ขุดบริษัทต้นทางธุรกิจ2ตระกูลก่อนแยกตัวคว้างาน“ค้าอาวุธ"กองทัพ 9.7พันล.
ขุดกรุเอกสาร"บ.ชัยเสรีอิมปอร์ต"ต้นทางธุรกิจสองตระกูล“ยอดวานิช” และ”กุลหิรัญ”ก่อนแยกตัวรับงาน “ค้าอาวุธ"กองทัพ 9.7 พันล.
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า คนในตระกูล “ยอดวานิช” เจ้าของบริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด บริษัท ช.ไพศาล จำกัด และ คนในตระกูล ”กุลหิรัญ” เจ้าของบริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด และ บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์ รับเบอร์ จำกัด ซึ่งปรากฏรายชื่อเป็นผู้รับจ้างจัดหาอาวุธและยุทธภัณฑ์กับหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา รวมจำนวนกว่า 588 ครั้ง รวมวงเงิน 9,761,246,505 บาท เคยทำธุรกิจร่วมกัน ภายใต้ชื่อ บริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด ในช่วงปี 2517 ก่อนที่บริษัทแห่งนี้ จะแจ้งเลิกกิจการ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2546 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2546 ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า การทำธุรกิจของบริษัททั้ง 4 แห่ง ในการเข้าไปรับจ้างจัดหาอาวุธและยุทธภัณฑ์กับหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม อาจจะมีความเชื่อมโยงในลักษณะเครือข่ายเดียวกัน
(อ่านประกอบ: เปิดใบหุ้น“มัด”เครือข่าย 4 บริษัทใหญ่กวาด“ค้าอาวุธ"กองทัพ 9.7 พันล.)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ในช่วงปี 2517 พบว่า นอกเหนือข้อเท็จจริงที่ว่าคนในตระกูล "ยอดวานิช" และ "กุลหิรัญ" จะปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแห่งนี้ รวมกัน ตามหลักฐานที่ปรากฏใน สำเนาบัญชี รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2545 แล้ว
ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ชัยเสรีอิมปอร์ต จำกัด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2517 ทุนประเดิม 1 ล้านบาท คนในตระกูล “ยอดวานิช” และ “กุลหิรัญ” ยังได้ปรากฏรายชื่อเป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทแห่งนี้ร่วมกันด้วย โดยนายชัยยศ ยอดวานิช เป็นผู้ลงนามในเอกสารการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
ขณะที่กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท ในช่วงแรก มีจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายชัยยศ ยอดวานิช นายกิตติ กุลหิรัญ และนายหิรัญ กุลหิรัญ แจ้งที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เลขที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ประกอบธุรกิจหลายประเภท อาทิ ซื้อขายรถใช้แล้วและนำเข้าราชอาณาจักร ทำการค้าของเก่าทุกชนิด ค้าขาสินค้าเกษตร ในประเทศ และส่งออก โรงสี รวมถึงการให้กู้ยืมเงิน และรับค้ำประกัน บุคคลเข้าเมืองตามกฎหมาย
(ดูเอกสารประกอบ)
จากการตรวจสอบพบว่า หลังการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯแห่งนี้ร่วมกัน ในช่วงเดือนมีนาคม 2524 บริษัทฯ เคยแจ้งเปลี่ยนตัวกรรมการใหม่ โดยนายกิตติ กุลหิรัญ และนายหิรัญ กุลหิรัญ แจ้งลาออก โดยให้เหตุผลว่ามีกิจธุระมากไม่มีเวลาที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการบริษัทฯได้
ก่อนที่ นายกิตติ กุลหิรัญ และนายหิรัญ กุลหิรัญ จะแจ้งขอกลับเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทฯใหม่อีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคม 2524
จากนั้นบริษัทฯได้แจ้งเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การทำธุรกิจหลายครั้ง ก่อนจะนำมาซึ่งการแจ้งจดทะเบียนเลิกบริษัท เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2546 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2546
โดยในช่วงการแจ้งจดทะเบียนเลิกบริษัท นายชัยยศ ยอดวานิช ปรากฏรายชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริษัทเพียงคนเดียว
ส่วนผลประกอบการธุรกิจของบริษัทฯ จากการตรวจสอบข้อมูลในงบดุลที่แจ้งไว้ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัทฯ ประสบปัญหาขาดทุนตลอด โดยงบดุลปี 2545 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่แจ้งไว้ ระบุว่า ขาดทุนจากการดำเนินการเป็นจำนวน 938,744.50 บาท ขณะที่ตัวเลขขาดทุนสะสมอยู่ที่จำนวน 4,262,862.19 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ได้พยายามติดต่อไปยัง บริษัทในเครือข่ายสองตระกูลดังกล่าว เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องความเชื่อมโยงในการทำธุรกิจดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันที่ 20 ธันวาคม 2556 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล บริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจของคนในตระกูล "ยอดวานิช" ตามที่อยู่ที่แจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 55/20 หมู่ที่ 5 ซอยรณสิทธิพิชัย (ซอยนนทบุรี 42 ฝั่งตรงข้าม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ) ถนนสนามบินน้ำ ตำบลท่าทราบ อำเภอเมืองนนทบุรี
พบว่า เป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีพนักงานทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก (ดูรูปประกอบ) แต่ไม่สามารถติดต่อผู้บริหารบริษัทใ้ห้ชี้แจงข้อมูลได้
(อ่านประกอบ: เปิด10บริษัท“ค้าอาวุธ-ยุทธภัณฑ์”รายใหญ่คู่ค้ากองทัพ1,200 ครั้ง 1.8 หมื่นล.)