กอ.รมน.สั่งมอบ-คืน"อาวุธสงคราม"หวังลดการฆ่า ฟื้นโต๊ะเจรจาไร้เงา"ฮัสซัน-BRN"
กอ.รมน.ออกมาตรการควบคุมอาวุธปืนชายแดนใต้ เปิดโอกาสทุกฝ่ายที่ครอบครองอาวุธสงครามโดยมิชอบ ส่งมอบให้ทางราชการภายในสิ้นเดือน ก.พ.จะไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หวังลดจำนวนอาวุธจากกองกำลังเถื่อนหลังพบล้างแค้นกันเองพุ่ง ขณะที่กรมสุขภาพจิตลงพื้นที่บาเจาะ ผวาเพื่อนสามเด็กชายที่ถูกยิงยกครัวอยู่ในอาการเครียด 45 คน ด้านโต๊ะพูดคุยสันติภาพรอบใหม่ส่อวุ่นไร้เงา "ฮัสซัน-BRN" ร่วมวง ใต้ป่วนรายวันบึ้ม-วิสามัญฯ เจ็บ-ตายทั้งสองฝ่าย
มีรายงานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ระบุว่า เพื่อเป็นการลดเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสี่อำเภอของ จ.สงขลา ในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้อาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มาตรา 11 (5) พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 10 (9) และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาตรา 18 (1) มีคำสั่ง เรื่อง กำหนดมาตรการควบคุมอาวุธปืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ เนื้อหาในคำสั่งกำหนดให้บุคคลผู้ได้รับอนุญาตให้ถือหรือครอบครองอาวุธปืนสงคราม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) สำหรับการปฏิบัติงานตามหน้าที่เท่านั้น ในส่วนของผู้นำท้องที่ (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) กำลังประชาชนทุกประเภท และประชาชนที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายในการถือหรือครอบครองอาวุธสำหรับการปฏิบัติงานฯ ให้ใช้ได้เฉพาะอาวุธปืนที่ทางราชการแจกให้ แต่ต้องมิใช่เป็นอาวุธสงคราม หากเป็นอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะรับแจกจ่ายจากทางราชการ หรือจัดหาเอง ตลอดถึงมีการครอบครองอยู่อย่างไม่ถูกต้อง ให้รีบส่งมอบคืนให้กับทางราชการภายในสิ้นเดือน ก.พ.57 หากล่วงเลยกำหนดและมีการตรวจพบจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จริงๆ คำสั่งนี้ออกมาระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เผยแพร่ผ่านสื่อ จุดประสงค์ของคำสั่งก็เพื่อเรียกคืนอาวุธสงครามจากกองกำลังเถื่อนต่างๆ ที่พบมากในพื้นที่ ทั้งกลุ่มค้าของเถื่อน น้ำมันเถื่อน ธุรกิจผิดกฎหมาย รวมไปถึงกลุ่มผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีหน้าที่บางส่วน ทำให้เกิดความรุนแรงประเภทล้างแค้นกันเอง คิดบัญชีกันเองจำนวนมาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงมีคำสั่งเรียกคืนอาวุธสงครามภายในสิ้นเดือน ก.พ. เพื่อหวังลดเหตุรุนแรงที่เกิดถี่ในพื้นที่ขณะนี้
นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า สำหรับผู้ครอบครองอาวุธปืนสงคราม สามารถส่งมอบคืนอาวุธปืนได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ สถานีตำรวจภูธรอำเภอทุกแห่ง หน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว หรือหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่รับผิดชอบพื้นที่ ภายในเดือน ก.พ. เพื่อจัดทำบัญชีควบคุมและนำส่งมอบศูนย์ควบคุมอาวุธปืน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าต่อไป
พบเพื่อนเด็กเหยื่อกระสุนซึมเศร้า45คน
ด้านความคืบหน้ากรณียิงเด็กชายสามพี่น้อง "ครอบครัวมะมัน" จนเสียชีวิต ที่บ้านในหมู่บ้านปะลุกาแปเราะ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 3 ก.พ.57 ซึ่งมีการสร้างข่าวในพื้นที่ว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากนั้นก็มีเหตุฆ่าเผาคนไทยพุทธ และกราดยิงชาวบ้านขณะตักบาตรจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นัยว่าเป็นการแก้แค้นนั้น
