ใต้เดือดยิงครูดับรับ"วันครู" บึ้มตำรวจยะหาพลีชีพ2
ใต้เดือดรับวันครู คนร้ายควบมอเตอรไซค์ประกบยิงครูหนุ่มใหญ่วัย 38 ปีดับคาถนนที่สะบ้าย้อย สงขลา หลังเลิกเรียนกำลังขี่รถกลับบ้าน เผยเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษารายที่ 170 ที่ต้องสังเวยชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบ แกนนำครู แฉ รัฐบาลไม่ดูแลเรือจ้างชายแดนใต้ตามที่รับปาก ทั้งเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย-เงินเยียวยา มีแต่มติ ครม.แต่ไม่ได้เงิน ส่วนที่ยะหา ดักบึ้มตำรวจปฏิบัติการพิเศษชุด รปภ.ครู ดับ 2 เจ็บอีก 1 ซุ่มยิงทหารพรานบันนังสตาเจ็บ 2
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีเหตุรุนแรงที่สร้างความสูญเสียให้กับครู และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึง 3 รายในวันเดียว
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันอังคารที่ 14 ม.ค.2557 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายศุภกฤษ แซ่ลุ่ง อายุ 38 ปี พนักงานราชการ (ครู) โรงเรียนบ้านนิบง ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา เสียชีวิต โดย ครูศุภกฤษ พักอยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 6 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา เหตุเกิดขณะที่นายศุภกฤษกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพียงลำพังออกจากโรงเรียนเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จุดเกิดเหตุอยู่ในท้องที่บ้านนาจะแหน หมู่ 5 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย
ทั้งนี้ ครูศุภกฤษ นับเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารายที่ 170 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ในรอบ 10 ปีเศษที่ผ่านมา
นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ทราบข่าวร้ายที่เกิดขึ้นแล้ว โดยครูศุภกฤษนับเป็นครูรายแรกที่ถูกยิงเสียชีวิตในปี 2557 แต่เป็นรายที่ 170 ตลอด 10 ปีไฟใต้
"ผมอยากให้สังคมตระหนักถึงความเดือดร้อนและความยากลำบากในการดำรงชีวิตและทำหน้าที่ของครูในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่ครูไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอจากรัฐบาล ข้อเรียกร้องหลายข้อโดยเฉพาะเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัยที่เป็นขวัญกำลังใจก็ยังไม่ได้รับ แม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะรับปากแล้ว และออกเป็นมติคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เงิน โดยทางรัฐบาลอ้างว่าติดปัญหาเรื่องงบประมาณ เราไม่อยากฝันค้างเหมือนเมื่อปี 2553 (ช่วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์) ที่เคยออกมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ แล้วก็ไม่ได้รับเช่นกัน"
นายบุญสม กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนถึงวันครูเพียง 2 วัน (วันครูตรงกับวันที่ 16 ม.ค.) นับว่ากระทบต่อขวัญและกำลังใจของครูเป็นอย่างมาก ขณะที่เรื่องเงินเยียวยาที่หลายฝ่ายมีความเห็นว่าสมควรเพิ่มให้กับครู ก็ยังไม่ได้รับ เนื่องจากคณะกรรมการที่พิจารณาส่งเรื่องกลับไปยังกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากนั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
อย่างไรก็ดี นายบุญสม บอกว่า ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู (สกสค.) จังหวัดปัตตานี และเป็นประธานศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวครูชายแดนใต้ ซึ่งเป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นและมีเงินอยู่ 10 ล้านบาท ทั้งนี้ถ้าครูถูกทำร้ายในเวลาราชการ และเป็นเหตุการณ์ความมั่นคง ไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนตัว ก็สามารถอนุมัติเงินศูนย์ฯ จำนวน 5 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวครูได้ทันที
“ผมกำลังพิจารณาช่วยเหลือครูศุภกฤษ ถ้าเข้าหลักเกณฑ์จะจ่ายเงินช่วยเหลือทันที ไม่ต้องรอการอนุมัติจากกรุงเทพฯ” นายบุญสม กล่าว และว่าศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวครูชายแดนใต้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2550 และได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวครูที่ประสบเหตุร้ายจากสถานการณ์ความไม่สงบมาหลายรายแล้ว
บึ้มยะหา-ตำรวจชุดรปภ.ครูพลีชีพ 2
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 15.25 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดบนถนนสายยะหา-กาบัง ท้องที่หมู่ 6 บ้านอาเส็น ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และพบศพ ส.ต.ต สุชาติ ยังทินนัง อายุ 32 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย จึงช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลสมเด็จพพระยุพราชยะหา ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.แวสะฮารี สบะหานาเลาะ อายุ 27 ปี และ ส.ต.ต.พงศ์ศักดิ์ สุดชา อายุ 25 ปี แต่ ส.ต.ต.แวสะฮารี ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ จากการตรวจจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ยังพบเศษถังแก๊สสีส้ม เศษสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน และเศษซากแผงวงจรอิเลคทรอนิกส์กระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ประกอบใส่ถังแก๊ส วางไว้ริมถนน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) สภ.ยะหา จำนวน 8 นาย ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) เส้นทาง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้คณะครูโรงเรียนบ้านอาเส็น โดยมีรถจักรยานยนต์ 4 คันเป็นพาหนะ เมื่อขบวนรถแล่นถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง คนร้ายได้นำวัตถุระเบิดไปซุกในพงหญ้าริมถนน และจุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มอีก 2 จุด"ปัตตานี-นราฯ"แต่พลาดเป้า
