พลังงานเตรียมฟ้องแพ่ง-อาญาผู้ชุมนุม
กระทรวงพลังงานเตรียมฟ้องแพ่ง-อาญา ผู้ชุมนุมทางการเมืองต่อต้านระบอบทักษิณ "พงษ์ศักดิ์" ชี้ยึดกระทรวงส่งผลกระทบรุนแรง
การชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณของมวลชนจำนวนมาก ที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานราชการหลายแห่ง รวมถึงกระทรวงพลังงาน ล่าสุดทางกระทรวงฯ ได้จัดประชุมร่วมผู้บริหาร เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินการต่อจากนี้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าขณะนี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย และวีดิโอ ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.ได้นำรถของ กฟน.เข้ามาตัดการจ่ายไฟฟ้าที่บริเวณตึกเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ทำการของกระทรวงพลังงาน และ ปตท. รวมทั้งบริษัทในเครือ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินการอย่างมาก และหลังจากการรวบรวมหลักฐานแล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา
"ความเสียหายเกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อระบบธุรกิจต่างๆ ทั้งการดูแลธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียมทั่วโลกของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด หรือ ปตท.สผ. ซึ่งจำเป็นต้องใช้การติดตามแบบต่อเนื่อง หรือเรียลไทม์ รวมทั้งความเสียหายด้านอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากประเมินมูลค่าและความเสี่ยงเสร็จสิ้น คาดว่าในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ทั้งกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานต่าง ๆ คงกลับไปทำงานตามปกติได้"
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า และเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทางกระทรวงพลังงาน ได้ยกระดับการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน ทั้งระบบไฟฟ้าและเชื้อเพลิง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จะไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ยืนยันว่าจะไม่มีการดับไฟ หรือหยุดการผลิตไฟฟ้าตามโรงไฟฟ้าต่างๆ เพราะสหภาพฯ มีความเข้าใจด้านกฎหมายความมั่นคงและการบริการประชาชนเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีที่การชุมนุมระบุว่าสหภาพฯ จะปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี จากการสอบสวนของ กฟผ. พบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านนายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวว่า ทางผู้บริหาร กฟผ.ได้หารือกับสหภาพฯ กฟผ.ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าจะดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้า โดยจะไม่มีการหยุดผลิตหรือตัดการจ่ายไฟตามโรงไฟฟ้าต่างๆ แต่อย่างใด
แม้ว่าขณะนี้จะมีตัวแทนสหภาพฯ รวมไปถึงพนักงาน กฟผ.ไปร่วมชุมนุมด้วยก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่การดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าถือว่าเป็นหน้าที่ ขณะเดียวกัน กฟผ.ได้ยกระดับการดูแลทั้งระบบส่งและโรงไฟฟ้า โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย