โฆษณา"รับสมัครหมอ" สุดบูม!! โรงพยาบาลกว้านซื้อตัว การันตีรายได้สูงถึง 8,000บาท/วัน
ใครบางคนเคยบอกแว่วๆ ถึงผลการวิจัยจากต่างประเทศไว้ว่า คนไทย เป็นชาติที่ใส่ใจเรื่องปัญหาสุขภาพมากที่สุดชาติหนึ่ง....
และดูท่าจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาว่า เพราะระยะช่วง 5-6 ปีหลังมานี้ ดูเหมือนว่า กระแสรักสุขภาพจะดูมาแรงเป็นพิเศษ สังเกตได้จากอาหารการกิน การใช้ธรรมชาติบำบัดไม่ว่าจะนวด ขัด ถู การออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ฟิต แอนด์เฟิร์ม ห่างไกลสารพัดโรคภัย รุมทำร้าย หรือเปลี่ยนจากใบหน้าสิวเขรอะ ริ้วรอยตีนกาเหยียบยุ่มย่ามไปหมด มาเป็นผิวหน้าที่ใส เต่งตึง เด๋งดั๋ง เป็นต้น เรียกว่า ดูแลรักษา บรรเทา สุขภาพกันตั้งแต่หัว หู ตา จมูก ปาก ฟัน ใบหน้า ร่างกาย เท้า ฯลฯ กันเลยทีเดียว
วิชาชีพที่ดูเหมือนจะช่วยเหลือและตอบสนองความบรรเทาความทุกข์ ความเจ็บป่วย ของเพื่อนมนุษย์ได้ครอบจักรวาล(แทบ)ทุกอย่างในการรักษาคงหนีไม่พ้น "แพทย์" และหากเป็นแพทย์เฉพาะทางด้วยแล้ว ยิ่งกลายเป็นความต้องการของโรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือคลินิกต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างมาก เพื่อรองรับปริมาณของผู้ป่วย ที่นับวันจะทวีคูณเพิ่มขึ้นๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ผิวหนัง แพทย์จักษุ ทันตแพทย์ ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ วิสัญญีแพทย์ สูตินรีแพทย์ กุมารแพทย์ ฯลฯ
หนังสือพิมพ์ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยประกาศตามหาแพทย์ ต่างๆ ซึ่งมีความสนใจเข้าไปสังกัดเป็นแพทย์ประจำ หรือ Past Time ในการดูแลรักษาตามคุณสมบัติเฉพาะที่ตัวเองร่ำเรียนมา โดยหากเปิดไปในหน้าโฆษณาย่อย ของหนังสือพิมพ์รายวัน นอกจากนี้ยังมีตามอินเตอร์เน็ต หนังสือรับสมัครงานต่างๆ ก็ลงทุนซื้อโฆษณากันให้รึ่ม
มติชนออนไลน์ สำรวจประกาศรับสมัครงานในหน้าน.ส.พ. พบว่า มีการซื้อหน้าโฆษณาแทบจะทั้งหน้า ที่มีทั้งสถานพยาบาลน้อยใหญ่ทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด ซื้อโฆษณาเพื่อตามหาบุคคลากรมาทำหน้าที่รักษา โดยบางรายเสนอราคาค่าตอบแทนการรักษาในโฆษณาประกาศรับสมัครหมอ การันตีรายได้ถึง 8,000 บาท ต่อวัน (ว้าว!!)
ก่อนหน้านี้ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผย ตัวเลขน่าตกใจว่า ตามแผนแม่บทกำลังคนด้านสาธารณสุข ปี 2554 ทั่วประเทศ มีความต้องการแพทย์ 40,620 คน โดยในส่วนของ สธ.ต้องการแพทย์ 22,855 คน ปัจจุบันมีแพทย์แล้ว 13,083 คน ยังขาดอีก 9,772 คน โดยขณะนี้แพทย์ 1 คน ดูแลประชากรเฉลี่ย 7,000 คน
ปัจจุบัน นักเรียนแพทย์ จะต้องทำงานรับใช้ทุน 3 ปี หรือ ถ้าจะไม่อยากใช้ทุน ก็ต้องจ่ายเงิน 400,000 บาท ผลก็คือ พ่อแม่ หรือ โรงพยาบาลต้องยินดีจ่ายเงินแค่ 4 แสนบาท เพื่อไม่ต้องใช้ทุนให้ยากลำบาก
เพราะความต้องการแพทย์ที่ขาดแคลนเฉียดหมื่นคน ทำให้หมอมีค่าตัวสูงมากขึ้นกว่าทุกวิชาชีพ เพียงออกมา" เมก มันนี่ ) เพียงไม่นานก็มีเงินเป็นล้านแล้ว
ภาวะสมองไหลของแพทย์ “หนี” การใช้ทุน ที่เพิ่มสูงขึ้นจนน่าวิตก !!!
ไม่ต้องพูดถึงการขาดแคลนหมอในต่างจังหวัด เพราะหมอฝีมือดีต่างถูกสูบมาอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพ
ก่อนหน้านี้ น.พ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ เสนอว่า ควรเพิ่มค่าปรับจาก 4 แสนบาท เป็น 10 หรือ 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการใช้ทุนของแพทย์นาน 3 ปี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการขาดแคลนแพทย์ภาครัฐ
จากค่าปรับ 4 แสนเป็น 20 ล้านบาท แก้ปัญหา แพทย์ขาดแคลน ได้หรือไม่ ?