ใต้ระอุยิงดับผู้นำท้องถิ่นรายวัน ตร.-ผู้ว่าฯเล็งเชิญคู่ขัดแย้งนั่งเคลียร์
ชายแดนใต้เดือดแม้เพิ่งผ่านเทศกาลขึ้นปีใหม่ คนร้ายควบกระบะรัวเอ็ม 16 อาก้า ถล่มรถผู้ใหญ่บ้านปิตุมุดี อ.ยะรัง ปัตตานี ดับคาพวงมาลัย เผยดักสังหารระหว่างเดินทางกลับจากประชุมผู้นำท้องถิ่นประจำเดือนที่อำเภอ ก่อนหน้านั้นแค่วันเดียว ประกบยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบที่สายบุรีสิ้นชื่ออีกราย ผู้การปัตตานี เต้น สั่งทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงแจ้งเตือนให้ระวังตัว จับมือผู้ว่าฯเชิญคู่ขัดแย้งจับเข่าคุย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีเหตุรุนแรง เกิดขึ้นรายวัน แม้เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ โดยล่าสุดวันจันทร์ที่ 6 ม.ค.2557 เวลา 12.30 น. พ.ต.ท.ธวัชชัย สังฆมิตกล รองผู้กำกับการ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ปัตตานี-ยะลา) ท้องที่บ้านราบอ แยกถนนสิโรรส หมู่ 3 ต.ปิตุมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ห่างจากทางเข้าโรงเรียนตลาดนัดบาซาเอ ประมาณ 100 เมตร จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด รวมทั้งกำลังทหาร และฝ่ายปกครอง
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 ตกอยู่บนถนนรวม 6 ปลอก ห่างออกไปประมาณ 80 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ จี-แวกอน 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 9561 กระบี่ จอดเสียหลักอยู่ริมถนน สภาพรถมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนจนกระจกแตกทุกบาน และบริเวณตัวรถด้านคนขับเป็นรูพรุนหลายแห่ง ภายในรถมีรอยเลือด และยังตรวจพบหัวกระสุนปืนอาก้าอีก 1 หัว จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ที่ถูกยิง ทราบชื่อคือ นายหามะ โต๊ะแวมะ อายุ 56 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ปิตุมุดี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.ปิตุมุดี อ.ยะรัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 หลายแห่ง อาการสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลยะรัง แพทย์ส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี แต่สุดท้ายนายหามะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายหามะ กำลังเดินทางกลับจากการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำเดือน ม.ค. ที่หอประชุมอำเภอยะรัง ระหว่างทางกลับบ้านมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับตามประกบ เมื่อสบโอกาสคนบนรถได้ใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มใส่ เป็นเหตุให้นายหามะเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น และการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ผรส.ที่ละหารสังเวยอีกราย
ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ขี่ตามประกบยิง นายบูดีมัน มะโล๊ะ อายุ 42 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษา ความสงบ (ผรส.) หมู่ 3 ต.ละหาร อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 3 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะ นายบูดีมัน กำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน กลล 551 นราธิวาส กลับจากทำธุระเพื่อกลับบ้าน โดยใช้เส้นทางสาย 42 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ปัตตานี-นราธิวาส) จุดเกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนละหารมิตรภาพ ท้องที่บ้านบูเกะ หมู่ 3 ต.ละหาร อ.สายบุรี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิงเช่นกัน
ต่อมาช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานปัตตานี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม และตรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว เชื่อว่าเป็นหัวกระสุนจากอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิงนายบูดีมัน ส่วนปมสังหารนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ผู้การปัตตานีเต้นสั่งทำบัญชีแจ้งเตือน
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2556 เป็นต้นมา มีเหตุการณ์คนร้ายยิงผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (อส.หรืออาสารักษาดินแดน) และเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกรณีในพื้นที่ จ.ปัตตานี กระทั่งถึงช่วงปีใหม่ก็ยังคงเกิดเหตุยิง อส. ยิงตำรวจ และยิงผู้นำท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้จึงได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้จัดทำทะเบียนรายชื่อของผู้นำท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ไว้ พร้อมกับคอยแจ้งเตือนให้ระมัดระวังตัวเอง ซึ่งในทีนี้ให้รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.ด้วย โดยเฉพาะการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต้องช่วยกันระมัดระวัง ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องราชการ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดซ้ำซ้อนขึ้นอีก
จับมือจังหวัดเชิญคู่ขัดแย้งนั่งเคลียร์
พล.ต.ต.โพธ กล่าวเพิ่มเติมกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และผู้ว่าราชการจังหวัด ยังมีแนวคิดร่วมกันว่าจะเชิญคู่ขัดแย้งที่เกี่ยวพันกับการเมืองท้องถิ่น มานั่งจับเข่าคุยกัน เพื่อเคลียร์ใจและทำความเข้าใจ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลาง ทั้งนี้เพราะเหตุรุนแรงหลายๆ เหตุการณ์ โดยเฉพาะเหตุยิงรายวันน่าเชื่อว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น
"ส่วนในทางคดีก็ยังทำต่อไป ตำรวจก็ต้องสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเกิดจากปมขัดแย้ง หรือการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ในกรณีที่เรารู้หรือมีการข่าวแจ้งเตือนว่าในพื้นที่ไหนมีความขัดแย้งกันรุนแรงในเรื่องการเมืองท้องถิ่น ก็จะเข้าไปแก้ไขปัญหาด้วยการให้จังหวัดเป็นคนกลาง เชิญคู่ขัดแย้งมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน เพื่อลดความขัดแย้งและความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา" พล.ต.ต.โพธ กล่าว
ตั้งแต่ปีใหม่ยิงรายวันถี่ยิบ
อนึ่ง ตั้งแต่ช่วงปีใหม่เป็นต้นมา เกิดเหตุยิงตำรวจ อส. และทหารพรานแล้วหลายราย ได้แก่ วันที่ 2 ม.ค. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพ กขนาด 9 มม.จ่อยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) มะแปซอ อาแว อายุ 39 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4716 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านฆอรอราแม หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตขณะเล่นกีฬาอยู่ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง หมู่ 3 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา
วันที่ 3 ม.ค. คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายเจ๊ะอุสมัน หะยีกาเซ็ง อายุ 45 ปี อส.จังหวัดปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 4 บ้านปะกาฮะรัง หมู่ 7 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
วันที่ 4 ม.ค. คนร้ายยิง ด.ต.มะรอเซะ มูหนะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาร้านน้ำชาบ้านบานา โดยกระสุนยังพลาดไปถูก นายอิสมาแอ มะแซ อายุ 43 ปี อส.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี