“พร้อมพงศ์”ยื่นเสียภาษีมีรายได้“การเกษตร”น้อยกว่าแจ้ง ป.ป.ช. 5 ล้าน
เปิดหลักฐานแบบแสดงเสียภาษีเงินได้ “พร้อมพงศ์”แจ้งมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรแค่ 1 ล้านเศษ ต่ำกว่าข้อมูลแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. กว่า 5 ล้าน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และโฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ารายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตว์ จำนวนเงิน 6,750,600 บาท ที่แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 เป็นรายได้ที่เหมาะสมแล้ว เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่าน ผลผลิตทางการเกษตรที่พ่อทำไว้หลายอย่าง ได้ผลกำไรดีขึ้น เมื่อขายได้เยอะนายพร้อมพงศ์ก็ได้ส่วนแบ่งเยอะขึ้นไปด้วย
แต่ทว่าข้อมูลที่ปรากฏในแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ ที่นายพร้อมพงศ์ ยื่นเป็นหลักฐานประกอบการในการแจ้งตัวเลขรายได้ส่วนนี้ ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่นายพร้อมพงศ์ชี้แจงต่อสาธารณะ
(อ่านประกอบ:“พร้อมพงศ์”ยันรายได้เกษตร 6 ล.“พ่อ”แบ่งให้-สื่ออย่าเขี่ยบอลให้ป.ป.ช.สอบ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 ปี ภาษี 2555 ของนายพร้อมพงศ์ ที่แนบประกอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ วันที่ 9 ธันวาคม 2556 พบว่า ระบุเงินได้จากการเกษตรทำสวนยางสวนมะพร้าวไว้ 1,000,0000 บาท แต่หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 80 หรือคิดเป็นเงิน 800,000 บาท คงเหลือ 200,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการระบุเงินได้จากการทำการเกษตรเลี้ยงสัตว์ ไว้ที่ 600,000 บาท หักค่าใช้จ่าย 510,000 บาท คงเหลือ 90,000 บาท
@ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 ปี ภาษี 2555
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ แจ้งข้อมูลต่อป.ป.ช. ในช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ว่า มีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตร , เลี้ยงสัตว์ ในช่วงดำรงตำแหน่ง ส.ส. เป็นจำนวนเงินถึง 6,750,600 บาท
@บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556
ทั้งนี้ หากนำข้อมูลตัวเลขเงินได้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ปีภาษี 2555 ซึ่งอยู่ที่ตัวเลข 1,600,000 บาท มาเปรียบเทียบกับรายได้ที่นายพร้อมพงศ์ แจ้งไว้ เท่ากับว่า ในปี 2556 นายพร้อมพงศ์จะมีรายได้ส่วนนี้ เพิ่มขึ้นมาอีกเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5,150,600 บาท
อย่างไรก็ตาม หากเฉลี่ยเงินได้จากผลผลิตทางการเกษตร,เลี้ยงสัตว์ ที่นายพร้อมพงศ์ แจ้งไว้ในในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ปี 2555 มาเฉลี่ยรายได้ 12 เดือน หากคิดจากรายได้ที่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย คือ 1,600,000 บาท จะอยู่ที่ 133,333.33 บาท
แต่ถ้าคิดจากรายได้ที่หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 80 คือ 290,000 บาท จะอยู่ที่ 24,166.66 บาท
แต่หากนำรายได้จาก จากผลผลิตทางการเกษตร,เลี้ยงสัตว์ ที่นายพร้อมพงศ์ แจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. จำนวนเงิน 6,750,600 บาท มาเฉลี่ย 28 เดือน (ตามระยะเวลาที่นายพร้อมพงศ์ระบุ) นายพร้อมพงศ์ จะต้องมีรายได้ส่วนนี้ เข้ามาเดือนละประมาณ 241,092.857 บาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวชี้แจงกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า “ถ้าคำนวณดูแล้วตั้งแต่ผมแจ้งบัญชีทรัพย์สินตอนเข้ารับตำแหน่ง กับตอนสิ้นสุดตำแหน่งก็ 2 ปี 4 เดือน เงินที่ได้จากผลผลิตทางการเกษตรได้มา 6 ล้านกว่า เท่ากับว่าผมมีรายได้จากผลผลิตทางเกษตรแค่เดือนละไม่กี่แสนบาท ก็ถือว่าสมเหตุสมผล”
จากการตรวจสอบข้อมูลในแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 ปีภาษี 53 ที่นายพร้อมพงศ์ นำมาแสดงประกอบไว้ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. ช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 พบว่ามีการแจ้งยอดรายได้จากผลผลิตทางการเกษตร ไว้ตรงกับ ตัวเลขรายได้ ที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สิน คือ 930,000 บาท และเป็นตัวเลขที่ยังไม่มีการหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 80 แต่อย่างใด
@บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. ช่วงเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554
@ แบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 ปีภาษี 53