นปช.ย้ำลุยต้านรัฐประหาร-เปิดประเทศ 13ม.ค.
นปช.เรียกประชุมแกนนำทั่วประเทศระดมความคิดวางยุทธศาสตร์ต่อต้านรัฐประหาร และแสดงพลังเปิดประเทศ 13 ม.ค. ยืนยันไม่เข้ากรุงหลีกเลี่ยงการปะทะ...
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 57 การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่หอประชุมสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยมีแกนนำและผู้ประสานงานจาก 50 จังหวัด เข้าร่วมประชุม
นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า การประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือเพื่อระดมความคิด เพื่อหามาตรการในการหยุดการรัฐประหาร และการดำเนินการของ นปช. เกี่ยวกับการปิดกรุงเทพฯ ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
ทั้งนี้ นปช.เองก็จะมีการเคลื่อนพลทั่วประเทศ เพื่อเปิดประเทศเช่นกัน จึงจำเป็นต้องหารือวิธีดำเนินการอย่างเป็นระบบ และจะได้ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการลดความรุนแรง หรือสูญเสีย และหากจะมีการปะทะ ก็จะเป็นการปะทะกันทางความคิดเท่านั้น ไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความเสียหายและเกิดความสูญเสีย
ขณะเดียวกัน นางธิดา ยืนยันว่า เป้าหมายของกลุ่ม นปช. คือ ไม่ยอมรับรัฐประหาร และประณามผู้นำกลุ่มรัฐประหารว่า ไม่มีความถูกต้อง ชอบธรรม และจะทำทุกวิถีทางในการต่อต้านรัฐประหาร แต่เป็นไปด้วยความสันติวิธี เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง
นางธิดาฯ กล่าวต่อว่า การประชุมเชิงยุทธวิธีของแกนนำ นปช. และผู้ประสานงานทั่วประเทศ องค์กร นปช.(แดงทั้งแผ่นดิน) เราต้องการหยุดรัฐประหารวงจรอุบาทว์ในประเทศไทยไม่ให้มีอีกแล้ว และต่อต่านกบฎ คือ ต่อต้านอนาธิปไตย ถ้าเราปล่อยให้มีทั้งรัฐประหารและมีอนาธิปไตยประเทศนี้ จะไม่มีความหวังที่จะก้าวหน้าไปเลย การทำรัฐประหารทำให้ประเทศถอยหลัง
ขณะนี้กลุ่มกบฏที่มีลักษณะอนาธิปไตยอย่างรุนแรง เป็นการทำให้ประเทศถอยหลัง เพราะเขาต้องการล้มระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่คำว่า โค่นระบอบทักษิณ ไม่ใช่โค่นนายกยิ่งลักษณ์ แต่ที่กำลังทำอยู่ คือ โค่นระบอบประชาธิปไตย เพราะปฏิเสธครรลองประชาธิปไตย สนับสนุนการทำรัฐประหาร และอำนาจนอกระบบ ไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชน ไม่ยอมมีการเลือกตั้ง
ฉะนั้น เนื้อแท้ของมัน คือ การโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ประชาชนที่รักประเทศชาตินี้ สมควรที่ต้องลุกขึ้นมาแล้วแสดงเจตจำนง ทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่เราต้องการนั้น คือ หยุดวงจรอุบาทว์ แล้วปล่อยให้ระบอบประชาธิปไตยเดินหน้า ให้ไปประชาชนได้ตัดสินว่า เขาจะเลือกใครมาเป็นผู้บริหารและเป็นตัวแทนของเขาในการออกกฎหมาย ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ประเทศชาติต้องหายนะ แน่นอน
