ม็อบยึด มท.แล้ว!! ตร.โยนแก๊สน้ำตาใส่ 2 จุดรอบทำเนียบ!
วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.50 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวในสถานีวิทยุ 100.5 ว่า ภารกิจของ 3 เหล่าทัพที่มาช่วยรัฐบาล คือหน้าที่ในการช่วยดูแลสถานที่ราชการ ได้แก่ ทำเนียบรัฐบาล สนามบิน สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ช่อง 9 ช่อง 11 เท่านั้น สำหรับกำลังที่ใช้ ช่วงแรกจะมี 10 กองร้อย ส่วนข้อมูลกำลังสำรองในการสั่งการยังไม่มีการรายงานเนื่องจากต้องรอความชัดเจนในช่วงสายของวันนี้ก่อน ในงานของเจ้าหน้าที่ทหาร คือ งานภายใต้ ศอ.รส. คือการให้ความดูแลสถานที่ราชการ เพราะ ศอ.รส.มีกำลังไม่เพียงพอ แต่ ศอ.รส.จะเป็นเจ้าภาพ กำหนดแผน ข้อเสนอแนะ หลักการปฏิบัติทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ทหารจะไม่มีอาวุธใดๆ เช่นเดียวกับตำรวจ ทั้งนี้ ทางผู้บังคับบัญชาจะเน้นให้กำลังพลระมัดระวัง ไม่ใช้ความรุนแรง ภารกิจหลักคือการรักษาความปลอดภัยเท่านั้น ไม่มีภารกิจอื่นใด ที่จะปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม
เวลา 09.15 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขึ้นเวทีที่ศูนย์ราชการระดมพลเตรียมเคลื่อนไหว โดยซักซ้อมความเข้าใจกับผู้ชุนนุมว่า มวลชนที่อยู่ที่ราชดำเนินจะเป็นมวลชนหลักในการเคลื่อนไปตามหน่วยงานราชการต่างๆ ที่กำหนดไว้ เนื่องจากอยู่ใกล้ ขณะที่มวลชนในศูนย์ราชการ จะแบ่งกำลังเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ปักหลักรอรักษาฐานที่มั่นที่ศูนย์ราชการเอาไว้ และส่วนหนึ่งจะเดินเท้าร่วมกับนักธุรกิจชาวสีลมและนายสกลธี ภัทธิยกุล แกนนำเดินเท้าไปกระทรวงพาณิชย์ และที่เหลือจะขอให้ประชาชนขึ้นรถยนต์ไปส่วนกลางเพื่อไปเติมจำนวนให้กับมวลชน โดยจะเดินสายไปสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ซึ่งได้ฝากให้เจ้าหน้าที่ลองประสานงานดูว่าใครที่มีรถกระบะที่พอจะให้ประชาชนอาศัยไปได้ ให้นำรถกระบะมาจอดขนานกับเวที
พร้อมกันนี้ยังย้ำกับมวลชนให้เตรียมเสบียงคือข้าวกล่องและน้ำไว้ให้พร้อมด้วย และจะเคลื่อนขบวนในเวลา 10.45 น. โดยก่อนจะเคลื่อนขบวน หลวงปู่พุทธะอิสระได้นำสวดมนต์ชัยมงคลนำทัพและชัยมงคลสะกดทัพ เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้รับชัยชนะตามที่ประกาศไว้
สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์ราชการ มวลชนยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่ ขณะที่มวลชนส่วนหนึ่งเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมขบวนไปกระทรวงพาณิชย์ และไปสมทบกับส่วนกลาง อย่างไรก็ตาม นายสุเทพได้ขอให้มีการเตรียมรถกระบะไว้ที่ศูนย์ราชการ 40 คัน เพื่อลาดตะเวนและเผื่อไปเสริมในจุดที่มีความต้องการ
เวลา 09.20 น. นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส.ขึ้นเวทีที่กระทรวงการคลัง ประกาศรวมพลเตรียมไปปิดล้อมกรมประชาสัมพันธ์
เวลา 09.26 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส.ขึ้นเวทีราชดำเนิน เตรียมความพร้อมในการเคลื่อนมวลชน ทั้ง 9 จุด ต่อมาแจ้งกับผู้ชุมนุมบนเวทีราชดำเนินว่า การเลิกชุมนุมของ นปช.แล้วกลับบ้าน แต่ในความจริงแล้วยังคงมีอันธพาลของรัฐบาล คือ ส่วน นปช.อีกกลุ่มหนึ่งที่ยังก่อกวน และสร้างสถานการณ์ เช่นที่ ม.รามคำแหง นั่นคือฝีมือของอันธพาล ตนขอให้กลุ่มมวลชนของเราอย่าสนใจต่อสิ่งยั่วยุใดๆ ในการเคลื่อนขบวนวันนี้ ในบางจุดรัฐบาลได้ขอกำลังทหารเข้าดูแลสถานการณ์แต่ไม่ได้ติดอาวุธ เพราะฉะนั้น เราจะเคลื่อนขบวนแบบสันติ อหิงสา ตามสิทธิของประชาชนที่ระบุไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
