ผู้ว่าฯ ยะลา ตั้งเป้าปี 57 รวมพลังทำงานเชิงรุกให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาดี มีคุณภาพ
พบเด็กยะลา 6 พันคน หลุดจากระบบการศึกษา เหตุพ่อแม่ยากจน ผู้ว่าฯ เร่งรวมพลังท้องถิ่นแก้ปัญหา ตั้งเป้าปี 58 คืนเด็กกลับสู่ชีวิตการเรียนอย่างน้อย 90% ชูนโยบายปลูกจิตสำนึก "ถ้าจะหายจนต้องให้ลูกเรียน"
เมื่อเร็วๆ นี้นายนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมการเรียนรู้สู่สังคมท้องถิ่นฉบับคนยะลา : ประกาศเด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ” ซึ่งจัดโดยเครือข่ายประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา คณะกรรมการการยกระดับการพัฒนาการเรียนรู้จังหวัดยะลา และสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ถึงการจัดการศึกษาของ จ.ยะลาว่า เหมือนกับการศึกษาทุกระบบในประเทศไทยภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แต่หากมาวัดกันที่เรื่องคุณภาพการศึกษาก็ต้องยอมรับว่า ยะลาก็คงเหมือนปัตตานี และนราธิวาส คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่ำ เด็กยังคงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ คิดแก้ปัญหาไม่เป็น
นายเดชรัฐ กล่าวว่า ปัญหาอีกเรื่องที่สำคัญคือเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา หรือเด็กด้อยโอกาสมีจำนวนมากถึง 11,000 คน ดังนั้น ในปี 2557 จ.ยะลาจะเร่งแก้ปัญหานี้ เพราะศธ.แก้เฉพาะปัญหาการศึกษาที่อยู่ในระบบ ขณะที่นอกระบบ ซึ่งยังแก้ไม่ได้ และยังไม่ตกผลึกเลย กลายเป็นว่า ขณะนี้ผลการศึกษาของประเทศไทยอยู่ลำดับ 8 ในอาเซียน แต่เด็ก 11,000 คน เป็นส่วนใหญ่ที่เราต้องเร่งแก้ไข โดยการระดมพลังจากทุกภาคส่วน
ผวจ.ยะลา กล่าวต่อว่า เด็กกลุ่มนี้ จำนวน 6,000 คน หลุดออกจากระบบการศึกษา เพราะอ้างว่า เกิดจากพ่อ แม่ยากจน ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่า ยากจนจริง ดังนั้น การแก้ไขจะต้องแก้ปัญหา 2 ส่วน คือ
1.แก้ความยากจนของพ่อ แม่ ด้วยการให้อาชีพ ให้งานทำ โดยท้องถิ่น อบจ เทศบาล อบต พม. รวมทั้งการพัฒนาชุมชน ฝ่ายปกครอง เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
2.เร่งปลูกจิตสำนึก เพราะนอกจากจะให้เงินแล้วต้องให้ความรู้ด้วย อีกทั้ง ส่วนใหญ่แต่ละครอบครัวมีลูกค่อนข้างมากยิ่งเพิ่มความยากจน จึงต้องปลูกจิตสำนึกว่า ถ้าจนแล้วไม่ให้ลูกเรียนจะยิ่งโคตรจน ถ้าจะหายจนต้องให้ลูกเรียนหนังสือ
“ความสำเร็จในการจัดการศึกษาของ จ.ยะลา จุดเด่นคือการรวมพลัง เพราะในความเป็นจริงแล้วปัญหาการศึกษาของ จ.ยะลา หรือใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่าไม่มีบุคลากรทางการศึกษา ไม่ใช่ว่าไม่มีงบประมาณ แต่เกิดจากไม่รวมพลังกัน ต่างคนต่างทำ” นายเดชรัฐ กล่าว และว่า การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาเป็นแบบขาดๆ เกินๆ บางอย่างก็แก้ไขจนมากเกินไป หลายเรื่องไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาพบว่า มีถึง 35 หน่วยงาน ต่างคนต่างทำ
ผจว.ยะลา กล่าวว่า ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2556 จึงตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาการศึกษาและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน โดยมี 35 หน่วยงานมาเป็นคณะทำงานทั้งหมด เพื่อขับเคลื่อนการศึกษา และเมื่อรวมพลังกันแล้วผลดีที่เกิดขึ้นคือการมีฐานข้อมูลที่เป็นระบบชัดเจน และสามารถส่งต่อไปยังองค์กร หน่วยงานที่รับผิดชอบได้รวดเร็วขึ้น เช่น กรณีเด็กด้อยโอกาสอยู่ที่ไหนบ้าง สามารถตามตัวมาเข้าเรียนได้ เพราะเรามีศูนย์ปฏิบัติการนำร่องให้เทศบาลรับผิดชอบถึง 6 ศูนย์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์ช่วยเหลือคนพิการอีก 1,000 คน ที่ไม่ได้เรียนหนังสือ และมีศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 2 เข้ามาช่วย
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากคือการศึกษาปฐมวัยที่กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้รับผิดชอบนั้น นายเดชรัฐ กล่าวว่า ได้มอบให้ท้องถิ่นดำเนินการเอง ซึ่งท้องถิ่นก็สามารถบริหารจัดการเองได้และจัดการได้ดีเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากทุกคนเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษาปฐมวัยสำคัญมาก ตามปรัชญาการศึกษาสมัยใหม่ และจากแนวความคิดนี้จึงทำให้เราตื่นตัว และจะไม่ให้เกิดคำพูดที่ว่ากว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว
“สิ่งที่ยังต้องการที่สุด คือ การรวมพลัง โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ในปี 2557 เป็นปีรวมพลังชาวยะลา พัฒนาสู่อาเซียน พร้อมการประกาศให้เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งได้กำหนด นโยบาย แผนวางไว้การพัฒนาและสร้างโอกาสทางการศึกษาต้องอยู่ในวาระแรกจาก 16 วาระของจังหวัด ซึ่งต้องรวมพลังกันทั้งหมดจังหวัดจะถือเป็นความเร่งด่วนที่ต้องผลักดันให้ได้รับการศึกษา จะต้องให้เด็กกลับเข้ามาสู่ในระบบการศึกษาให้ได้ ดังนั้นในปี 2557 เราจะทำงานเชิงรุก เน้นพิเศษเด็กปฐมวัย เด็กด้อยโอกาส ขาดโอกาสทางการศึกษา เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาภาคบังคับ"
ทั้งนี้ ผจว.ยะลา กล่าวด้วยว่า ภายในปี 2558 เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาไปแล้ว ไม่น้อยกว่า 90 % จะต้องนำกลับมาสู่ระบบการศึกษาให้ได้ จึงอยากย้ำหนักๆ ว่า เรื่องการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญจึงต้องการการรวมพลัง การช่วยกันคนละไม้ละมือจากทุกหน่วยงาน แต่ละหน่วยงานมีภาระหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่จากนี้เราจะต้องผนึกกำลังช่วยเหลือกัน ทุกคนต้องเสียสละ รวมพลัง ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดก็ตาม