พบหลักฐานบึ้มสะเดาโยงสามจังหวัด กู้ระทึกคาร์บอมบ์ภูเก็ตจากสายบุรี
ตำรวจพบหลักฐานบึ้มสะเดาส่อโยงสถานการณ์สามจังหวัดใต้ โดยเฉพาะเหตุคาร์บอมบ์ที่โรงแรมหรูด่านนอก รถที่ใช้ซุกระเบิดถูกชิงมาจากเหยื่อฆ่า 5 ศพขณะหาปูเปี้ยวที่หนองจิก ปัตตานี "ผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัด" ประสานเสียงเป็นฝีมืออาร์เคเคจ้องป่วน จับตาโยงน้ำมันเถื่อนด้วยหรือไม่ ส่วนที่ภูเก็ต ฝ่ายความมั่นคงยอมเปิดข้อมูลแล้ว พบคาร์บอมบ์จอดหลังโรงพักจริง แฉรถที่ใช้ถูกชิงจากเหยื่อกระสุนที่สายบุรี
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานสรุปเหตุระเบิดที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.2556 ดังนี้
- เกิดระเบิดขึ้นรวม 3 จุด
- จุดแรกเวลา 10.45 น. มอเตอร์ไซค์บอมบ์ใกล้ด่านตรวจชายแดน เขต สภ.ปาดังเบซาร์ คนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่มีผู้บาดเจ็บ
- จุดที่สองเวลา 10.45 น. มอเตอร์ไซค์บอมบ์หน้าร้านน้ำชาภายในโรงพัก สภ.สะเดา คนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่มีผู้บาดเจ็บเช่นกัน
- จุดที่สาม เวลา 12.30 น. คาร์บอมบ์ด้านหลังโรงแรมโอลิเวอร์ บ้านด่านนอก หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยรถกระบะที่คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกไว้ เป็นรถยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 5164 นครศรีธรรมราช
ผู้บาดเจ็บพุ่ง 27 ราย รวมมาเลย์-เวียดนาม
รายชื่อผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลสะเดา 8 ราย ประกอบด้วย นางสุภาภรณ์ ดำขำ อาการสาหัส ส่งต่อโรงพยาบาลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, น.ส.ไสว สีสันงาม, นายพิรุณ บึงชัยภูมิ, นายกัลยา ถาวรรักษ์, น.ส.นันทยา นามทิพย์, น.ส.ทิพย์ (ชาวไทยใหญ่) ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, นายสุทิน จำเริญศรี ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และนางพนิดา เสนาวงศ์
ส่วนผู้บาดเจ็บที่นำส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ 19 ราย ได้แก่ นายอำพล เลาลี่ อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงใหม่, นาย NAN WAN WAN อายุ 37 ปี ชาวมาเลเซีย, น.ส.บัวคำ ชิตวงศ์ อายุ 21 ปี, หญิงไม่ทราบชื่อชาวมาเลเซีย อายุ 25 ปี, นางสุมาลี จันเลน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา, นายศุภกร มั่งมีถาวร อายุ 62 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.สำนักขาม, นายปองพล ไชยสาร อยู่บ้านเลขที่ 115/159 หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา
นายโพซา กิตติศักดิ์ดำรง อายุ 60 ปี ชาว จ.เชียงราย, น.ส.พิศสมัย อินทวงศ์ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.สำนักขาม, น.ส.วรรณภา เฮงชวน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/34 ซอยรุ่งทรัพย์ หมู่ 2 ต.สำนักขาม, นายธวัชชัย ศรีสังข์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/125 ซอยสองชัย หมู่ 2 ต.สำนักขาม, เด็กหญิงซาอิ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 6 ขวบ ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา, นายอาเฉิน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 29 ปี
น.ส.สุวิณี ศรีพาลอ้าย อายุ 26 ปี, นายวงศ์ตะวัน งามแป้น อายุ 30 ปี, นางดวงใจ ศรีคำคง อายุ 25 ปี, นายสมศักดิ์ ปราบจิต อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 6 ต.ควนโส อ.ควนเนียง จ.สงขลา ขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์, นางเนาวรัตน์ เกิดนิยม อายุ 46 ปี ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์, นาง CHACI CAMLY อายุ 25 ปี ชาวเวียดนาม ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
คาร์บอมบ์โยงปิคอัพจากเหตุฆ่า5ศพหนองจิก