เวลา 09.45 น. นายสุเทพปล่อยขบวนผู้ชุมนุมจากศูนย์ราชการไปกระทรวงพาณิชย์โดยเปิดเพลงเจ้าตากของวงคาราบาวปลุกใจผู้ชุมนุมด้วย โดยขบวนได้มุ่งหน้าไปบนถนนแจ้งวัฒนะ
เวลา 09.59 น. นายวิทยา และนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ นำมวลชนเดินทางไปที่กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งล่าสุดมวลชนได้เข้าไปอยู่ภายในลานหน้าอาคารแล้ว ทั้งนี้แกนนำได้ประกาศจะตั้งเวทีในบริเวณดังกล่าวด้วย
เวลา 10.00 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ มี คปท.จำนวนหนึ่งมารวมตัวอยู่เลียบคลองเปรมประชากร มีการพูดจายั่วยุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยบริเวณนั้นพูดผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “ชุดจับกุมเตรียมความพร้อมเอาไว้ จับมัน เล็งที่แกนนำ เราเป็นราชการ เรามีงานทำ ขอให้ท่านที่มากลับไปเวทีของท่าน ไปนั่งแบบอารยะ อดทนหน่อยพี่น้อง ท่านว่าผม ผมยังทนได้ ใครฝ่าฝืนเข้ามาเราจะดำเนินการด้วยวิธีการละมุนละม่อม ผมอดทนไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องไปมัฆวานฯ มาทางนี้เลย ผมอยู่ลพบุรี มีอะไรไปพบกันที่ลพบุรีได้” ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเคาะโล่ และโห่ร้องเป็นระยะ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนประจำการอยู่บนรถขยายเสียง ยังได้ย้ำเตือนหลักการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ว่า “เราต้องรักษาพื้นที่เราเอาไว้ ซึ่งเราทำตามหน้าที่ เราต้องทำเต็มที่ เพราะทำเนียบฯ เป็นพื้นที่ที่สำคัญ โดยขอให้ใช้วิธีการละมุนละม่อม” พร้อมกันนี้ยังได้หันหน้ามาบริเวณจุดที่สื่อมวลชนยืนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ในลักษณะเตือนด้วยว่า “สำหรับพี่น้องสื่ออาจจะมีการใช้แก๊สน้ำตา ระวังตัวด้วย ดูแลตัวเองดีๆ”
เวลา 10.11 น. เว็บไซต์เฟซบุ๊ก CentralWorld ประกาศ ปิดการให้บริการห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ 1 วัน และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันพรุ่งนี้ สืบเนื่องจากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้การเดินทางมายังบริเวณศูนย์การค้าอาจไม่ได้รับความสะดวก
เวลา 10.17 น. นายสาทิตย์ประกาศบนเวทีราชดำเนิน จัดทัพเคลื่อนอีก 8 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนของนายชุมพล จุลใส ไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล, ขบวนของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ไปกระทรวงมหาดไทย, ขบวนของนายอิสสระ สมชัย ไปกระทรวงแรงงาน, ขบวนของนางทยา ทีปสุวรรณ ไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, ขบวนของ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ไปสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ไปสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7, นายถนอม อ่อนเกตุพล ไปสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 และนายถาวร เสนเนียม ไปสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11
