ดร.ปิยสวัสดิ์ หวั่นปฏิรูปพลังงานผิดทิศผิดทาง ก่อหายนะมหาศาล
อดีตรมว.พลังงาน ชี้ปัจจุบันเรากำลังหลงประเด็น เชื่อข้อมูลโลกออนไลน์ หวั่นจะนำไปสู่การทำนโยบายที่ผิดพลาดในอนาคต ด้าน “บรรยง พงษ์พานิช” ยันโครงสร้างอุตฯ พลังงานไทย วางไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ไม่ต้องปฏิรูปใหญ่โต หรือรื้อเหมือนเรื่องอื่นๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ อาคารชาญอิสระ 2 ชั้น 30 ถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน บรรยายทางวิชาการถึงการปฏิรูปพลังงาน
ตอนหนึ่งของการบรรยาย ดร.ปิยสวัสดิ์ แสดงความเป็นห่วง โดยหวั่นว่า ในอนาคตอาจมีการปฏิรูปพลังงานในทิศทางที่ผิดจนกระทั่งส่งผลเสียหายแก่ประเทศไทย โดยเฉพาะหากประชาชนเชื่อในข้อมูล ไม่มีการศึกษาต่อ และมี Hate speech จำนวนมากในสังคมออนไลน์ กระทั่งนำไปสู่กระแสสังคมที่บีบบังคับรัฐบาลใครก็ตามที่จะเข้ามาปฏิรูปประเทศ ให้ดำเนินการตามนั้น
สำหรับความจำเป็นขณะนี้ควรปฏิรูปพลังงานหรือไม่ ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ต้องไม่ปฏิรูปแบบให้ทวงคืนปตท. กลับมาเป็นของรัฐ แต่ในเรื่องโครงสร้างราคายอมรับว่า ควรมีการแก้ไข หรือราคาน้ำมัน โรงกลั่น การแข่งขันที่อาจน้อยไป ก็ให้ปตท.เข้าไปอยู่ในกฎหมายการแข่งขันทางการค้า อย่าไปยกเว้นรัฐวิสาหกิจ
“ขณะที่กิจการแก๊ส อย่างเก่งที่สุดก็เปิดให้บริการท่อ ส่วนการพัฒนาปิโตรเลียมที่ขาดความต่อเนื่องและจะมีผลเสียระยะยาวนั้น เสนอให้นำพื้นที่ทหารในภาคเหนือ ดึงเข้ามาอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม”
ส่วนผลประโยชน์ทับซ้อนของข้าราชการที่เข้าไปนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เรื่องการกำกับดูแลรัฐ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า ก็ต้องคิดออกแบบกระบวนการใหม่ ไม่ให้มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ รวมถึงการออกใบอนุญาต รง.4 ที่องค์กรพัฒนาเอกชนไม่เคยหยิบยกขึ้นมาพูดเลย
ดร.ปิยะสวัสดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เราหลงประเด็น นำไปสู่การทำนโยบายที่ผิดพลาด เช่น ปิโตรเลียมในประเทศมีน้อยลง เราก็ควรไปเร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ทำเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน การมัวแต่ทวงคืนปตท.ด่าปตท. คนที่ชอบมากก็คือนักการเมืองที่สามารถกอบโกยผลประโยชน์ในรัฐวิสาหกิจได้อย่างเงียบโดยไม่มีใครมายุ่งเลย
" ผมคิดว่า รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ควรดันไปให้ไกลจากมือนักการเมืองมากที่สุด โดยเฉพาะช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า รัฐบาล นักการเมืองสามารถทำอะไรที่เก่งมาก อย่างที่ไม่เคยคิด สามารถตั้งคนเข้ามาเป็นบอร์ด การแทรกแซงมีมหาศาล โดยนักการเมืองชอบให้มีรัฐวิสาหกิจไว้ ได้ล้วงไปกินโดยตรงง่ายกว่ามาก การซื้อหุ้น หรือการไปลงทุนในแหล่งสัมปทาน”
ขณะที่นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ บริษัท หลักทรัพย์ ภัทร จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงการปฏิรูปพลังงาน ซึ่งเมื่อดูโครงสร้างอุตสาหกรรมพลังงานของไทยแล้ว เห็นว่า ได้วางไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ไม่ได้ต้องการการปฏิรูปใหญ่โต หรือต้องรื้อเหมือนเรื่องอื่นๆ เพียงแค่ต้องการปรับ เช่น เรื่องโครงสร้างราคา โครงสร้างภาษี มากกว่าอยู่เฉยๆ
“ในความรู้สึกของผม พลังงาน ไม่ได้ต้องการการปฏิรูปพลังงานใหญ่โตเหมือนด้านอื่นๆ เช่น ความเหลื่อมล้ำ หรือเรื่องคอร์รัปชั่น” นายบรรยง กล่าว และว่า ส่วนข้อเรียกร้องให้ปตท.กลับมาเป็นของรัฐด้วยว่า จะเกิดความหายนะในทุกๆ ด้าน ฉะนั้น ทางออก คือ ควรทำตรงข้าม ปล่อยให้สุดซอย “แปรรูป” ให้เป็นของตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างแท้จริง แต่จะทำอย่างไร ทั้งการปรับโครงสร้าง หรือกิจการที่ผูกขาด อย่างท่อแก๊ส การครอบงำตลาด เป็นเรื่องที่ต้องคิดกันต่อไป แต่ไม่ใช่วิธีการยึดคืน
นายบรรยง กล่าวด้วยว่า ทางเลือกของการทวงคืนปตท.เป็นทางหายนะแน่ๆ ทั้งตลาดทุน ระบบเศรษฐกิจ พลังงานที่มีการวางรากฐานมาอย่างดี ขณะที่อีกทางคืออยู่อย่างนี้และแก้หรือปรับบางส่วน เช่น เรื่องของท่อแก๊ส