ใต้ป่วน "บึ้ม-ยิง" ไม่สนเลือกตั้งล่วงหน้า แม่ทัพพบจุฬาฯ เห็นพ้องหยุดปมมัสยิดตรัง

ใต้ป่วนไม่สนหย่อนบัตร ดักกดระเบิดถังแก๊สที่ซุกในท่อลอดใต้ถนนหวังถล่มตำรวจยะรังชุดดูแลความปลอดภัยเลือกตั้งล่วงหน้า โชคดีระเบิดทำงานช้า กำลังพลเจ็บเล็กน้อย 1 นาย แถมยังมีแก๊งป่วนจุดไฟเผายางรถยนต์-สายไฟฟ้าอีกหลายจุด ยิง อส.-ชาวบ้านหาของป่าซ้ำ ด้านแม่ทัพภาค 4 รุดพบจุฬาราชมนตรี หวั่นปมมัสยิดที่ตรังบานปลาย ยันผู้กระทำขอโทษแล้ว ขอให้เรื่องยุติ อย่านำไปใช้ปลุกระดมความรุนแรง

          สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องแม้วันเลือกตั้งล่วงหน้า โดยเมื่อเวลา 08.30 น.วันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค.2557 พ.ต.ท.ธวัชชัย สังฆมิตกล รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปราม (รอง ผกก.ป.) สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดบนทางหลวงหมายเลข 4061 ยะรัง-ยาบี ท้องที่หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังทหาร รวมทั้งฝ่ายปกครอง

          ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สายตรวจของตำรวจ ยี่ห้อซูซูกิ สีม่วง หมายเลขทะเบียน กบน ปัตตานี 228 ล้มคว่ำอยู่บนถนน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ กว้าง 3 เมตร ลึก 3 เมตร มีชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดและอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์กระจายเกลื่อน มีสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปในป่าละเมาะริมทาง ความยาวประมาณ 200 เมตร ใกล้ๆ กันยังพบรถกระบะสายตรวจแบบ 4 ประตู ของ สภ.ยะรัง ถูกสะเก็ดเบิดจนกระจกรถและตัวถังรถได้รับความเสียหายด้วย

          ทั้งนี้ มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ต.ปวีวัฒน์ บุญคง อายุ 26 ปี อาการไม่สาหัส เพื่อนตำรวจนำส่งโรงพยาบาลยะรัง

          สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวณดูแลเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่โรงเรียนประตูโพธิ์ยะรัง โดยใช้รถจักรยานยนต์แล่นนำหน้า 1 คัน และรถกระบะสายตรวจอีก 1 คัน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ไม่มีบ้านคน ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้แบตเตอรี่กดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ซุกไว้ในท่อระบายน้ำลอดใต้ถนน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น โดยเป้าหมายคือรถกระบะของตำรวจ แต่โชคดีที่จังหวะระเบิด รถได้ขับเลยไปแล้ว ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บเพียง 1 นาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ยิงชาวบ้านหาของป่าดับ 1 เจ็บ 3

          เวลา 17.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มรถชาวบ้านหาของป่า บนทางหลวงหมายเลข 4092 สามแยกบ้านปากู หมู่ 5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย ประกอบด้วย
          1.นายจำเริญ กุลบุตร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 บ้านควนหยี หมู่ 3 ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต
          2.นายพิเชต นวลนาค อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/2 บ้านคลองทราย หมู่ 5 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส
          3.นายอรุณ สุวรรณชาติ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/2 บ้านคลองทราย หมู่ 5 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
          นอกจากนั้นยังมีอีก 2 คนบนรถที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ นายภูมิใจ ทับทิมทอง อายุ 21 ปี และ นายเกตุ วงศ์กระจ่าง อายุ 43 ปี อยู่ที่บ้านทุ่งยามู หมู่ 4 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา

          หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบว่าขณะที่ชาวบ้านทั้ง 5 รายกำลังเดินทางด้วยรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ  2413 ยะลา กลับจากหาของป่า มุ่งหน้ากลับบ้านในเขต อ.เมืองยะลา ปรากฏว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าข้างทาง จากนั้นใช้อาวุธสงครามยิงใส่ เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

