏิรูปการศึกษา เริ่มจากการปฏิรูปครู โดยปรับปรุงกระบวนการสอน การเรียนที่เน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำ ต้องปฏิรูปหลักสูตร และให้องค์กรปกครองท้องถิ่นต้องมามีบทบาทมากขึ้น โรงเรียนดีประจำท้องถิ่นต้องมีต่อไป โรงเรียนเอกชนต้องมีบทบาทมากขึ้น และโรงเรียนเฉพาะทางต้องมีมากขึ้น นอกจากนี้ยังเสนอแนวทางแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยปฏิรูประบบสวัสดิการ ขยายประกันสังคม ต้องมีบำนาญประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงนำเสนอแนวทางปฏิรูปสื่อ ว่าต้องมีพรบ.คุ้มครองวิชาชีพสื่อ เพื่อไม่ให้ถูกครอบงำโดยผู้มีอำนาจรัฐ และอำนาจทางการเมือง ทั้งนี้พรรคจะนำข้อเสนอเหล่านี้ไปพิจารณาเพื่อนำเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศในนามพรรค เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมในอนาคตต่อไป