เวลา 10.27 น. มีรายงานว่า ขบวนของนายสกลธี เมื่อเคลื่อนออกจากศูนย์ราชการ กลับไม่ได้ไปกระทรวงพาณิชย์ตามที่นายสุเทพประกาศ แต่เลี้ยวมุ่งหน้าออกถนนวิภาวดีโดยยังไม่ทราบจุดหมาย ทั้งนี้ หากถูกเจ้าหน้าที่สกัดตรงไหนจะตั้งเวทีตรงนั้น ขณะที่นายสุเทพได้ประกาศให้มวลชนตั้งขบวนใหม่เพื่อไปกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสาทิตย์ เซกัล แกนนำนักธุรกิจสีลมนำขบวนไป
มวลชนทยอยรอหน้า สตช.โวยตำรวจเฉยช่วยเด็กรามฯ
เวลา 10.40 น. ผู้ชุมนุมต่อต้าระบอบทักษิณ ได้ทยอยเดินทางมาชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยผู้ชุมนุมต่างเป่านกหวีด และตะโกนตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เพิกเฉยไม่เข้าไปดูแลความปลอดภัยของนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงจากเหตุปะทะเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บรรยากาศรอบ สตช. เจ้าหน้าที่ได้นำรั้วลวดหนามและแท่งแบริเออร์ปิดทางเข้าออกทุกทาง รวมทั้งปิดเส้นทางจราจรด้านถนนพระราม 1 ตลอดจนทางเดินสกายวอล์คด้านบนด้วย
“สาทิตย์” อ้างนายกฯ บินแอฟริกาใต้ ด้าน “ยิ่งลักษณ์” ไป บช.ปส.แต่เช้า
เวลา 10.46 น. นายสาทิตย์ ประกาศอ้างบนเวทีราชดำเนินว่า ทราบว่าเที่ยวบิน TG 8880 บ่ายวันนี้ที่จะออกจากกรุงเทพมหานคร ไปกรุงโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ มีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าได้รับเทเล็กซ์จากผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีตั๋วเครื่องบินบินไปที่แอฟริกาใต้เที่ยงนี้ เวลาออก 12.00 น.ถึง 18.15 น. ระบุกลับวันที่ 4 ธ.ค. ทีจี 8881 เวลา 01.15 น.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายกฯ เดินทางออกจากบ้านพักตั้งแต่เวลา 09.40 น.มายังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การชุมนุม โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ 1 กองร้อย รักษาความปลอดภัยตั้งแต่บริเวณทางเข้าสโมสรตำรวจ จนถึง บช.ปส.
ส.ก.พญาไท นำม็อบถึงช่อง 5
เวลา 11.00 น. นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.พญาไท ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เพื่อขอให้ทหารเปิดประตูให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางเข้าไปด้านใน โดยยืนยันว่า ผู้ชุมนุมมาดี มามือเปล่า ไม่มีจุดประสงค์ร้าย แต่มาเพื่อเยี่ยมชมกิจการ เยี่ยมทหาร และเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
คปท.ประชิดชมัยมรุเชฐ
เวลา 11.00 น. มวลชน คปท.เริ่มเคลื่อนมาประชิดแนวตำรวจ ที่สะพานชมัยมรุเชฐมากขึ้น ด้านตำรวจออกประกาศชี้แจงมาตรการใช้แก๊สน้ำตา โดยจะมีแก๊สน้ำตา 3 ชนิด แบบควัน แบบแป้ง และแบบน้ำผสมสารเคมี อาจจะแสบตา ทั้งนี้รถปราศรัยได้เคลื่อนมาถึงแล้ว
เวลา 11.07 น. นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย และนายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสาน เดินมาสำรวจแนวแบริเออร์ตรงสะพานชมัยมรุเชฐ เจอตำรวจชูนิ้วกลางให้
เวลา 11.12 น. นายนิติธรขึ้นรถขยายเสียงประกาศจะเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล
เวลา 11.21 น. ตำรวจหน้าแนวกั้นสะพานชมัยมรุเชฐ ได้ขว้างแก๊สน้ำตาลงมาใส่ผู้ชุมนุม คปท. 3 ลูก ทำให้ผู้ชุมนุมแตกฮือ และพยายามวิ่งไปหยิบแก๊สน้ำตามาใส่ในถังน้ำที่เตรียมไว้เพื่อดับควันจากแก๊สน้ำตาด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ชุมนุมยังคงเพียงแค่อยู่ริมแนวแท่งแบริเออร์เท่านั้น
การ์ดม็อบรวบ ตร.นางเลิ้ง ดอดถ่ายคลิป
