จดหมายเปิดผนึกข้อเสนอทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง
สืบเนื่องจากการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งภายใต้การนำของ“คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”หรือ “กปปส.”นั้น
เราเห็นว่าเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมเป็นการเรียกร้องให้ขจัดการทุจริตในระบบการเมืองและต้องการปฏิรูปให้ระบบการเมืองของประเทศมีธรรมาภิบาลและประชาธิปไตยมากขึ้น
เราเชื่อว่าจิตวิญญาณของผู้เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่หาได้ปฏิเสธเสียงส่วนใหญ่และการเลือกตั้งซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแต่อย่างใดไม่เฉกเช่นเดียวกับประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการชุมนุมภายใต้การนำของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ก็หาได้ยืนอยู่ตรงข้ามกับการสร้างระบบการเมืองที่ปลอดพ้นไปจากการทุจริตคอรัปชั่นในทุกรูปแบบแต่ประการใด
อย่างไรก็ตามข้อเสนอของ กปปส.ที่ต้องการให้รัฐบาลรักษาการพ้นไปจากหน้าที่และจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อให้มีการปฏิรูปการเมืองโดยปฏิเสธการเจรจาในขณะที่การยืนยันให้ใช้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายใน 60 วันในการแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นของรัฐบาลโดยปราศจากการดำเนินการเพื่อให้มีหลักประกันใดๆที่ตอบสนองต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่ร่วมชุมนุมนั้นอาจทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองในระดับที่ร้ายแรงและอาจนำประเทศไปสู่สภาวะสงครามกลางเมืองในที่สุด
เราขอแสดงจุดยืนทางการเมืองและเรียกร้องต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1.เราไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้รัฐบาลรักษาการลาออกเพื่อให้เกิดสูญญากาศหรือการเว้นวรรคกระบวนการประชาธิปไตยอื่นใดโดยเชื่อว่ารัฐบาลชั่วคราวหากจะถูกตั้งขึ้นไม่อาจเป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้และจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเมืองที่ไม่มีวันสิ้นสุด
2.เราเรียกร้องให้รัฐบาล ดำเนินการให้มีการออกพระราชกำหนดจัดตั้งสภาเพื่อการปฏิรูปโดยประชาชนในทันทีเพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาจัดทำข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปการเมืองในประเด็นหลักการที่ กปปส.ได้เรียกร้องในการชุมนุมและข้อเสนอของประชาชนภาคส่วนต่างๆ เช่น การสร้างกลไกขจัดการคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการในทุกรูปแบบการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม การสร้างการมีส่วนร่วมทางนโยบายของประชาชน การกระจายอำนาจ(โดยให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด)การควบคุมตำรวจหรือการรักษาความมั่นคงภายในมิให้ถูกแทรกแซงโดยนักการเมืองเพื่อประโยชน์ของฝ่ายตน เป็นต้น
3.“สภาเพื่อการปฏิรูป” นี้ จะต้องสามารถเริ่มดำเนินการก่อนการเลือกตั้งในวันที่2 กุมภาพันธ์ 2557 และให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีโดยมีผู้แทนจากฝ่าย กปปส., นปช. และ รัฐบาลในสัดส่วนที่สมดุล อีกทั้งต้องมีตัวแทนจากภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชนเข้าร่วมด้วยในสัดส่วนที่เหมาะสมโดยดำเนินการด้วยความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชน
4.พรรคการเมืองและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องลงนามในสัตยาบัน/สัญญาประชาคมว่าจะนำข้อเสนอในการปฏิรูปการเมือง ซึ่งอาจต้องแก้รัฐธรรมนูญ การตราเป็นกฎหมายหรือการตั้งกลไกต่างๆ ไปดำเนินการโดยเร็วผ่านกระบวนการของรัฐสภาชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งโดยทุกภาคส่วนต้องร่วมรณรงค์ให้วาระการปฏิรูปการเมืองเป็นวาระหลักของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
5.ขอเรียกร้องให้ รัฐบาลและ กปปส.เจรจาอย่างเร่งด่วนและพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้มีความตกลงร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการเผชิญหน้าและนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชนทั้งนี้ กปปส.และพลเมืองทุกกลุ่มย่อมมีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปฏิรูปทางการเมืองทั้งในช่วงรณรงค์ก่อนการเลือกตั้งและหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว
เราเห็นว่าวิถีประชาธิปไตยที่อ้างเสียงข้างมากในการตัดสินใจทางนโยบายในทุกกรณีนั้นไม่อาจนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย และการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและสันติสุขได้
การปฏิรูปการเมืองภายใต้บริบททางเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันจะต้องเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่สร้างความเสมอภาคในการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนทุกกลุ่มตรวจสอบการใช้อำนาจ เพิ่มกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการออกกฎหมาย และการกำหนดนโยบายสาธารณะอีกทั้งต้องมีกลไกในการขจัดการผูกขาดและควบคุมตรวจสอบอิทธิพลของกลุ่มทุนและบรรษัทขนาดใหญ่ในการกำหนดนโยบายและผลักดันโครงการที่เอื้อประโยชน์ต่อตัวเองและสร้างผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ ไปพร้อมๆกันด้วย
การเจรจาเพื่อหาความตกลงร่วมกันโดยยึดหลักการประชาธิปไตยและสร้างความร่วมมือเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจังเป็นทางออกเดียวที่สามารถทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยมีความเท่าเทียมทางสังคม และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
กรรณิการ์ กิจติเวชกุล
กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา
คำรณ ชูเดชา
จักรชัย โฉมทองดี
จะเด็จ เชาวน์วิไล
ชูวิทย์ จันทรส
ฝ้ายคำ หาญณรงค์
วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ
สามารถ สะกวี
สุภา ใยเมือง
12 ธันวาคม 2556