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ตำรวจพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมโอลิเวอร์ว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้ทำ "คาร์บอมบ์" เป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน แบบตอนเดียว หลังคาไฟเบอร์ บริเวณกระโปรงหน้ารถและฝากระบะท้ายคาดสีดำ คนร้ายมี 2 คน สวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า นำรถเข้าไปจอดตรงจุดเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 07.00 น. จากนั้นมีคนร้ายอีกคนขี่รถจักรยานยนต์มารับทั้งคู่ออกไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถกระบะคันนี้น่าจะเป็นคันเดียวกับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บม 5164 นครศรีธรรมราช ที่คนร้ายชิงไปหลังก่อเหตุยิงชาวบ้านหาปูเปี้ยวเสียชีวิต 5 ศพในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากรถมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก แต่คนร้ายอาจนำไปใส่หลังคาไฟเบอร์กลาสและคาดสีดำเพื่ออำพราง
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เหตุระเบิดทั้งสามจุดเป็นการก่อกวนของกลุ่มอาร์เคเค โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งในเรื่องของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เกี่ยวโยงธุรกิจมืด
ขณะที่ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (ผบก.ภ.จว.สงขลา) กล่าวเช่นกันว่า เหตุระเบิดทั้งสามจุดเป็นฝีมือของกลุ่มอาร์เคเคเพื่อสร้างสถานการณ์ แต่อาจจะเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายค้าของเถื่อน โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมันเถื่อนซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งกวาดล้างและปิดกั้นเส้นทางขนถ่ายในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย อาจทำให้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนไม่พอใจ ขณะที่เครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ชายแดนใต้ล้วนเชื่อมโยงและเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบทั้งสิ้น
กู้ระทึกคาร์บอมบ์กลางภูเก็ต-รถถูกชิงจากสายบุรี
สำหรับความคืบหน้ากรณีพบรถกระบะซุกระเบิดที่ประกอบใส่ถังแก๊สในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ตนั้น กอ.รมน.ภาค 4 สน.รายงานรายละเอียดว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.05 น.วันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. ตรวจพบรถกระบะประกอบวัตถุระเบิด ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บท 4840 นนทบุรี จอดอยู่บนถนนหลัง สภ.เมืองภูเก็ต
จากการตรวจสอบที่มาที่ไป ทราบว่าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมระดมกำลังปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ลานจอดรถหลัง สภ.เมืองภูเก็ต เมื่อเจ้าหน้าที่เคลียร์ถนน ปรากฏว่าเหลือรถกระบะคันนี้่อยู่เพียงคันเดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบว่าได้ขับมาจอดตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.2556 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียน พบว่าป้ายดังกล่าวเป็นของรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ซึ่งมีผู้ครอบครองอยู่ที่ จ.นนทบุรี ซึ่งไม่ตรงกับเลขตัวถัง
เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบต่อจากหมายเลขตัวถัง พบว่าเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง สีเทา หมายเลขทะเบียน ผฉ 708 สงขลา ซึ่งเป็นของ นายวิธาน ยาชำนาญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/3 ถนนชัยเพชรมงคล ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2556 และถูกคนร้ายชิงรถไป
ต่อมาเมื่อช่วงสายวันที่ 22 ธ.ค. พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ลากรถคันดังกล่าวไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และประสานกลับไปยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) จัดเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเดินทางไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถังต่อพ่วงกัน ไม่ทราบวิธีการจุดชนวน โดยถังแก๊สซุกซ่อนไว้ใต้ที่นั่งในแคปหลังเบาะคนขับ ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : คาร์บอมบ์ที่โรงแรมโอลิเวอร์ บ้านด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)