พบหลักฐาน"มิสเตอร์เฉิน"คนปล่อยกู้"เมียอริสมันต์"บุคคลล้มละลาย

ขุดราชกิจจานุเบกษามัด "มิสเตอร์เฉิน" คนปล่อยกู้ "เมียอริสมันต์" ลูกหนี้คดีล้มละลาย ปรากฎรายชื่อพร้อม บ.เม้งไต๋ –หุ้นส่วนชางจีน ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ประกาศเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา 

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ที่อยู่ของนายจุ้งเชียงเฉิน อดีตกรรมการบริษัทค้าข้าวแห่งหนึ่ง ผู้ชนะประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาล จำนวนกว่า 1.1 ล้านตัน เพียงรายเดียว ในสมัยที่ นางพรทิวา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งปรากฎรายชื่อเป็นผู้ให้กู้ยืมเงินกับนางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ภรรยา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 5 ล้านบาท คือ เลขที่ 95 หมู่ 13 อ.ม่วงสามสิบ อุบลราชธานี พบว่า ที่ตั้งดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของโกดังเก็บข้าวแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี และถูกขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินที่ถูกนำมาประกาศขาย โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งราคาไว้ที่ 650 ล้านบาท 

(อ่านประกอบ: “โกดังเก็บข้าวร้าง”ถูกใช้เป็นที่อยู่“มิสเตอร์เฉิน”คนปล่อยกู้“เมียอริสมันต์”)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

โดยปรากฎรายชื่อ นายเฉิน จุ้งเชียง หรือ นายจุ้งเชียงเฉิน เป็นหนึ่งในรายชื่อลูกหนี้ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ไว้เด็ดขาด เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา พร้อม บริษัทเม้งไต๋ จำกัด นายเฉินโซซัง หรือ นายโซซังเฉิน  และนางสุพรรณ เฉิน 

โดยมีเจ้าหนี้  คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คดีหมายเลขแดงที่ ล.2784/2556 

(ดูรายละเอียดในตาราง)  

ในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า ด้วยศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ไว้เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่เพียงผู้เดียวมีอำนาจ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483  

ทั้งนี้ เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ ผู้เป็นโจทก์ หรือไม่ก็ตาม ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการ กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ภายใน กำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณา ในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 3 ธันวาคม 2556 ซึ่งสามารถตรวจดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ของกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษา

ประกาศ ณ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2556 

ลงชื่อ ศศิธร คฤโฆษ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์  

(ดูประกาศฉบับเต็มที่นี http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/D/128/7.PDF)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางระพิพรรณ แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ต่อ ป.ป.ช. ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ว่า ได้กู้ยืมเงิน นายจุ้ง เชียงเฉิน เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท

โดยแสดงสัญญากู้เงิน เป็นกระดาษ เอ4 ลงวันที่ 1 กันยายน 2555  

ทั้งนี้ สาระสำคัญในสัญญาระบุว่า นายจุ้ง เชียงเฉิน  ตกลงให้ นางระพิพรรณ กู้เงินเป็นจำนวน 5,000,000 บาท และในวันทำสัญญาฉบับนี้ นางระพิพรรณ ได้รับเงินจำนวน 1,000,000 บาท จาก นายจุ้ง เชียงเฉิน ไปแล้วตั้งแต่วันที่ทำสัญญา ส่วนเงินที่เหลืออีก 4 ล้านบาท นายจุ้ง เชียงเฉิน จะให้ นางระพิพรรณ กู้เป็นงวดๆ 5 แสนบาท เป็นเวลา 8 งวด จนกว่าจะครบตามจำนวนเงินทั้งหมด (ไม่ได้ระบุวันเวลาชัดเจนว่าแต่ละงวดจ่ายเงินให้เมื่อไร) 

ขณะที่ นางระพิพรรณ ยินยอมชำระดอกเบี้ยให้ นายจุ้ง เชียงเฉิน ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจนถึงวันที่ชำระเสร็จสิ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5.4 ล้านบาท

โดยนางระพิพรรณ ตกลงชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย คืนในวันที่ 1 กันยายน 2557 นี้ 

ขณะที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ นายจุ้ง เชียงเฉิน ไว้เด็ดขาด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา 

(อ่านประกอบ : “มิสเตอร์เฉิน”ตัวละครบริษัทขายข้าวโผล่ปล่อยกู้“เมียอริสมันต์”)