เวลา 11.04 น. ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พบกลุ่มการ์ดของ กปปส.นำตัวชายที่มีสภาพเลือดกบปากมายังพื้นที่ด้านหลังเวที ทั้งนี้จากการสอบถามชายที่ถูกควบคุมตัวดังกล่าวทราบว่าเป็นตำรวจ สน.นางเลิ้ง ชื่อ ด.ต.วิเชียร แสงดี ซึ่ง ด.ต.วิเชียรเปิดเผยสั้นๆ ว่า ตนได้รับภารกิจจากผู้บังคับบัญชาให้มาบันทึกภาพกลุ่มผู้ชุมนุมแยกหลานหลวง และเมื่อกลุ่มการ์ดพบเห็นได้เข้ามาสอบถามถึงการกระทำดังกล่าว และเมื่อตนบอกว่าเป็นตำรวจก็ถูกยึดอุปกรณ์และบัตรแสดงตน รวมถึงถูกทำร้ายและนำตัวมาหลังเวที ขณะที่การ์ดประจำหลังเวทีคนหนึ่งระบุกับผู้สื่อข่าวว่า ชายดังกล่าวเป็นตำรวจถูกส่งมาแทรกซึมภายในการชุมนุม ทั้งนี้จะให้แกนนำมาพูดคุยและสอบสวนต่อไป
“อ๋อย” อ้างสภา ปชช.ทำไม่ได้ โอ่ยึดสถานที่ราชการไร้ผล โบ้ยมือที่ 3 ยิงแดง-เด็กรามฯ
เวลา 11.13 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่า ถ้าผู้ชุมนุมต้องการให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออกก็พร้อมจะพิจารณาแต่ขณะนี้แกนนำผู้ชุมนุมประกาศแล้วว่า ถึงยุบสภาหรือรัฐบาลลาออกก็จะไม่ยุติ ฉะนั้น การได้เจรจากันก่อนก็อาจจะช่วยได้แต่การจะเปลี่ยนแปลงระบอบไปมีสภาประชาชนและอื่นๆ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนั้น ทางรัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการได้และวิถีทางนี้จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศอย่างมาก ส่วนการยึดสถานที่ราชการทั้งหลายจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชของรัฐบาลเพราะสามารถทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ทำงานที่บ้านและอื่นๆได้ รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้สถานการ์บานปลายโดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและสนามรัชมังคลากีฬาสถานที่มีมือที่ 3 ยิงเข้าใส่สนามกีฬาดังกล่าวทั้งคืน ขณะเดียวกันก็มีการยิงใส่นักศึกษาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีอาวุธ เพราะเกรงว่าถ้าใช้อาวุธจะเป็นปัญหาใช้อาวุธต่อประชาชน
“สกลธี” นำม็อบไปไทยพีบีเอสขอเกี่ยวสัญญาณแถลง กปปส.
เวลา 11.22 น. ขบวนของนายสกลธีได้เดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพื่อขอความร่วมมือให้ทางสถานีเลิกการถ่ายทอดสัญญาณชั่วคราวเพื่อจะให้เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดของ กปปส. ขณะที่ผู้บริหารสถานียืนยันขอให้ผู้ชุมนุมนึกถึงผลดีหรือผลเสียของการกระทำดังกล่าว
“ชุมพล” ประชิดแนวกั้นแยกศรีอยุธยา
เวลา 11.23 น. นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพรนำขบวนไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชิดแนวกั้นแยกศรีอยุธยาแล้ว โดยตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศ ห้ามบุกเข้ามา ตรงนี้เป็นเขตใช้แก๊สน้ำตา
คปท.ลับลวงพราง ขนอีกทัพไปแนวกั้นแยกวัดเบญฯ
เวลา 11.40 น. ที่เวทีนางเลิ้ง ขบวน คปท.เคลื่อนรถขยายเสียง 1 คันกับมวลชนบางส่วนไปทางถนนพระราม 5 คาดไปแนวกั้นตำรวจบริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร ทัพใหญ่ยังอยู่ด้านแนวกั้นสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งล่าสุดได้มีการเคลื่อนย้ายแท่งแบริเออร์ได้หลายแท่งแล้ว
แยกศรีอยุธยาวุ่น! ตร.ปาแก๊สน้ำตาอีกจุด
เวลา 11.47 น. นายชุมพลประกาศกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกศรีอยุธยา ให้รื้อรั้วลวดหนามออกเอาแค่ประชิดแนวกั้น เราจะไม่ทำร้ายกัน เพราะคือคนไทยด้วยกัน แต่ถ้าอยากจะตีประชาชนก็ให้เดินออกมา ขอความกรุณาอย่ายั่วยุ ทั้งนี้นายชุมพล ได้สั่งให้มวลชนบุกเข้าไปอีกบล็อคหนึ่ง ด้าน ตำรวจได้ประกาศกระจายเสียงหากยังไม่หยุดรื้อจะใช้มาตรการอีกขั้นหนึ่ง และล่าสุดได้มีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมแล้ว
สรส.ล้อมมหาดไทย
เวลา 11.50 น. สรส.นำมวลชนล้อมกระทรวงมหาดไทยไว้แล้ว โดยนายคมสันต์ ทองศิริ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ระบุว่ายังไม่มีมาตรการบุกเข้าไปภายใน แค่ปิดล้อม ขณะที่ด้านเจ้าหน้าที่ อส.คุมเข้มทั่วกระทรวง พร้อมทั้งมีการขึงลวดหนามไว้โดยรอบ ขณะเดียวกันได้มีรถดับเพลิงอยู่ในกระทรวงประมาณ 4 คัน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์การชุมนุมด้วย
ชมัยมรุเชฐยังวุ่น ตร.ปาแก๊สน้ำตาอีกหลายลูก
เวลา 12.00 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ตำรวจยังคงปาแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ชุมนุมแตกกระเจิง แต่ก็พยายามฝ่าเข้าไปรื้อลวดหนามออกเป็นระยะ โดยมีรายงานด้วยว่า ได้มีการฉีดน้ำผสมสารเคมี ที่มีฤทธิ์แสบร้อนใส่ผู้ชุมนุมด้วย ขณะที่แยกศรีอยุธยา ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ทางด้านสำนักวิจัย ทบ. โดยมวลชนได้ขว้างแก๊สน้ำตากลับใส่ตำรวจเช่นกัน โดยมวลชนทั้ง 2 จุดพยายามถอยร่นออกมาจากพื้นที่
“ปิยะ” แสบ! โอด ตร.เจอยั่วเลยปาแก๊สแค่ลูกเดียว แถมโดนบึ้มปิงปองใส่
เวลา 12.01 น. พล.ต.ต. ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. แถลงสถานการณ์ที่แยกสะพานชมัยมรุเชฐ ว่าเจ้าหน้าที่ถูกแกนนำยุยงปลุกปั่นทั้งที่ได้ประสานแกนนำทุกขั้นตอน สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้โยนแก๊สน้ำตา 1 นัดเพื่อให้ผู้ชุมนุมถอยออกไป ขณะนี้ผู้ชุมนุมล่าถอย ส่วนที่แยก พล.1 ได้เจรจากับ ผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมไม่หยุดจึงได้โยนแก๊สน้ำตาทำให้ผู้ชุมนุมล่าถอยออกไป ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามโยนระเบิดปิงปอง 3 ลูกใส่เจ้าหน้าที่ ส่วนอีกจุดคือ กรณีนายสกลธีไปบุกสถานีทีไทยพีบีเอสและเตรียมตัดสัญญาณและเชื่อมสัญญาณข้องที่ถ่ายทอดการปฏิบัติการของผู้ชุมนุม ถือว่าทำผิดกฎหมาย
สรส.ยึด “มหาดไทย” ได้แล้ว
เวลา 12.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย แกนนำได้เริ่มสั่งผู้ชุมนุมรื้อลวดหนามด้านหน้ารั้วแล้ว หลังจากมาปิดล้อมได้สักระยะ มีการผลักดันกับเจ้าหน้าที่ อส.เล็กน้อย ก่อนที่จะสามารถเข้าไปภายในกระทรวงทางประตูด้านหน้าอนุสาวรีย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพฯ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ อส.ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านแต่อย่างไร อีกทั้งยังนำผลไม้มามอบให้ผู้ชุมนุม ขณะที่มวลชนก็นำข้าว นำน้ำมาแลก พร้อมถ่ายรูปกัน
เวลา 12.40 น.นายสุเทพ ได้ขึ้นเวทีศูนย์ราชการฯ อีกครั้งประกาศให้พี่น้องที่ไปช่วยเหลือยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ยึดหลักสันติ อหิงสา หากตำรวจเข้ามาเพื่อจะสลายการชุมนุมภายในสถานีฯก็ให้นั่งล้อมตำรวจไว้เฉย เขาจะได้ไม่มีกำลังพอที่จะเข้าไปสลายพี่น้องที่ชุมนุมอยู่ในสถานีฯได้ และขอให้พี่น้องที่เข้าไปอย่าได้ทำลายทรัพย์สินของราชการ และขอให้มวลชนที่เหลือภายในศูนย์ราชการได้เตรียมตัว หากมีความจำเป็นเราจะเดินเท้าเคลื่อนไปสมทบ

