เบื้องหลัง!"จตุพร” ผงาดเบอร์ 1 นปช. กู้ศรัทธา “แดงฮาร์ดคอร์”?
“...คุณตู่ได้รับการยอมรับมากกว่าคุณธิดา เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงกลุ่มต่าง ๆ เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เช่น กลุ่มคนเสื้อแดงใน 50 เขต กทม. ที่ได้แสดงออกว่าต่อไปนี้กลุ่ม 50 เขต กทม. จะเหนียวแน่นขึ้นเมื่อเปลี่ยนตัวประธานคนใหม่ ...”
กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาในทันที
ภายหลัง “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ส่งต่อไม้ผลัด “เบอร์ 1 คนเสื้อแดง” ให้ “จตุพร พรหมพันธ์” อดีต ส.ส.เพื่อไทย และเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของ นปช. มานั่งเก้าอี้ตำแหน่ง “ประธาน” ต่อจากตนเอง และนำ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รักษาการรมช.พาณิชย์ ขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการ นปช. อีกครั้ง ในการชุมนุม นปช. ครั้งใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยนางธิดา ระบุเหตุผลว่า “นปช. จำเป็นต้องมีผู้นำใหม่เพื่อนำชัยในสถานการณ์สู้รบครั้งสำคัญ”
นายจตุพร จึงกลายเป็นประธาน นปช. รุ่นที่ 3 ต่อจากนายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ และนางธิดา ถาวรเศรษฐ
อย่างไรก็ดี แม้ฉากหน้าจะเต็มไปด้วยบรรยากาศยินดีปรีดา มีการจุดพลุฉลองกันใหญ่โต ทว่ายังมีหลายฝ่ายสงสัยว่าการเปลี่ยนถ่ายโอนย้ายอำนาจในครั้งนี้มีเหตุผลอะไรแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ?
ทั้งนี้หากยังจำกันได้ภายหลังเหตุการณ์เมษายน – พฤษภาคม 2553 แกนนำคนสำคัญของ นปช. ต่างพาเหรดกันติดคุก รวมไปถึงนายวีระกานต์ ประธาน นปช. ในขณะนั้นด้วย จึงมีเหตุจำเป็นให้นางธิดา ภรรยานพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำ นปช. จำเป็นต้องรักษาการตำแหน่งประธานไว้เป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ดีนางธิดา กลับไม่เป็นที่ชอบใจของบรรดาเหล่า “แกนนำฮาร์ดคอร์” สักเท่าไหร่นัก โดยส่อเค้าลางมาตั้งแต่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน), พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำแท็กซี่เสื้อแดง ออกมาเรียกร้องให้นางธิดา ลาออกจากการรักษาการประธาน นปช.
โดยระบุว่านางธิดาเป็นเผด็จการ และต้องการครอบครองมวลชนคนเสื้อแดงไว้แต่เพียงฝ่ายเดียว
ร้อนถึงนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ต้องเข้ามาประสานเป็นตัวกลาง เคลียร์ใจให้กับบรรดาแกนนำฮาร์ดคอร์ อย่างไรก็ดีรอยร้าวครั้งนั้นยากเกินกว่าจะประสานได้ จนเหล่าฮาร์ดคอร์ต่างแยกออกไปตั้งฐานมวลชนของตัวเองในที่สุด
แม้นว่าความแตกแยกในกลุ่ม นปช. ยังคงครุกรุ่น แต่นางธิดา ก็ได้รับการผลักดันจากบรรดาแกนนำคนสำคัญรุ่นเก่า ๆ เช่นนายวีระกานต์, นพ.เหวง, นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ให้ผงาดก้าวสู่ตำแหน่งประธาน นปช. อย่างเต็มตัว
แต่บรรดาแกนนำฮาร์ดคอร์ รวมไปถึงแกนนำจากภาคอีสานต่างก็ยังไม่ยอมรับนางธิดา ที่ได้รับตำแหน่งประธาน นปช. อยู่ดี
เห็นได้จากนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ และแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นางธิดาอย่างเผ็ดร้อนภายหลัง นปช. กดดันรัฐบาลให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม และการจัดตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดง ส่งผลให้ประกาศว่าจะไม่ยอมขึ้นตรงกับ นปช. อีกต่อไป หากยังมีนางธิดา เป็นประธานอยู่
ขณะเดียวกันนายชินวัฒน์ แกนนำแท็กซี่คนเสื้อแดง ซึ่งเคยขัดแย้งกับนางธิดามาแล้วก่อนหน้านี้ ก็ออกมารับลูกสนับสนุนนายขวัญชัยอย่างเต็มที่
จนมีหลายฝ่ายคาดว่าความขัดแย้งดังกล่าวร้าวลึกจนเสมือนเป็นการ “สร้างดาวคนละดวง” ระหว่างนางธิดา และแกนนำฮาร์ดคอร์ไปเสียแล้ว !
