ค้นใบหุ้น 2 ล้าน "เมียพล.อ.เสถียร"ก่อนถูก ป.ป.ช.สั่งอายัดรอบใหม่
เปิดใบหุ้นมูลค่า 2 ล้าน "เมียพล.อ.เสถียร" ก่อนถูก ป.ป.ช.สั่งอายัดรอบใหม่ เผยปรากฎชื่อผู้ถือครองช่วงสามีถูกตรวจสอบคดีร่ำรวยผิดปกติ ก่อนโอนย้ายให้บุคคลอื่น ต้นเดือนต.ค.56 ที่ผ่านมา คนในบริษัทฯ ปัดให้ข้อมูล ระบุเรื่องส่วนตัวเจ้านาย
กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งอายัดทรัพย์ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เพิ่มเติม ในคดีกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยเป็นการอายัดทรัพย์สินในส่วนของคู่สมรสและทรัพย์สินที่คู่สมรสโอนให้บุคคลอื่น เนื่องจากเชื่อว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนซุกซ่อนทรัพย์สินดังกล่าว โดยในจำนวนทรัพย์สินที่ถูกออกคำสั่งอายัดเพิ่มเติม ปรากฏหุ้นสามัญบริษัทกฎหมายเรืองสิทธิ์ จำกัด จำนวน 2 หมื่นหุ้น รวมอยู่ด้วยนั้น
(อ่านประกอบ: ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สิน“พล.อ.เสถียร” อดีตปลัด กห.เพิ่ม)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการอายัดหุ้นสามัญบริษัทกฎหมายเรืองสิทธิ์ จำกัด จำนวน 2 หมื่นหุ้น ที่ถูก ป.ป.ช. ออกคำสั่งอายัดดังกล่าว พบว่าปรากฏอยู่ในชื่อของ นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทกฎหมายเรืองสิทธิ์ จำกัด ที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นับตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 พบว่า นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ เพิ่งปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา
โดย นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ถือครองหุ้นทั้งหมด จำนวน 20,000 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 บาท จากจำนวนหุ้นบริษัททั้งหมด 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 5,000,000 บาท นับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับสอง ลงมาจากนายประสิทธิ์ หมอทรัพย์ กรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทฯ ซึ่งถืออยู่จำนวน 28,700 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 2,870,000 บาท
ขณะที่นางณัฐณิชาช์ มิได้ปรากฎชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทแต่อย่างใด
(ดูหลักฐานประกอบ)
(รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2553)
(รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มีนาคม 2555)
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปรากฎชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นอับดับสองของบริษัทฯ ดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 บริษัทฯ ได้ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นชุดใหม่ ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้รับทราบ ปรากฏว่า ชื่อของนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ได้หายไปจากบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทฯ
ขณะที่สัดส่วนหุ้นที่ นายประสิทธิ์ หมอทรัพย์ ถือครองอยู่ เพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวน 48,700 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 4,870,000 บาท โดยจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาอีก 20,000 หุ้น เท่ากับจำนวนหุ้นที่นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ เคยถือครองไว้
(ดูหลักฐานประกอบ)
(รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2556)
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท กฎหมาย เรืองสิทธิ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 ทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ก่อนจะปรับเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 (ก่อนหน้าที่นางณัฐณิชาช์ จะเข้ามาถือหุ้น) ตั้งอยู่เลขที่ 102/6 ซอยกำแพงเพชร 6 ซอย 5 แยก 1 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. แจ้งประกอบธุรกิจ ให้บริการติดตาม ทวงถาม ทวงหนี้ในธุรกิจทุกประเภท
ปรากฏชื่อ นายประสิทธิ์ หมอทรัพย์ เป็นกรรมการผู้อำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่
แหล่งข่าวระดับสูงจาก ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า สาเหตุที่ ป.ป.ช. ต้องใช้อำนาจกฎหมายออกคำสั่งอายัด หุ้นสามัญบริษัทกฎหมายเรืองสิทธิ์ จำกัด จำนวน 2 หมื่นหุ้น เพราะเห็นว่าในช่วงที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบคดีกล่าวหา พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ร่ำรวยผิดปกติ หลังพบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยแจ้งไว้จำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งมีหุ้นจำนวนนี้ในชื่อของนางณัฐณิชาช์รวมอยู่ด้วย และพบว่ามีพฤติการณ์โอนย้ายหุ้นไปอยู่ในชื่อของบุคคลอื่นจึงจำเป็นที่จะต้องอายัดเอาไว้ก่อน เช่นเดียวกับทรัพย์สินส่วนอื่นๆ เช่น ที่ดิน 1 แปลงใน จ.ขอนแก่น และ 10 แปลงใน จ.อุบลราชธานี และรถยนต์ยี่ห้อฮัมเมอร์อีก 1 คัน
“ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้ออกหนังสือแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ รวมถึง พล.อ.เสถียร มาชี้แจงข้อมูลพร้อมโต้แย้งสิทธิ์การถือครองทรัพย์สินแล้ว หากสามารถชี้แจงข้อมูลได้ ป.ป.ช. ก็พร้อมที่จะปล่อยทรัพย์สินที่อายัดไว้คืนให้ และคดีนี้น่าจะจบเร็วๆ นี้แน่นอน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้ติดต่อไปยังบริษัทกฎหมายเรืองสิทธิ์ จำกัด เพื่อขอให้ นายประสิทธิ์ หมอทรัพย์ ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถือครองหุ้นบริษัทจำนวน 20,000 หุ้นต่อจากนางณัฐณิชาช์ แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานบริษัทฯว่า นายประสิทธิ์ ไม่อยู่ที่บริษัทฯ และไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้
“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณประสิทธิ์ มีอะไรเขาก็คงจะจัดการเอง ทางเราคงให้ข้อมูลอะไรในเรื่องนี้ไม่ได้” พนักงาน บริษัทฯ รายนี้ระบุ
(อ่านประกอบ: พล.อ.เสถียรยื่นบัญชีทรัพย์สินรอบใหม่ ห้องพัก ที่ดินอื้อ -ป.ป.ช.จ้องฟันซ้ำ)