รัฐบาลเมินแถลงการณ์ กกต.
รัฐบาลเมิน แถลงการณ์ กกต. "พงศ์เทพ" ยันตาม ก.ม.ต้องเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 สงสัย กกต.ไม่เปลี่ยนสถานที่รับสมัครปาร์ตี้ลิสต์ทั้งที่ประสานงานมาแล้ว
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีแถลงการณ์แสดงจุดยืนต้องการให้รัฐบาลเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบริเวณอาคารกีฬาเวสน์ 2 ดินแดง นััน รัฐบาลขอยืนยันว่าเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ต้องมีการเลือกตั้งภายในเวลา 60 วัน นับแต่วันยุบสภาฯ เพื่อให้มีสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่โดยเร็ว กลไกในการบริหารจัดการประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนจะได้ดำเนินไปอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
นายพงศ์เทพ กล่าวอีกว่า ส่วนกำหนดวันเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นวันที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกายุบสภา และไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใดที่ให้อำนาจรัฐบาลในการเลื่อนวันเลือกตั้งดังกล่าว คงมีแต่ พ.ร. บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 78 ที่ให้ กกต.กำหนดวันลงคะแนนใหม่ เฉพาะในหน่วยเลือกตั้งแห่งใดที่ไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ เนื่องจากเกิดการจลาจล เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น โดย กกต.ต้องกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เหตุดังกล่าวสิ้นสุดลง
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ กกต.ระบุว่าปรากฏการณ์ความรุนแรงยิ่งจะทวีความรุนแรงขึ้น หากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไปนั้น การเลื่อนการเลือกตั้งออกไป กลับยิ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายและมีความรุนแรงมากกว่า และในเวลาที่นานกว่า เพราะเมื่อมีการเลือกตั้ง ได้สภาฯชุดใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และการปฏิรูปประเทศจะได้ดำเนินไปโดยผู้ที่ได้รับอาณัติจากประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และมีโอกาสได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่า
นายพงศ์เทพ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่บริเวณอาคารกีฬาเวสน์ 2 ดินแดง ในวันนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บจากกระสุนปืนและวัตถุระเบิดอีก 25 นาย และผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งนั้น ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการประสานงานจากสำนักงานกกต.ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้เตรียมลงในราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง แต่ก็น่าเสียดาย เพราะในที่สุดมีการแจ้งยกเลิก ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่า กกต.ไม่มีมติให้เปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครดังกล่าว ทั้งนี้ กกต.มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายในการจัดการเลือกตั้ง รัฐบาลได้แจ้งต่อกกต.ว่าพร้อมจะสนับสนุนการทำงานของ กกต.อย่างเต็มที่
นายพงศ์เทพ กล่าวอีกว่า การที่ กกต.เสนอให้รัฐบาล คู่ขัดแย้ง และทุกภาคส่วนในสังคม ทำความเข้าใจและสร้างข้อตกลงร่วมกันเพื่อความสงบสุขในสังคมนั้น รัฐบาลพยายามแล้วที่จะเปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาข้อสรุปร่วมกันมาหลายครั้ง แต่มีบางฝ่ายที่ไม่เข้ามาร่วมในเวทีดังกล่าว ถ้ากกต.เสนอตนเป็นคนกลางในการเชิญทุกฝ่ายเข้ามาหารือ กกต.ก็สามารถกระทำได้ โดยสามารถเริ่มต้นเชิญฝ่ายผู้ชุมนุมมาหารือได้ทันที กระบวนการหารือนี้สามารถทำไปได้พร้อมๆ กับการเลือกตั้ง.