ศอ.รส.แถลงดำเนินคดีแกนนำกปปส.
ศอ.รส.แถลงเดินหน้าดำเนินคดีกปปส.ต่อ ขีดเส้นแกนนำที่เป็นผู้ต้องหา รายงานตัวในสัปดาห์หน้าก่อนส่งอัยการ ฟ้องศาลออกหมายจับ
ที่บช.ปส. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการศอ.รส. แถลงหลังการประชุมศอ.รส.ว่า ศอ.รส.ขอชี้แจงถึงการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเฉพาะกลุ่มแกนนำของกปปส. ที่ได้กระทำผิดอย่างต่อเนื่องต่างกรรมต่างวาระตลอดมา แม้จะได้มีการประกาศยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วก็ตามผลในทางกฎหมายต่อการดำเนินคดีแกนนำผู้กระทำผิด ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่สอบสวนทั้งตำรวจ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการที่เข้าร่วมสอบสวน ยังคงมีหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบและนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับโทษต่อไป
โดยเฉพาะความผิดต่าง ๆ ที่แกนนำได้กระทำไปแล้ว ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ จึงไม่ได้ยกเลิกเพิกถอนไปแต่ประการใด เช่น ความผิดร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงส่งเสริมให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ความผิดการขัดขวางการเลือกตั้งตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน โดยมีแต่หมายจับเฉพาะหมาย ฉ ที่ศาลได้ออกตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เท่านั้นที่สิ้นผลไป
นายธาริต กล่าวว่า ในวันนี้ ศาลอาญาธนบุรีได้อนุมัติหมายจับนายชุมพล จุลใส แกนนำกปปส. ในฐานขัดขวางการเลือกตั้ง จากการที่ได้เป็นแกนนำพามวลชนไปปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งสำนักงานเขตภาษีเจริญ ซึ่งศอ.รส.จะได้กำกับดูแลและเร่งรัดให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเป็นการป้องปรามให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ ยุติการกระทำผิดเสีย และมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะกระทำผิด ในอนาคต
นายธาริต กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมได้มีการซักถามเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มกปปส. ที่ไม่ได้ยกเลิกไปกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งคดีกบฎ และขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้ต้องหาสำคัญทั้ง 58 คน โดยที่ประชุมทางดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการ ได้แจ้งว่าจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยมีกำหนดตามหมายเรียกถึงช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อมารายงานตัวที่บช.ปส. ซึ่งเราประเมินว่าจะไม่มีผู้ต้องหาเข้ารายงานตัว หรือมีมาน้อย แต่ศอ.รส.อยากเตือนอย่างจริงจังว่า หากไม่มาครั้งนี้เราจะสรุปสำนวนส่งอัยการโดยมีความเห็นสั่งฟ้อง เมื่ออัยการมีความเห็นพ้องให้สั่งฟ้อง ผู้ต้องหาก็จะถูกออกหมายจับอย่างแน่นอน ตามระเบียบของประธานศาลฎีกา ที่ระบุว่าเมื่อผู้ต้องหาถูกอัยการสั่งฟ้อง และขอศาลออกหมายจับ ศาลก็จะออกหมายจับทุกกรณี ซึ่งเป็นการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ทั้งนี้ถือว่าจะเป็นการเสียโอกาสในการสู้คดี ของผู้ต้องหาทั้ง 57 คน ยกเว้น นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีต ผอ.สำนักข่าวทีนิวส์ ที่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว จึงขอให้ผู้ต้องหามาตามหมายเรียก
ขอบคุณข่าวจาก