ประกบยิง อส.มายอดับ-ป่วนหลายจุดที่ยะรัง

          เวลา 18.40 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายอิสมาแอ มูซอ อายุ 31 ปี เป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.มายอ จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 57 บ้านตูหยง หมู่ 3 ต.สาคอบน อ.มายอ เหตุเกิดขณะที่นายอิสมาแอขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในท้องที่บ้านบาตะกูโบ หมู่ 1 ต.สาคอบน อ.มายอ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังเสร็จจากเล่นฟุตบอล ทำให้ นายอิสมาแอ เสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร

          ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน เวลาประมาณ 03.00-04.00 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ออกก่อกวนจุดไฟเผาเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า และพ่นสีบนถนนเป็นข้อความต่างๆ ในพื้นที่ อ.ยะรัง จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย
          1.เผายางรถยนต์บนถนนสายยะรัง-มายอ ท้องที่บ้านมาปะ หมู่ 3 ต.ระแว้ง อ.ยะรัง
          2.พ่นสีเป็นข้อความว่า "ตำรวจออกไป" บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 จำนวน 2 จุด ท้องที่หมู่ 2 ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง
          3.เผายางรถยนต์และพ่นสีข้อความ "ตำรวจออกไป" 1 จุด ท้องที่หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง
          4.พ่นสีข้อความเป็นภาษามลายู 1 จุด บริเวณสามแยกประตูโพธิ์ ท้องที่หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง ใกล้กับโรงเรียนประตูโพธิ์ยะรังซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการเลือกตั้งล่วงหน้า

แม่ทัพ4 พบจุฬาฯเห็นพ้องหยุดขยายผลปมมัสยิดตรัง

          ด้านความคืบหน้ากรณีผู้ชุมนุมเครือข่ายของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จ.ตรัง รวมพลไปเป่านกหวีดที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของมัสยิดบ้านสุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เพื่อให้โรงเรียนหยุดทำการเรียนการสอน จนสร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องมุสลิม เนื่องจากมีบางส่วนกำลังประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ในมัสยิด กระทั่งต่อมาสำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกแถลงการณ์ตำหนิ และมีการขยายผลของฝ่ายการเมืองนำไปโจมตีการเคลื่อนไหวของ กปปส.นั้น 

          ประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นอ่อนไหวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพี่น้องมุสลิมอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น โดยฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลว่าอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำประเด็นนี้ไปขยายผลเพื่อสร้างความเกลียดชัง โดยในวันศุกร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถทหารพรานชุดคุ้มครองพระสงฆ์ ทำให้พระมรณภาพ 1 รูปที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีด้วย

          วันเสาร์ที่ 25 ม.ค.2557 พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 จึงเดินทางเข้าพบ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ที่ จ.สงขลา เพื่อหารือถึงสถานการณ์ จากนั้นได้เชิญผู้นำศาสนาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประชุมร่วมกันที่โรงแรมเซาเทิร์นวิว จ.ปัตตานี ก่อนเปิดแถลงข่าว

          พล.ท.สกล กล่าวว่า เมื่อได้ดูข่าวมีความรู้สึกไม่แตกต่างกับพี่น้องมุสลิมว่าทำไปได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เมื่อท่านจุฬาราชมนตรีออกแถลงการณ์จึงรู้สึกสบายใจ เชื่อว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องและกลั่นกรองแล้ว จึงเดินทางไปพบจุฬาราชมนตรีเพื่อบอกว่าเห็นด้วยและมีจุดยืนเหมือนกัน

          "เป็นที่น่ายินดีเมื่อคนที่ทำเรื่องนี้ที่ อ.ปะเหลียน ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนแล้ว เมื่อเขาแสดงเช่นนี้เชื่อว่าต้องมีการให้อภัย สิ่งที่กังวลที่สุดคือใครจะเอาเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรง ท่านจุฬาราชมนตรีเองก็บอกว่าไม่ควรเผยแพร่ต่อไป กลัวนำไปใช้ในทางการเมือง แล้วความเชื่อมั่น ความรัก ความศรัทธาจะคลอนแคลนไปด้วย จึงเรียนให้คณะกรรมการอิสลามและพี่น้องชายแดนใต้ได้รับทราบทั่วกัน" แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ

          นายสักกริยา บินแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า อย่าเอาศาสนาไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือเป็นประเด็นทางการเมือง อย่าไปเชื่อมโยงกัน ขอให้เชื่อมั่นในความเป็นจริง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : รถตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ขณะออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า

ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