และร้อนถึงนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ อีกคำรบ ที่ต้องทำตัวเป็นกาวใจประสานรอยร้าวดังกล่าวอีกครั้ง
แต่ว่าในสถานการณ์สำคัญ ที่เตรียมพร้อมจะสู้รบแตกหักกับฝ่าย “อำมาตยาธิปไตย” ที่คนเสื้อแดงชอบกล่าวถึงนั้น การเปลี่ยนแปลง “แม่ทัพ” ในครั้งนี้ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้การเคลื่อนขบวนใหญ่ในคราวนี้ สำเร็จเป็นรูปธรรม เหมือนสมัยที่ยาตราทัพเข้าสู่ กทม. เหมือนสมัยปี 2552 – 2553 หรือไม่
และ “จตุพร” จะสามารถประสานรอยร้าว ที่บาดลึกในสมัย “ธิดา” เป็นประธานได้จริงหรือ ?
แหล่งข่าวระดับแกนนำ นปช. รายหนึ่ง เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อปีกลายบรรดาแกนนำ รวมถึงมวลชนคนเสื้อแดงบางส่วนเคยผลักดันเสนอให้นายจตุพร ขึ้นเป็นประธานแล้ว
แต่นายจตุพรเขาปฏิเสธ และอ้างว่าป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังอยู่ ดังนั้นนางธิดา จึงเป็นประธานต่อไปก่อน
“แต่ตอนนี้เขาหายเป็นปกติแล้ว เขาก็ทำตามที่เราต้องการมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ ดังนั้นเหตุการณ์เปลี่ยนตัวประธานเมื่อคืน เป็นการนำเรื่องเดิมเข้าที่ประชุมอีกครั้ง ส่งผลให้ตำแหน่งประธาน นปช. เป็นของคุณตู่ – จตุพร และให้คุณเต้น – ณัฐวุฒิขึ้นเป็นเลขาธิการ” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าวรายนี้ เชื่อว่า การที่นายจตุพรขึ้นเป็นประธาน นปช. นั้น คนเสื้อแดง รวมถึงแกนนำระดับอื่น ๆ เกือบทั้งหมดเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นคนที่คอยประสานรอยร้าวให้กับกลุ่ม นปช. ตลอดมา และเป็นลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง มีความหนักแน่นที่จะสมานรอยร้าวภายในกลุ่มได้ดีกว่า อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่านางธิดาไม่ดี แต่เขามีความบกพร่องกับคนหมู่มาก และมีปัญหาในเรื่องการสร้างความสามัคคีในกลุ่ม
“คุณตู่ได้รับการยอมรับมากกว่าคุณธิดา เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงกลุ่มต่าง ๆ เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เช่น กลุ่มคนเสื้อแดงใน 50 เขต กทม. ที่ได้แสดงออกว่าต่อไปนี้กลุ่ม 50 เขต กทม. จะเหนียวแน่นขึ้นเมื่อเปลี่ยนตัวประธานคนใหม่ จากที่แต่ละเขตเคยมีปัญหากับคุณธิดา หรือมีปัญหากับคณะแกนนำเป็นบางส่วน ดังนั้นเมื่อคุณตู่มา มันจะไม่มีรอยร้าว หรือว่าสิ่งที่ทำให้ไม่สนิทใจคงไม่เกิดขึ้นอีก” แหล่งข่าว ยืนยัน
นอกจากนี้ แหล่งข่าวรายนี้ ยังเชื่อว่า การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานของนายจตุพร จะทำให้แดงอิสระอื่น ๆ เช่น กลุ่มของนายวุฒิพงศ์ หรือ “โกตี๋” ที่เขาไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของ นปช. และแยกออกไปตั้งกลุ่มอิสระของเขานั้น อาจจะทำให้เขากลับมารวมกลุ่มกับ นปช. อีกครั้งก็เป็นได้
ดังนั้นด้วยหลากหลายเหตุผลดังกล่าว การที่นายจตุพร ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งประธาน นปช. จึงเสมือนเป็นจุดรวมจิตใจ
และอาจกู้คืนศรัทธาของเหล่าแกนนำฮาร์ดคอร์ และบรรดากองเชียร์แดงอิสระต่าง ๆ เข้ามาสู่ร่มเงาของ นปช. อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นไปได้ !
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก oknation