ส่วนการเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์รถถังรถยานเกาะ เข้ากทม.เราตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมการเกษียณอายุราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นที่จะต้องระดมยานยนต์เข้ามาและคนเข้ามาขณะนี้ หรือทำไมในเรื่องวันเด็ก คุณจะสนับสนุนเด็กแบบไหน ให้สนใจเฉพาะเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างมากมาย หรือย่างไร แทนที่จะใช้คำปฏิญาณ และทัศนะที่ถูกต้องในทางการเมือง เราคิดว่า ดูแล้วสิ่งที่กองทัพพยายามจะแก้ข้อกล่าวหา แน่นอนเราไม่อยากให้เกิดรัฐประหาร เราหวังเป็นเช่นนั้น แต่ว่า การที่เราจัดงานครั้งนี้เพื่อที่ระดมประชาชนผู้รักประชาธิปไตยให้ออกมาต่อต้าน ไม่ว่าการทำรัฐประหาร หรือ การไม่เคารพกฎหมายแล้วทำให้ประเทศชาติวุ่นวาย และต้องการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย เราต้องการปลุกประชาชนทั้งประเทศขึ้นมา เริ่มต้นจากแกนนำคนเสื้อแดงก่อน
ส่วนการกำหนดทิศทาง การเคลื่อนไหววันที่ 13 ม.ค. 2557 เราจะมีการรวบรวมระดมความคิดของแกนนำทุกภาคและจากนั้นจะรวมรวบในตอนเย็น เพื่อเป็นยุทธวิธีว่า ในแต่ละภาคจะทำอะไรได้บ้าง เราต้องรับฟังทุกคนด้วยว่า คิดเห็นอย่างไร แล้วเอามาผนึกรวมด้วยกัน แล้วเราจะระดมเป็นการทำงานครั้งใหญ่ทั่วประเทศ การที่เรานัดวันนี้เป็นการเฉพาะหน้า เพื่อเตรียมวันที่ 13 ม.ค.57 และเราต้องการที่จะแสดงความมุ่งมั่นทางการเมืองของเราว่า เราจะต่อต้านรัฐประหารกันอย่างไรให้เป็นรูปธรรม และแน่นอนไม่เกิดก็ดี แต่นี่คือการปลุกจิตสำนึกทางการเมืองของประชาชนเพื่อต่อต้านกับสิ่งที่จะ ทำให้ประเทศถอยหลัง
นางธิดาฯ กล่าวว่า วันที่ 13 ม.ค. 57 ส่วนใหญ่ทำงานในต่างจังหวัดทั้งหมด จะไม่มีเข้าไปปะทะกับกลุ่ม กปปส.ใน กทม. แต่ทางความคิดปะทะแน่ สู้แน่ แต่ร่างกายไม่จำเป็นต้องปะทะ จิตใจก็ปะทะ ความคิดก็ปะทะ แต่ร่างกายไม่ต้องปะทะ เราทำทั่วประเทศ ในวันที่ 13 ม.ค. 57 เรามุ่งมั่นแสดงให้เห็นว่าเราไม่เห็นด้วยกับการปิดกรุงเทพฯ หรือปิดประเทศ ฉะนั้นวันนั้นจะเป็นการเริ่มต้น การต่อต้านอย่างเป็นทางการในระดับทั่วประเทศ
นางธิดาฯกล่าวปราศรัยกับคนเสื้อแดงว่า ตัวเลขที่ที่เราคาดที่มาวันนี้อย่างน้อยประมาณ 5,000 คน แต่ที่นั่งอยู่ในที่นี้ยังไม่ถึง(กว่า 3 พันคน) การประชุมนี้นับมีความหมายทางประวัติศาสตร์มากว่า การที่เรานัดประชุมแกนนำทั่วประเทศ เป็นการส่งสัญญาณเพื่อที่จะให้กลุ่มเผด็จการณ์รัฐประหาร ได้มีความเข้าใจว่า ขณะนี้ประชาชนและคนเสื้อแดงพร้อมแล้ว ที่ต้องการที่จะหยุดรัฐประหารในประเทศไทย ไม่ให้มีอีกต่อไป หยุดวงจรอุบาทว์เสียที
และในขณะเดียวกัน เราต้องการที่จะหยุดพวกอนาธิปไตย อันได้แก่ กบฎสุเทพ เทือกสุบรรณ และคณะด้วย เพราะประเทศนี้ถูกทำลายย่อยยับ มามากพอแล้ว พอกันทีถึงเวลาที่ประชาชนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งคนเสื้อแดง จะผนึกกำลังกันหยุด ยั้งวงจรอุบาทว์ ของคณะรัฐประหารจากกองทัพ และหยุดยั้งขบวนการของสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งสองขบวน โดยเรามีการให้ตัวแทนแกนนำแต่ละภูมิภาค ขึ้นเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็นในเชิงยุทธวิธี เราจะต้านรัฐประหาร และหยุดรัฐประหาร วงจรอุบาทว์ ทั้งในส่วนกลาง ทั้งในพื้นที่ของตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม สำหรับแกนนำที่ขึ้นเวทีในช่วงเช้า ได้แก่ นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ และแกนนำแต่ละจังหวัด ส่วนในช่วงบ่ายจะเป็น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ุ จะขึ้นปราศรัยด้วย.