บอมบ์สะเดา...ป่วนใต้ขยายวง เขย่าความมั่นคงสะเทือนถึงเศรษฐกิจ
เหตุระเบิดครั้งรุนแรง 3 จุดในพื้นที่ อ.สะเดา เมืองเศรษฐกิจริมชายแดนที่สำคัญของ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปเบื้องต้นจากหน่วยงานความมั่นคงว่า มีความเกี่ยวโยงกับการสร้างสถานการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างค่อนข้างชัดเจน
แต่จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง "สมประโยชน์" กับกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเฉพาะน้ำมันเถื่อน สินค้าเถื่อน หรือรับงานรับจ้างกลุ่มธุรกิจมืดที่ไหนมาหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
สาเหตุ 3 ประการที่ทำให้เหตุบึ้มสะเดาโยงสามจังหวัดได้ ก็คือ
1.รถคาร์บอมบ์ที่ใช้ตรงจุดเกิดเหตุโรงแรมโอลิเวอร์ บ้านด่านนอก เป็นรถกระบะที่ถูกโจรกรรมหลังก่อเหตุร้ายสังหารกลุ่มชาวบ้านหาปูเปี้ยวริมทะเล อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2556 งานนั้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย รถกระบะคันดังกล่าวยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 5164 นครศรีธรรมราช
2.วิธีการจุดระเบิด แม้จะใช้โทรศัพท์มือถือก็จริง แต่ไม่ใช่การโทรไปจุดระเบิดด้วยซิมการ์ด ทว่ากลายเป็นการตั้งเวลาจากโทรศัพท์ ซึ่งวิธีการแบบนี้ พ.อ.กฤตภาส เครือเนตร ผู้บังคับหน่วยทำลายวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย บอกว่าเกิดขึ้นหลายครั้งในระยะหลังที่ชายแดนใต้ มือระเบิดที่ต่อวงจรแบบนี้จึงน่าจะเกี่ยวโยงกัน
3.การพบคาร์บอมบ์อีก 1 คันที่ จ.ภูเก็ต เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน ผฉ 708 สงขลา แต่ติดป้ายทะเบียนปลอม โดยรถคันนี้เป็นของ นายวิธาน ยาชำนาญ อายุ 34 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.56 แล้วคนร้ายชิงรถไป โดยภายในรถ ใต้เบาะแคป มีการติดตั้งถังแก๊สที่ประกอบระเบิดไว้ภายในถึง 2 ถัง โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อน และเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย
แกนนำสั่งป่วนนอก3จังหวัด
ปฏิบัติการความรุนแรงนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่มีอาณาเขตต่อเนื่องกัน สอดรับกับกระแสข่าวที่หน่วยข่าวความมั่นคงในส่วนกลางได้รับก่อนหน้านี้ว่า มีการเรียกประชุมสั่งการโดยแกนนำคนสำคัญจากนอกประเทศให้แนวร่วมในพื้นที่เร่งก่อเหตุรุนแรง และสามารถปฏิบัติการนอกพื้นที่สามจังหวัดได้ หลังจากอนาคตของโต๊ะพูดคุยสันติภาพส่อเค้ามืดมน นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และรัฐบาลกำลังสาละวนอยู่กับปัญหาการเมืองในส่วนกลาง จึงมีช่องโหว่เยอะมากให้ก่อเหตุ
การสั่งการก่อเหตุรุนแรงนอกพื้นที่สามจังหวัด เกิดขึ้นใกล้เคียงกับช่วงที่มีการออกแถลงการณ์อ้างมติสภาปฏิวัติบีอาร์เอ็น ระบุว่าจะไม่ร่วมพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทยอีกต่อไป เนื่องจากรัฐบาลไทยไม่มีความจริงใจ ไม่นำข้อเรียกร้อง 5 ข้อเข้าขอมติจากรัฐสภา และนายกรัฐมนตรีไม่ประกาศให้การพูดคุยสันติภาพเป็นวาระแห่งชาติ
ไม่ตัดทิ้งโยงธุรกิจมืด
อย่างไรก็ดี การวิเคราะห์ของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ดูจะมีความซับซ้อนกว่า และไม่ตัดประเด็นเชื่อมโยงเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายทิ้งไป โดยชี้ว่าเหตุระเบิดที่หน้า สภ.ปาดังเบซาร์ และบริเวณลานจอดรถ สภ.สะเดา ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์บอมบ์ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ น่าจะเป็นการข่มขู่หรือตอบโต้กรณีที่ตำรวจเปิดยุทธการไล่ล่าจับกุมสินค้าหนีภาษีทุกประเภทของกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่
และก่อนเกิดเหตุเพียงหนึ่งวันมีรายการข่าวโทรทัศน์ยอดนิยมนำเสนอสกู๊ปข่าวการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีจากด่านชายแดนสู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีปลายทางคือสถานบันเทิงกลางกรุงเทพฯด้วย จึงอาจมีการว่าจ้างกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าไปดำเนินการ
ส่วนเหตุระเบิดที่โรงแรมโอลิเวอร์ ด่านนอก น่าจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มก่อความไม่สงบในการขยายอิทธิพลออกนอกพื้นที่สามจังหวัดและ 4 อำเภอของสงขลา โดยอาศัยช่วงการเมืองวุ่นวาย เป็นสุญญากาศอำนาจ (ยุบสภา) และเจ้าหน้าที่ไม่มีสมาธิในการเฝ้าระวัง
เงินสะพัด3แสนล้านที่ด่านสะเดา
อ.สะเดา เป็นอำเภอชายแดนของ จ.สงขลา มีเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย มีด่านศุลกากรขนาดใหญ่ถึง 2 ด่าน คือ ด่านสะเดา หรือ ด่านไทยจังโหลน ที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม และ ด่านปาดังเบซาร์ ต.ปาดังเบซาร์ มีมูลค่าสินค้าที่ส่งออกและนำเข้ารวมปีละกว่า 5 แสนล้าน สูงที่สุดเมื่อเทียบกับด่านชายแดนทุกด่านทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพฯ
นอกจากนั้น ที่บ้านด่านนอกยังได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีแห่งใหม่ทดแทน อ.หาดใหญ่ รองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียนิยมเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ร้านอาหาร และสถานบันเทิง
หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มากถึง 11 แห่ง มีร้านเบอร์เกอร์ชื่อก้องโลกอย่างแม็คโดนัลด์ มีโรงแรมที่มีห้องพักระดับร้อยห้องหลายแห่ง มีดิสโก้เธคขนาดใหญ่ 6 แห่ง สถานบันเทิงขนาดเล็กและใหญ่อีกเป็นร้อยแห่ง มีการลงทุนก่อสร้างโรงแรมมูลค่าเป็นพันล้านบาท โดยที่โรงแรมโอลิเวอร์ที่เพิ่งโดนคาร์บอมบ์ จุดที่เกิดระเบิดเป็นจุดที่กำลังก่อสร้างดิสโก้เธคแห่งใหม่
ปัจจุบันพื้นที่ อ.สะเดา แบ่งเขตการปกครองเป็น 9 ตำบล คือ ต.สะเดา ต.ปริก ต.พังลา ต.สำนักแต้ว ต.ทุ่งหมอ ต.ท่าโพธิ์ ต.ปาดังเบซาร์ ต.สำนักขาม และ ต.เขามีเกียรติ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
บีอาร์เอ็นเหมารวมพื้นที่ชายแดนใต้
โดยปกติแล้ว อ.สะเดา ไม่ได้ติดกลุ่มเป็นอำเภอที่มีปัญหาความมั่นคงเหมือนอีก 4 อำเภอของ จ.สงขลา ที่มีพื้นที่ติดต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง)
กระทั่ง อ.สะเดา ถูกลากเข้าไปเกี่ยวพันกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อในคำแถลงความตกลงยุติเหตุรุนแรงช่วงรอมฎอน 40 วันที่ชายแดนใต้ระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็น เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2556 ได้ระบุขอบเขตพื้นที่ของความตกลงว่าครอบคลุม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กับ 5 อำเภอของ จ.สงขลา คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และสะเดา ทั้งๆ ที่ อ.สะเดา ไม่ได้เป็นพื้นที่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ในการแถลงผ่านคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ YouTube รอบที่ 4 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2556 นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็นซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทย ได้ระบุทำนองว่า ดินแดนที่พวกเขาเรียกขานว่า "ปาตานี" และเรียกร้องให้ถอนกำลังทหาร-ตำรวจออกจากพื้นที่นั้น อยู่ในเขต จ.สงขลา 5 อำเภอ แต่ขณะนั้นยังไม่ได้เปิดเผยชื่อ "อำเภอที่ 5" ว่าคืออำเภออะไร
นายกเล็กเร่งฟื้นเชื่อมั่น
นายเกชา เบ็ญจคาร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำนักขาม เผยความรู้สึกให้ฟังว่า เหตุระเบิด 3 ลูกซ้อนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องความไม่สงบ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ด่านนอก และ ต.สำนักขามอย่างแน่นอน โดยมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวการโยงพื้นที่ อ.สะเดา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ความไม่สงบ ผู้ประกอบการและชาวบ้านในพื้นที่ทุกคนล้วนไม่ต้องการ และไม่อย่างให้ดึง อ.สะเดา เข้าไปเกี่ยวข้อง ที่นี้ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงมาก่อนจะไปรวมกับสามจังหวัดและ 4 อำเภอของ จ.สงขลาได้อย่างไร และแม้จะเกิดเหตุระเบิดครั้งนี้แล้ว ทุกคนก็ยังยืนยันเหมือนเดิม คือไม่ยอมให้เอาพื้นที่นี้ไปผนวกรวมกับพื้นที่ความไม่สงบ
"เร็วๆ นี้จะพูดคุยกับผู้ประกอบการและประชาชนเพื่อหาแนวทางฟื้นฟูปรับปรุงให้พื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด งานเคาท์ดาวน์ที่จะจัดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ก็ยังจะจัดเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง" นายเกชา กล่าว
ส่วนเรื่องมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนับจากนี้ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำนักขาม บอกว่า คงต้องหารือกับผู้ประกอบการเพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตา รวมถึงการขอสนับสนุนกำลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจเพิ่มขึ้นด้วย แต่คงไม่ขอกำลังทหารมาดูแลเหมือนพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เศรษฐกิจเมืองเที่ยวสะเทือน
น.ส.เจน (สงวนนามสกุล) ผู้จัดการร้านคาราโอเกะ "โอเวชั่น" ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดเพียง 10 เมตร และร้านได้รับความเสียหายทั้งหมด กล่าวว่า โชคดีที่ตัวเธอและเด็กหลายคนไม่ได้อยู่ที่ร้านขณะเกิดระเบิดขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลากลางวัน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
"งงมากกับเหตุระเบิด เคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับตนเอง ซ้ำยังเป็นช่วงใกล้ปีใหม่แบบนี้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนแน่นอน เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวกันมาก ร้านของหนูเสียหายหมด ต้องใช้เวลาซ่อมไม่ต่ำกว่า 2-3 สัปดาห์กว่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีก"
ผู้จัดการร้านคาราโอเกะ บอกอีกว่า เมื่อร้านต้องปิดซ่อม พนักงานในร้านก็ต้องหยุด ไม่มีงานทำ แต่ทางร้านก็พยายามช่วยเหลือพนักงานอย่างเต็มที่
"เขาสู้เราก็สู้ เราเดือดร้อนมาด้วยกันก็ต้องดูแลกัน แต่หนูเชื่อว่า ทางหน่วยงานในพื้นที่จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ เพื่อให้กลับมาเปิดได้ตามปกติโดยเร็ว ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวหาย ไม่กล้าเข้ามาเที่ยว หนูไม่กลัว เพราะนักท่องเที่ยวมาเลย์นั้น ช่วงแรกอาจจะหายๆ ไปบ้าง แต่สักพักก็กลับสู่ปกติ นักท่องเที่ยวมาเลย์ลืมเรื่องพวกนี้เร็ว"
ขณะที่ นางเจิน (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านคาราโอเกะ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเธอไม่ได้อยู่ที่ร้าน รู้ข่าวตอนแรกว่ามีระเบิดที่ปาดังเบซาร์ กับในตัว อำเภอสะเดา ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุที่ด่านนอกด้วย ตกใจมากหลังจากที่รู้ข่าวว่าที่ร้านก็ได้รับความเสียหายด้วย ทั้งเสื้อผ้า ตู้โชว์และอุปกรณ์มือถือได้รับความเสียหาย รวมๆ แล้วก็หลายหมื่นบาท
"ยังโชคดีที่ระเบิดเกิดขึ้นเร็ว หากเกิดตอนเย็นๆ หรือใกล้ค่ำคงมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบาดเจ็บล้มตายกันเยอะกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก ทุกคนที่ด้านนอกเป็นคนทำมาหากินทั้งนั้น ไม่เคยไปเกี่ยวข้องอะไรกับใคร มาทำแบบนี้ทำไม" นางเจินถามเสียงท้อ
เป็นคำถามที่ยังไม่มีใครรู้คำตอบชัด...นอกจากตัวผู้กระทำ!
--------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พนักงานเทศบาลตำบลสำนักขามเร่งเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งรุนแรง
2-3 สภาพความเสียหายจากคาร์บอมบ์ที่ด่านนอก ขณะที่พนักงานของสถานบริการที่เกิดเหตุระเบิดเข้าไปค้นหาทรัพย์สินที่อาจเหลือรอดจากความรุนแรง (ภาพทั้งหมดโดย สุเมธ ปานเพชร)