วันเดียวกัน ยังมีระเบิดอีก 2 จุด โดยที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เวลาประมาณ 08.35 น. เกิดระเบิดบริเวณป่ารกริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ช่วงบ้านดอนรักจะรัง หมู่ 7 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตรงข้ามเต็นท์รถบ้านดอนรักจะรัง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไป ตรวจสอบ และพบหลุมระเบิดใต้ต้นไม้ มีชิ้นส่วนถังแก๊ส สะเก็ดระเบิด และวิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นป่ารก เคยเป็นที่ตั้งฐานของกำลังพลหน่วยพัฒนาสันติ จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 และเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวน รปภ.ครู มักไปนั่งพักรอปฏิบัติหน้าที่อยู่เป็นประจำ เชื่อว่าคนร้ายจึงฉวยโอกาสนำระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊ส ไปฝังไว้ แล้วจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทหารเปลี่ยนเส้นทางไปอีกจุดหนึ่ง จึงไม่ได้รับอันตราย
ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4602 (ร้อย ทพ.4602) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้า เพื่อรักษาความปลอดภัยครู ในพื้นที่บ้านยะออ หมู่ 1 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส โดยวางระเบิดดักไว้ริมถนน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทั้งสองจุดเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ซุ่มยิงทหารพรานที่บันนังสตาเจ็บ 2
เวลา 08.25 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ชุดปฏิบัติการทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 3306 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อ รปภ.เส้นทางให้กับคณะครูในท้องที่บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา
ทั้งนี้ มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.ต.สุนทร ใจเงิน อายุ 34 ปี อาการสาหัส และ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) นพดล ทัพเกราะกริก อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลบันนังสตา แต่ ส.ต.สุนทร อาการสาหัส แพทย์ให้ส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ชุดปฏิบิตการ ร้อย.ทพ.3306 ได้ออกลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อ รปภ.เส้นทางให้กับคณะครู เมื่อเสร็จภารกิจจึงเดินกลับฐานปฏิบัติการที่บ้านเขื่อนบางลาง หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่บริเวณป่าข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่จำนวนหลายนัด ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงเอ็ม 79 ถล่มโรงพักลำใหม่ไร้เจ็บ
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 20.20 น.วันจันทร์ที่ 13 ม.ค. พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้รับรายงานจากศูนย์วิทยุ สภ.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา ว่าถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงใส่โรงพักจำนวน 2 ลูก และเกิดการยิงปะทะกันนานประมาณ 10 นาที จึงรีบประสานส่งกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุ บริเวณตัวอาคารของ สภ.ลำใหม่ ไม่พบความเสียหาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดปลอดภัย เบื้องต้นคาดว่ากระสุนเอ็ม 79 น่าจะตกในสวนยางพาราของชาวบ้านด้านหลังโรงพัก และหลังได้ยินเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่ได้ยิงโต้ตอบออกไปประมาณ 10 นาที กลุ่มคนร้ายจึงล่าถอยไป
บุกยิงทหารพรานดับ-ภรรยาท้อง 4 เดือนเจ็บ
เวลา 21.20 น. ศูนย์วิทยุ สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้า และ เอ็ม 16 ยิง ส.อ.วีระพงศ์ คชสิงห์ อายุ 26 ปี ทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ค่ายวังพญา อ.รามัน ขณะพักผ่อนอยู่ในบ้านของภรรยา คือ น.ส.รุสนานี มาเละ เลขที่ 70/1 หมู่ 5 บ้านสะโต ต.อาซ่อง อ.รามัน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทราบว่า ส.อ.วีระพงศ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กำลังอยู่ระหว่างลาพัก จึงไปดูแลภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนที่บ้านของภรรยา ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.วีระพงศ์ กำลังเตรียมลงไปอาบน้ำด้านหลังบ้าน มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนซุ่มอยู่ในป่าละเมาะใช้อาวุธปืนอาก้า และเอ็ม 16 ยิงใส่ ทำให้ ส.อ.วีระพงศ์ ใช้ปืนประจำกายยิงต่อสู้จนคนร้ายล่าถอยไป ส.อ.วีระพงศ์ และภรรยาได้รับบาดเจ็บ ต่อมา ส.อ.วีระพงศ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจที่โรงพยาบาล เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
จยย.บอมบ์ถล่มทหารที่ตากใบเจ็บ 1
วันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. เวลา 19.20 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฐานปฏิบัติอาสารักษาดินแดน (อส.) อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งตั้งฐานอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 บ้านตาเนาะปูเต๊ะ หมู่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
วันศุกร์ที่ 10 ม.ค. คนร้ายลอบวางระเบิดที่ติดตั้งไว้ในรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) โจมตีทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองร้อยปืนเล็กที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 โดยจอดรถทิ้งไว้บริเวณคอสะพานบ้านบอฆอ หมู่ 2 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แล้วจุดชนวนระเบิด แรงระเบิดทำให้กำลังพลที่นั่งมาในรถกระบะได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ พลทหารจิระศักดิ์ รุ่งสัมฤทธิ์ เพื่อนทหารนำส่งโรงพยาบาลตากใบ
ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนอาก้ายิง นายมูฮัมหมัดอาปีดิน บาเน็ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 7 ต.ปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี และเป็น อส.ประจำ อ.ยะรัง เสียชีวิตในป่ายาง บ้านบูโก๊ะ หมู่ 5 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ส่วนที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายสมพร สุวรรณรังสี อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) หมู่ 5 อยู่บ้านเลขที่ 98 บ้านเตราะแก่น หมู่ 5 ต.แป้น อ.สายบุรี เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถจักรยานยนต์ของตำรวจ สภ.ยะหา จ.ยะลา ชุดลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยให้คณะครู อยู่ในสภาพพังยับจากแรงระเบิดที่คนร้ายวางดักไว้ริมถนน ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย