ปชป.ชู 20 มาตราการ 4 ป. หนุนปฏิรูปประเทศ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสนอ 4 ป. 'ปราบปราม ป้องกัน โปร่งใส และปลูกจิตสำนึก' แนะ 20 มาตราการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ย้ำพรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนหากมีโอกาสร่วมผลักดันในกระบวนการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
วันที่ 7 มกราคม 2557 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมแกนนำพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ประธานสถาบันออกแบบประเทศไทยแถลงข่าวเปิดพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย “ขจัดคอรัปชั่น มุ่งมั่นปฏิรูป” ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในขณะนี้กระแสการปฏิรูปได้รับความสนใจทางสังคมค่อนข้างสูง แต่การพูดถึงเนื้อหาสาระของการปฏิรูปกลับถูกพูดถึงค่อนข้างน้อย และอาจก่อให้เกิดความไม่เข้าใจ อีกทั้งที่ผ่านมายังไม่มีฝ่ายการเมืองใดพูดถึงเนื้อหาสาระของการปฏิรูป
"ดังนั้นการจะปฏิรูปประเทศให้สำเร็จคงเป็นเรื่องยากหากฝ่ายการเมืองไม่เข้าใจในประเด็นการปฏิรูป จากการที่พรรคได้เข้าหารือกับหน่วยงานต่างๆ จึงสรุปออกมาเป็นพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยใน 7 เรื่องด้วยกันดังนี้ คือ 1.การขจัดทุจริตคอร์รัปชัน 2.ปฏิรูปการเลือกตั้งที่เป็นธรรม 3.การปฏิรูประบบราชการและการ กระจายอำนาจ 4.การปฏิรูปเศรษฐกิจ 5.การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ 6.ปฏิรูปการศึกษา และ7.ปฏิรูปสื่อ"
หัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า จากข้อเสนอการปฏิรูปทั้ง 7 ข้อ ทางพรรคจะรวบรวมประเด็นมาตรการวิเคราะห์ปัญหาทั้ง 7 ด้านโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งนี้พรรคยังมีมาตราการ 4 ป. คือ ปราบปราม ป้องกันโปร่งใส และปลูกจิตสำนึก ร่วมกับมาตรการ 20 ข้อที่จะนำมาใช้ในการปฏิรูปประเทศ
สำหรับ ด้านการปราบปราบ 1.ออกกฎหมายปราบปรามการทุจริต ประชาชนเป็นผู้เสียหายฟ้องร้องได้ 2.ปรับปรุงกฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 3.เพิ่มอำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในการสืบสวนการใช้อำนาจในทางที่ผิด 4.เพิ่มบทบาทสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดิน 5.ใช้มาตรการตรวจสอบภาษีย้อนหลังนักการเมืองและผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานรัฐ
ด้านการป้องกัน 1.มีมาตรการกฎหมายพ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ... 2.ยกระดับระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างออกมาเป็นกฎหมาย 3.ลดการใช้ดุลยพินิจของราชการ เพิ่มการตรวจสอบ งบกลาง เงินอุดหนุน เงินสลาก 4.ลดขนาดรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน 5.จัดระเบียบการโฆษณาของรัฐ 6.ห้ามเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมดำรงตำแหน่งในกรรมการ 7. ให้มีการประเมินความเสี่ยงด้านคอร์รัปชั่นของนโยบายและโครงการใหญ่ๆ เพื่อให้มีเขี้ยวเล็บมากขึ้น ถ้าป.ป.ช.เห็นว่านโยบายไหนมีความเสี่ยงและคณะรัฐมนตรียังยืนยันที่จะดำเนินการนโยบายนั้น หากภายหลังพบว่ามีการทุจริตครม.จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงด้านโปร่งใส คือ 1.จัดให้มีข้อตกลงคุณธรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง 2.เพิ่มมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลรัฐวิสาหกิจให้เทียบเท่ากับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 3.แก้ไขกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการ 4.การเพิ่มความเข้มข้นในการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินและผลประโยชน์ทางธุรกิจของผู้บริหารระดับสูงในภาครัฐ สุดท้ายคือในด้านของการปลูกฝัง 1.ขยายผลหลักสูตรโตไปไม่โกง 2.สนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับด้านคอรัปชั่น 3.จัดตั้งหน่วยงานเฝ้าระวังการคอร์รัปชั่น 4.จัดตั้งกองทุนสนับสุนการต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคประชาชน คล้ายกับการจัดต้องกองทุนสสส.
“สิ่งเหล่านี้ได้มาจากการร่วมเวทีหารือกับองค์กรต่างๆที่ผ่านมา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่ผลักดันติดตามว่าการแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศไทย และพร้อมที่จะสนับสนุนหากมีโอกาสร่วมผลักดันในกระบวนการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและสัปดาห์หน้าจะแถลงด้านอื่นๆเพิ่มเติมอีกครั้ง”