'บิ๊กตู่'สั่งลาดตระเวนเพิ่มป้องยิงM79
'ประยุทธ์' ชี้คนร้ายขับรถขณะยิงเอ็ม 79 ถล่มไทยพีบีเอส สั่งเพิ่มความถี่ลาดตระเวนทางด่วน-โทลล์เวย์ ส่งทหารประจำอาคารสูงรอบเวทีกปปส. หวั่นตกเป็นเป้า
27 ก.พ. 57 ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ.เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ ซึ่งที่ประชุมได้ย้ำให้กำชับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างเข้มงวด ภายหลังมีการก่อเหตุมากขึ้น ทั้งนี้ ผบ.ทบ.สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นของกองทัพบกไปตรวจเยี่ยมกำลังพล
ต่อมาเวลา 09.30 น. พล.ต.สุรเดช เฟื่องเจริญ เจ้ากรมกำลังพลทหารบกได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติงานสนับสนุนศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ และสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ รวมถึงสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ถูกยิงเอ็ม 79 เมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา
"ผู้บังคับบัญชาห่วงใยกำลังพลที่ไปปฎิบัติงานดูแลประชาชนและสถานที่ต่างๆ โดยย้ำให้ทำหน้าที่ด้วยความอดทน ยึดคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด พร้อมให้ปรับการทำงานตามสถานการณ์ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเกิดเหตุระเบิด ที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ส่วนกำลังพลที่ดูแลตามจุดตรวจในพื้นที่การชุมนุมต่างๆ ให้ปรับเพิ่มจุดตรวจดูแลประชาชนให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ให้มากขึ้น"
จากนั้นเวลา 10.30 น. ที่แยกวิสุทธิกษัตริย์ พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผบ.พล 1 รอ.ในฐานะผู้บังคับบัญชากำลังทหาร กล่าวหลังจากตรวจเยี่ยมชุดปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนตามจุดตรวจความมั่นคงว่า ผบ.ทบ.เน้นให้ดูแลพื้นที่การชุมนุมกปปส.จากเดิม 29 จุดเพิ่มเป็น 176 จุดโดยใช้กำลังพล 56 กองร้อยโดยเน้นพื้นที่รอบการชุมนุมทั้งวงในและวงนอกเพื่อให้ครอบคลุมเนื่องจากที่ผ่านมามีการก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง
"ผบ.ทบ.ไม่สบายใจถึงการใช้อาวุธวิถีโค้ง ไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ จึงสั่งเพิ่มจุดตรวจทหารเพื่อป้องปรามผู้ก่อเหตุ กำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยให้เพิ่มความถี่การลาดตระเวนบนทางด่วนโทลล์เวย์ เพราะสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุใช้วิธีขับรถไปยิงไป สำหรับอาคารสูงในพื้นที่ชุมนุมกปปส.ที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุ ให้จัดเจ้าหน้าที่ประสานกับเจ้าของอาคารเข้าไปดูแลรวมถึงเรื่องกล้องวงจรปิดและส่งทหารขึ้นไปประจำจุด"
พล.ต.วราห์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทหารลาดตระเวนในพื้นที่ 2 จุดใช้เวลา 15-20 นาที แต่จากนี้ไปจะใช้เวลาลาดตระเวนแต่ละจุดน้อยลงเนื่องจากเพิ่มจุดตรวจลาดตระเวนมากขึ้น ทั้งนี้จะให้สารวัตรทหาร (สห.) และหัวหน้าชุดพกอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนพลทหารประจำจุดมีเพียงเสื้อเกราะและให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจยานพาหนะที่ต้องสงสัยจะเข้ามาก่อเหตุรวมถึงการตรวจค้นอาวุธสงคราม ส่วนการดูแลความปลอดภัยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น เบื้องต้นส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาความสงบเพื่อดูแลสถานที่ตามที่ ศรส.กำหนดไว้ ส่วนการอารักขาบุคคลสำคัญนั้น ได้จัดชุดลาดตระเวนไปบ้านพักของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้เกิดความมั่นใจด้านความปลอดภัย
ขอบคุณข่าวจาก