ล่าสุดวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.57 พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ พร้อมด้วย นายเบญจมินทร์ เจ๊ะแล นายแพทย์สาธารณสุขอำเภอบาเจาะ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่จิตเวช ศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 จ.สงขลา เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านปาลุกาแปเราะ เพื่อไปเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน และตรวจสุขภาพจิต หลังจากทราบว่านักเรียนโรงเรียนบ้านปะลุกาแปเราะ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจากเหตุการณ์เพื่อน 3 คน (เด็กชายสามพี่น้องตระกูลมะมัน) ถูกยิงเสียชีวิต
โอกาสนี้ ทางทีมคณะจิตเวชศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 ได้จัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนทั้ง 133 คน มีตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.6 โดยได้ร่วมตัวกันทำกิจกรรมที่ใต้ถุนอาคาร และได้พูดคุยถึงเรื่องต่างๆ พบว่ามีเด็กที่มีพฤติกรรมผิดปกติ จำนวน 45 คนเริ่มป่วยเป็นโรคเครียดจากสภาวะความกดดันที่ได้รับรู้เรื่องเลวร้าย โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน 3 คนถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดแยกเด็กกลุ่มนี้ไปทำการบำบัดเพื่อให้คลายจากความวิตกกังวล และต้องบำบัดต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หากพบว่าเด็กนักเรียนคนใดยังอาการไม่ดีขึ้น ต้องส่งตัวไปรักษาด้านจิตเวชที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สปต.ตามคดียิงเด็ก – แม่ทัพเยี่ยมญาติพระเหยื่อกระสุน
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลบาเจาะ นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) รวมทั้ง นายวิสุทธิ์ สิงขจรวรกุล ประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณียิงเด็กเสียชีวิต 3 ศพ ได้ประชุมร่วมกับ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ น.ท.อมร ควรหาเวช ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าการสังหารเด็ก 3 ศพไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นการกระทำของกลุ่มขบวนการ เนื่องจากสงสัยว่านายเจะมุ บิดาของเด็กๆ ให้ข้อมูลกับทางราชการจนนำมาสู่การจับกุมแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บาเจาะ และใกล้เคียงได้หลายคนในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนที่วัดป่าสวย ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายปกครองและตำรวจ ได้เข้านมัสการพระวัดป่าสวย รวมทั้งญาติพี่น้องและครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิงพระและชาวบ้านขณะตักบาตร เมื่อเช้าวันที่ 13 ก.พ. ทำให้พระมรณภาพ 1 รูป ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 8 ราย ในการนี้ พล.ท.สกล ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวผู้สูญเสียด้วย
บึ้มทหารพรานชุด รปภ.ครู ดับ 1 สาหัส 2
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวลา 16.20 น.วันเดียวกัน ขณะที่ทหารพรานชุดรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4808 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 จำนวน 6 นาย กำลังขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันเดินทางกลับฐานปฏิบัติการหลังเสร็จภารกิจ โดยใช้เส้นทางถนนสายชนบทบ้านโคก หมู่ 5 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นั้น
ปรากฏว่าได้มีคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดแบบถังแก๊ส น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ที่วางดักไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมทาง แรงระเบิดทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ตั้งพงษ์ ภาพันธ์ เสียชีวิต ขณะที่ อส.ทพ.จิรวุฒิ สุดเพชร และ อส.ทพ.มาหามะซูไฮมิง เจ๊ะปิ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตรวจสอบประวัติ อส.ทพ.ตั้งพงษ์ พบว่าอายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร อส.ทพ.จิรวุฒิ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และ อส.ทพ.มาหามะซูไฮมิง อายุ 24 ปี เป็นชาว ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส
ปะทะเดือดนราธิวาส-วิสามัญฯ 2 ศพ
ส่วนที่ อ.เมืองนราธิวาส น.ท.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 ได้นำกำลัง 5 ชุดปฏิบัติการ อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 9 ต.บางปอ พบบุคคลต้องสงสัยอยู่ในบ้านเลขที่ 20/2 และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ จนเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 15 นาที หลังเสียงปืนสงบพบศพ นายอับดุลเลาะ แก่ต่อง อายุ 31 ปี เจ้าของบ้าน มีหมายจับในคดีความมั่นคง พร้อมยึดปืนพกขนาด .38 ได้ 1 กระบอก
หลังจากนั้นได้มีการจัดกำลังออกติดตามผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบหนี และมีการยิงปะทะกันอีกหลายระลอก ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม คือ นายมะรอดูหลัน ดูเซ็ง อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 2 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีหมายจับในคดีความมั่นคง 1 หมาย
ยิงชาวบ้านตากใบดับ 2 เจ็บ 1
เวลา 21.30 น. ทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15131 ชุดลาดตระเวนรอบฐาน ได้ยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยที่ซุ่มอยู่บริเวณสามแยกเปาะรามะ ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานความสูญเสีย
ช่วงค่ำวันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ขณะพักผ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 บ้านทรายขาว ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายทวีศักดิ์ พรหมน้อย และ นายสุรัช พันธ์แก้ว ขณะที่ นางสุพิศ พรหมน้อย ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ปูดเปิดโต๊ะพูดคุยรอบใหม่ส่อปาหี่
ส่วนความคืบหน้ากรณี ดาโต๊ะ สรี อาห์มัด ซัมซามิน ฮาซิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับขบวนการบีอาร์เอ็น นำโดยกลุ่มนายฮัสซัน ตอยิบ เตรียมเดินทางเยือนประเทศไทย และพบปะสื่อมวลชนไทย รวมทั้งขึ้นเวทีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ในวาระครบรอบ 1 ปีการพูดคุยสันติภาพ 28 ก.พ.นี้ โดยมีข่าวว่าการพูดคุยสันติภาพจะเดินหน้าต่อไป โดยทางมาเลเซียได้ดึงแกนนำพูโล 3 กลุ่มเข้าร่วมวงพูดคุยด้วยนั้น
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงของไทย เผยว่า ข่าวการเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติภาพกระบวนการเดิมต่อไปไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่มพูโลที่เข้าร่วมลงนามกับทางการมาเลเซียเพื่อแสดงเจตจำนงร่วมพูดคุยกับรัฐบาลไทยนั้น ล้วนเป็นกลุ่มเก่าที่ไม่ได้มีศักยภาพสั่งการในพื้นที่
ที่สำคัญมีการพบปะหารือกันหลายครั้งของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ (กลุ่มเคลื่อนไหวที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย) ตามการประสานงานของมาเลเซีย โดยล่าสุดมีการนัดหารือกันที่เมืองยอร์ค จากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนการลงนามเข้าร่วมพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทย แต่ไม่ปรากฏว่ามีแกนนำบีอาร์เอ็นคนสำคัญ รวมทั้งนายฮัสซัน ตอยิบ เข้าร่วม จึงเป็นไปได้ว่าการแถลงข่าวในวาระครบรอบ 1 ปีกระบวนการพูดคุยสันติภาพ อาจเป็นเพียงกระบวนการสร้างข่าวเท่านั้น แต่ในทางสาระแล้ว การพูดคุยสันติภาพกระบวนการเดิมที่ริเริ่มมาตั้งแต่ 28 ก.พ.56 ถือว่าไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้จริง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถจักรยานยนต์ของทหารพรานชุด รปภ.ครู ที่ถูกลอบวางระเบิดที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส