‘ดร.เดชรัต’ เตรียมยื่นผู้ว่าฯ กทม. 2 หมื่นชื่อ ทวงคืนพิพิธภัณฑ์เด็ก
เว็บ Change.org จัดรณรงค์ทวงคืนพิพิธภัณฑ์เด็กทะลุเกือบ 2 หมื่นชื่อ เตรียมยื่นผู้ว่าฯ กทม. หลังปิดปรับปรุงนาน 4 ปี ‘ดร.เดชรัต’ ชี้ควรเปิดเวทีสร้างส่วนร่วมออกแบบแหล่งเรียนรู้ เเจงไม่ขอยุ่งเกี่ยวปัญหาจัดการภายในองค์กรต้นเหตุเปิดทำการล่าช้า
ภายหลังม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศปิดปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เด็ก เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2553 แต่จนถึงขณะนี้ได้ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีการปรับปรุงเป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว ด้วยสาเหตุจากปัญหาข้อติดขัดเรื่องระเบียบการบริหารจัดการราคากลางและกรอบแนวความคิดของผู้ว่าฯ กทม. ส่งผลให้เด็ก ๆ ขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งศึกษาเรียนรู้ที่ดีนั้น
ทำให้เกิดการรวมตัวของประชาชนในเว็บไซต์ change.org รณรงค์ทวงคืนพิพิธภัณฑ์เด็ก ทั้งนี้ ผ่านไป 6 วัน มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้ว 18,625 คน (ณ วันที่ 16 มกราคม 2557 เวลา 13.15 น.) จากเป้าหมายทั้งสิ้น 20,000 คน
น.ส.ปรีห์กมล จันทรนิจกร ครูอาสา ในฐานะผู้เริ่มรณรงค์ กล่าวว่า เหตุที่รณรงค์เรื่องนี้เพราะอยากให้ กทม.เข้ามาแก้ไขปัญหาพิพิธภัณฑ์เด็กอย่างจริงจัง พิพิธภัณฑ์เด็กที่จตุจักร ปัจจุบันถูกทิ้งร้างมานาน เพื่อ ‘ปิดปรับปรุง’ ซึ่งเป็นการซ่อมแซมที่นานเกินไป ขณะเดียวกัน พิพิธภัณฑ์เด็กที่เขตทุ่งครุก็มีปัญหา เพราะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ ตั้งแต่ปี 2550 แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดทำการได้เสียที จึงอยากรณรงค์ให้ กทม. เห็นว่ามีคนจำนวนมากต้องการพิพิธภัณฑ์เด็กจริง ๆ ให้จริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
“จุดเริ่มของแรงบันดาลใจ คือได้เห็นข้อความและรูปภาพของผู้ปกครองคนหนึ่งในเฟซบุ๊ค ที่พาลูกไปพิพิธภัณฑ์เด็กในช่วงวันหยุด แล้วพบว่ามันปิดและถูกทิ้งร้าง รู้สึกหดหู่ใจและเคลือบแคลงสงสัย จึงกลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าถูกปิดมา 4 ปีแล้ว โดยไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดออกมาชี้แจงรายละเอียด นอกจากการออกมาสัญญาด้วยคำเดิม ๆ ทุกปีว่าจะเปิดทำการช่วงใกล้วันเด็ก จึงตัดสินใจรณรงค์เรื่องนี้ โดยอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.เข้ามาแก้ไขเรื่องนี้โดยเร่งด่วน” นางสาวปรีห์กมล กล่าว
น.ส.ปรีห์กมล กล่าวต่อว่า ในช่วงสัปดาห์วันเด็กที่ผ่านมา ตนเองได้ชวนเพื่อนๆไปทำกิจกรรมนำร่อง โดยการชวนผู้ปกครองและเด็ก ๆ ที่สวนรถไฟ คุยเรื่องพิพิธภัณฑ์ในฝัน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมไปสำรวจพิพิธภัณฑ์เด็กที่ถูกทิ้งร้าง ก็ได้พบกับผู้ปกครองจำนวนหนึ่งที่พาลูกหลานไปพิพิธภัณฑ์เด็ก แต่ต้องเศร้าและหันหลังกลับบ้าน เพราะมีการซ่อมแซม เห็นแล้วรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก พื้นที่เหล่านี้มีความหมายต่อเด็ก ๆ จริง ๆ
ทั้งนี้ จะมีการเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์เชิงสัญลักษณ์ที่ลานหน้าพิพิธภัณฑ์เด็กทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของทุกเดือนจนกว่าพิพิธภัณฑ์จะเปิดทำการ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 เพื่อกดดันผู้มีอำนาจให้เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการขอพิพิธภัณฑ์กลับคืนมา
ด้านดร.เดชรัต สุขกำเนิด คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า หลังจากรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนทวงคืนพิพิธภัณฑ์เด็กครบตามเป้าหมายแล้ว จะนำไปยื่นต่อผู้ว่าฯ กทม. ต่อไป โดยรายละเอียดจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับเจตนารมณ์ในการเร่งให้เปิดพิพิธภัณฑ์เด็กให้เร็วที่สุด ภายหลังปิดซ่อมไปหลายปี และเห็นควรให้มีการเปิดเวทีเพื่อให้ผู้อื่นได้สิทธิในการร่วมออกแบบด้วย แต่คงไม่ลงลึกไปถึงรายละเอียดมากกว่านั้น ทั้งนี้ จะมีการประสานเรื่องเวลาอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนเรื่องปัญหาระเบียบราคากลางที่ซับซ้อนและกรอบแนวคิดของผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นอุปสรรคนั้น ดร.เดชรัต มองว่า เป็นปัญหาภายใน ซึ่งส่วนตัวไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียด แต่อยากให้มุ่งเน้นไปในประเด็นระยะเวลาการปิดซ่อมที่นานเกินไปและกทม.ต้องรับผิดชอบ ส่วนปัญหาการบริหารจัดการภายในองค์กรนั้นเป็นภาระหน้าที่ของกทม.จะต้องแก้ไขต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พิพิธภัณฑ์เด็ก กทม. นับเป็นพิพิธภัณฑ์เด็กแห่งแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ตั้งขึ้นตามพระราชปรารภของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงปรารถนาให้เด็กไทยได้รับโอกาสเรียนรู้อย่างกว้างขวาง ตั้งขึ้นจัดแสดงในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีพื้นที่รวม 5 ไร่ ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2544 ประกอบด้วยอาคารจัดแสดงนิทรรศการ 3 หลัง พร้อมลานกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งกทม.ได้มอบพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิพิพิธภัณฑ์เด็ก กทม.