'สุเทพ-ผบ.เหล่าทัพ-สปป.'รับถกหาทางออก
กองทัพไทยเผย"สุเทพ-ผบ.เหล่าทัพ-สปป."ตอบรับร่วมเสวนาหาทางออก แจง"ผบ.เหล่าทัพ"แค่รับฟัง งดวิจารณ์ วอนเสวนาอย่างสุภาพ
พล.ท.หฤษฎ์ พุ่มหิรัญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่กองทัพไทยได้มีการเชิญนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. ผบ.เหล่าทัพ และองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องมาร่วมเสวนาหาทางออกในการแก้ไขปัญหาในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้ทำหนังสือมายังกองบัญชากองทัพไทย เพื่อขอเข้าพบพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ จุดยืนและเป้าหมายในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความเข้าใจ พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็น ซักถามข้อสังสัยต่างๆ ซึ่งทางผบ.สส.ยินดีที่ให้ทุกภาคส่วนมาพูดคุยกัน จึงได้มีการเปิดเวทีเสวนาสาธารณะขึ้นมา โดยนายสุเทพ จะเป็นผู้เดินทางมาชี้แจงถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศในเวทีเสวนาครั้งนี้ โดยจะมีผบ.เหล่าทัพเดินทางมาร่วมรับฟังกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ทางผบ.เหล่าทัพจะไม่มีการซักถามหรือแสดงความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น
"เวทีเสวนาครั้งนี้จะมีองค์กรทุกภาคส่วนมาร่วมเสวนา อาทิ ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. อธิการบดีจากมหาวิทยาลัยต่างๆ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำนักงานมนุษยชนแห่งชาติ สภาพัฒนาการเมือง สำนักงานข้าราชการพลเรือน สภาทนายความ กลุ่มหอการค้า 7 กลุ่มภาคธุรกิจ นักวิชาการต่างๆ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย(สปป.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตัวแทนภาคนักธุรกิจ สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังด้วย แต่มีข้อแม้ขอให้เสวนาด้วยความสุภาพ มีเหตุมีผลอย่างละมุนละม่อม เพื่อให้การเสวนาเป็นไปอย่างราบรื่น การใช้ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นเวทีในการเสวนาครั้งนี้เป็นความคิดของผบ.สส. เพราะมองว่า คำว่า สันติภาพมีความหมาย และอยากให้เกิดสันติภาพขึ้นในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นแนวความคิดเชิงสัญลักษณ์ และอยากให้คนไทยมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติภาพให้เป็นหนึ่งเดียว เพียงแต่ขณะนี้คนไทยยังไม่รู้จักหน้าที่ของทหารในภารกิจการรักษาสันติภาพในต่างประเทศ เช่น ประเทศติมอร์ตะวันออก โซมาเลีย อัฟกานิสถาน ล้วนแล้วแต่เป็นความสำเร็จของกองทัพทั้งสิ้นจึงอยากเห็นความสันติภาพดังกล่าวเกิดขึ้นในไทยบ้าง"พล.ท.หฤษฎ์ กล่าว
ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพพยายามทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วนโดยสันติวิธี ซึ่งการเข้าร่วมรับฟังการเสวนาที่กองทัพไทยกำหนดขึ้นถือเป็นอีกวิถีทางหนึ่งที่อาจมีส่วนช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหา โดยทางกองทัพบก เหล่าทัพ และหลายภาคส่วนคงจะได้ใช้โอกาสนี้ในการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายจากกลุ่มต่างๆ และภาคส่วนอื่นๆ แบบเปิดกว้างด้วย แต่ความคาดหวังจากการดำเนินการครั้งนี้คงเป็นเรื่องอนาคต และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถสรุปได้ในแบบรวดเร็วทันใจ ซึ่งทุกภาคส่วนคงต้องอดทน ให้พัฒนาการต่างๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆไป ตามลำดับขั้นตอน
"ปัจจุบันกองทัพระมัดระวังในการวางบทบาทหรือแสดงออกใดๆในเรื่องทางการเมือง เพื่อให้อยู่ในขอบเขตความเหมาะสมภายใต้ความสมดุล เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ กองทัพพร้อมตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้อย่างดีที่สุดท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งใดที่อาจจะส่งผลให้ประชาชนไม่พอใจจนนำไปสู่การหยิบยกไปสร้างเป็นประเด็นเงื่อนไขความขัดแย้งเพิมเติม ทางกองทัพมุ่งเน้นยึดหลักในการส่งเสริมให้คนไทยในประเทศมีความรักความสามัคคี อยากวิงวอนขอให้เข้าใจกองทัพ และขอให้เชื่อมั่นว่าทหารทุกคนยังคงเป็นทหารของประชาชนและเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบที่ได้รับภายในกรอบขอบเขตที่ได้มอบตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทุกประการให้ดีที่สุด"พ.อ.วินธัย กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า กองบัญชาการกองทัพไทยได้มีการเชิญตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) มาร่วมการเสวนาในการหาทางออกแก้ไขปัญหาครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางกลุ่มนปช.ยังไม่มีการตอบรับว่า จะเดินทางมาร่วมเสวนาครั้งนี้หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อสอบถามไปยังนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.ได้กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือเชิญเข้าร่วมการเสวนา แต่ยืนยันว่า ไม่ส่งตัวแทนกลุ่มนปช.เข้าร่วมการเสวนาดังกล่าวแน่นอน