“ฝน” เต้นระบำที่วอชิงตัน
ด้วยสภาพอากาศที่แตกต่างระหว่างแมดิสัน-นิวยอร์ก-วอชิงตัน ทำให้การเดินทางของผู้อาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกัน (ชั่วคราว) และอาจรวมถึงคนอเมริกันและไม่ใช่อีกจำนวนมากไม่ราบรื่นและราบเรียบ
บ่ายโมงตรงวันที่ 9 มกราคม 2557 หลัง “วิชัย มะลิกุล” เจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์ สมิธโซเนียน-SMITHSONIAN) พาไปส่งที่สำนักงาน Voice of America (VOA) เราก็ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ “นิตยา มาพึ่งพงศ์” หัวหน้าแผนกไทยทันที
ราว 10 ปีก่อนเคยพบ“นิตยา”ที่สำนักงาน VOA แห่งนี้ และ VOA ภาคภาษาไทยในวันนั้นไม่เหมือนในวันนี้ นอกจากเปลี่ยนถ่ายผู้ร่วมงาน จากสื่อวิทยุเดี๋ยวนี้หันมาลุยสื่อออนไลน์และทีวีควบคู่กันไปด้วย
หลังจากแนะนำตัว “นิตยา”เดินเข้าห้องโน่นออกห้องนี้อธิบายกระบวนการและระบบการทำงานของ VOA แผนกต่างๆ เป็นฉากๆ ไม่ต้องอ่านโพย
ให้ความรู้เสร็จก็เข้าห้องนั่งสนทนา โดยมี "รัตพล อ่อนสนิท" "พินิตการณ์ ตุลาชม" 2 ผู้สื่อข่าวร่วมวงด้วย ต่อมามี IM Sothearith Copy-Editor และผู้ผลิตของ VOA ภาคภาษากัมพูชาเข้าร่วมอีก 1 คนรวมเป็น 7 คนว่าด้วยเรื่องการทำงานของ สื่อไทย สื่ออเมริกัน และสื่อกัมพูชา ที่พลาดไม่ได้ในฐานะเซียนข่าวคือให้ “นิตยา” วิพากษ์การทำหน้าที่ของสื่อไทย แบบเทศมองไทย หรือ เอ้าท์ไซด์ อิน พร้อมหยิกๆ หยอกๆ สื่ออเมริกันไปในตัว (อ่านประกอบ:“สื่อเลือกข้าง”ฉบับ“นิตยา มาพึ่งพงศ์-2 นักข่าว VOA) โดยมี IM Sothearith แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรายงานข่าวประเทศกัมพูชาเป็นระยะ
วงสนทนาสิ้นสุดในเวลากว่า 4 โมงเย็น หลังจากนั้นเราก็ย้อนกลับไปพบและพูดคุยกับ“วิชัย มะลิกุล”กูรูผีเสื้อและแมลงในที่ทำงานในอาคารสมิธโซเนียน (SMITHSONIAN) อีกครั้ง
“วิชัย”เล่าเรื่องแมลงและผีเสื้อที่ได้ศึกษาสั่งสมหลายสิบปีหลายร้อยชนิด เรียกว่าแตกฉานยิ่งกว่าแฟนพันธุ์แท้ มีโล่รางวัลเป็นผลพลอยได้จำนวนมาก
ที่น่าทึ่งก็คือสามารถวาดภาพเจ้าแมลงตัวเล็กๆ ชนิดมองตาเปล่าไม่เห็นต้องใช้กล้องส่องขยายส่องได้ด้วย ไม่แปลกใจเลยทำไมเขาจึงเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่ได้ทำงานที่นี่
เสร็จจากจากเติมความรู้และเติมท้องก็เข้าที่พักที่ไม่ห่างไกลนักในเวลา 2 ทุ่ม
(วิชัย มะลิกุล)
รุ่งขึ้น 09.45 เรามีนัดกับ Gerard Ryle กรรมการ The International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ) หรือเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนนานาชาติ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เปิดโปงข่าวผ่านเว็บไซต์ ที่ตั้งเลขที่ 910 ถนน 17 ,NW ในกรุงวอชิงตัน ท่ามกลางสายฝนออกมาเต้นระบำแต่เช้าตรู่จนเกือบตลอดทั้งวัน
จำได้ว่าตอนย่ำวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อ 10 ปีก่อน โดนฝนเล่นระบำจนป่วยเป็นไข้มาครั้งหนึ่ง
เสร็จภารกิจห้องทำงาน ICIJ จากชั้น 2 และขึ้นไปดูการทำงานบนชั้น 7 ในเวลาเกือบ 11.00 น. ขากลับแวะพักที่ SMITHSONIAN อีกครั้ง แล้วก็พุ่งตรงไปไชน่าทาวน์ในเวลา 14.30 น. ทันทีเพื่อใช้บริการรถทัวร์จีนเจ้าเดิมกลับนิวยอร์ก
พอถึงเวลาจริงๆ กลายเป็นว่ารถเปลี่ยนเวลาเดินทางจากเวลา 15.00 น. เป็น 16.00 น. ช้าไปอีก 1 ชั่วโมง
นั่งรถทัวร์ขากลับคราวนี้ช้ายิ่งกว่าขามา เพราะคุณพี่โชเฟอร์แกขับแบบหวานเย็น เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนและมีฝนตกตลอดทางแทนที่จะใช้เวลา 4 ชั่วโมงครึ่งถึงนิวยอร์ก กลายเป็นกว่า 5 ชั่วโมง กว่าจะถึงจุดหมายปาเข้าไปกว่า 3 ทุ่ม
คาดไม่ผิด พิษของฝนที่วอชิงตันทำให้ 2 ใน 3 คนต้องป่วยเป็นไข้ในวันรุ่งขึ้น
ความรู้สึกประการหนึ่งหากเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างนิวยอร์กกับวอชิงตัน ดี.ซี.ก็จะพบว่า วอชิงตันเหมือนผู้ใหญ่ ดูสงบเป็นระเบียบ อากาศไม่หนาวมากเท่านิวยอร์ก ในช่วงเวลากลางคืนจะเห็นคนจำนวนไม่มากติดอยู่ตามท้องถนน เพราะคนทำงานจะกลับบ้านที่อยู่นอกเมืองหลังเลิกงาน ขณะที่นิวยอร์กเหมือนวัยหนุ่มสาวในเวลาเที่ยงคืนยังมีนักท่องเที่ยวเดินเต็มไทม์สแควร์ส
กระนั้นถ้าใครชอบแสงสีของมหานครแห่งนี้ก็จะบอกว่าเป็นเสน่ห์อีกแบบ
ตามตารางเราต้องออกจากนิวยอร์กวันที่ 14 ม.ค.2557 ด้วยสายการบิน DELTA เที่ยวบิน DL5339 เวลาบอร์ดดิ้ง 1.29 น.เครื่องออก 13.59 น.เอาเข้าจริงเลื่อนไปกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องออกจากสนามบินลาการ์เดีย (Laguardia -LGA) ในเวลา 15.50 น.
การเดินทางจากนิวยอร์กไปวิสคอนซิน แมดิสัน เที่ยวนี้มีเรื่องต้องให้ลุ้นอีกครั้ง
หลังเครื่องบินลอยอยู่บนน่านฟ้า ช่วงแรกยังปกติ เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง มองออกไปนอกหน้าต่าง สังเกตเห็นเครื่องบิน บินวนอย่างน้อย 3 รอบ กระทั่งกัปตันประกาศว่า มีหิมะตกที่แมดิสัน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่ดินไม่สามารถเคลียร์รันเวย์ได้ สายการบินเที่ยวนี้จะต้องไปลงที่สนามบิน มิลวอคี้ (Milwaukee) แทน
เมื่อได้ยินว่า เป็น “มิลวอคี้” มิใช่ “แมดิสัน” ผู้โดยสารรวมทั้งเราเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ แน่นอนเรามองหน้ากันและคิดว่าจะเดินทางไปแมดิสันอย่างไรหรือต้องค้างที่มิลวอคี้
ถัดมาพนักงานต้อนรับถามผู้โดยสารว่าใครมีความประสงค์จะเดินทางไปแมดิสันให้ยกมือ ปรากฏยกมือกันพรึบ และพนักงานต้อนรับบอกต่อว่า “สายการบินนี้ยินดีจะบริการส่งผู้โดยสารไปยังสนามบินแมดิสัน”
นั่นแหละคือสิ่งที่อยากได้ยิน
เมื่อเครื่องลงในเวลา18.30 น.ราว 1 ทุ่มเศษ เรานั่งรถบัสที่สายการบินเตรียมไว้กลับแมดิสันทันที
มิลวอคี้อยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกของแมดิสัน เป็นเมืองที่มีคนอเมริกันอาศัยอยู่จำนวนมาก ระหว่างทางมีหิมะตกตลอดทาง
เราใช้เวลาอยู่ในรถบัส 2 ชั่วโมง ถึงจุดหมายประมาณ 3 ทุ่ม
และกลับเข้าสู่อ้อมกอดแห่งความหนาวเหน็บในวงล้อมของหิมะอีกครั้ง
…..
อ่านประกอบ: นรกเล็กๆ ในเครื่องบินที่นิวยอร์ก