"ประชา-ผบ.ตร.-ภราดร"ออกรายการแจงไม่ใช้ความรุนแรง-อาวุธ เน้นพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ได้มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. และ พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาชี้แจงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้
ทั้งนี้ พล.ต.อ. ประชา ระบุ สถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ชุมนุมเข้ายึดสถานที่ราชการมี 2 จุด คือ ที่กระทรวงการคลังและศูนย์ราชการ บี ที่แจ้งวัฒนะ แต่ในทุกหน่วยงานและทุกกลไกในภาครัฐ ยังสามารถให้บริการประชาชนได้ตามปกติ ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แม้บางส่วนถูกยึดไปแต่ยังมีระบบสำรองบริการประชาชนได้สมบูรณ์อยู่ แต่ที่กังวล คือ ความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของประเทศ ในสายตานานาชาติก็มองประเทศไทยอยู่ การชุมนุมถึงขั้นยึดสถานที่ราชการ ในด้านความเชื่อมั่นในสายตาต่างประเทศก็มีบ้าง ช่วงนี้ปลายปีปกติต่างชาติจะเข้ามาท่องเที่ยว เป็นฤดูท่องเที่ยว ปีนี้ก็อาจจะมีผลกระทบ ตรงนี้เราเป็นห่วง เพราะท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญ แต่ขอยืนยันการทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนยังได้ทำได้อย่างสมบูรณ์อยู่ ส่วนการทำงานของข้าราชการ ก็มีผลกระทบได้ แต่เรามีการเตรียมระบบสำรองไว้ ยังทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถ้ามีเพิ่มขึ้น ก็ต้องยอมมรับว่าผลกระทบก็ต้องมี แต่ทางศอ.รส.ได้วางมาตรการไว้อย่างถี่ถ้วนครบถ้วนในการป้องกันไว้
"ตอนนี้ผู้ชุมนุมมีการชุมนุมหลายจุด แม้จะเป็นการชุมนุมโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดูแล ก็ขอฝากผู้ชุมนุมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เป็นศัตรูแต่มาเพื่อเสริมความปลอดภัยในภาพรวม ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามสิทธิที่มีอยู่ ไม่อยากให้มีการละเมิดสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกัน" รองนายกฯกล่าวและว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับว่า การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ไม่ให้ใช้อาวุธ เน้นเรื่องการพูดคุยกัน ที่ผ่านมาก็ยังพูดคุยกันได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ กินเงินเดือนพี่น้องประชาชน ก็ไม่ได้มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่
ด้านพล.ต.อ. อดุลย์ กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองหลายครั้งที่ผ่านมา สามารถยึดสถานที่ราชการได้หลายครั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯจึงออกมาเพื่อป้องกันเหตุ หลังออกมาเราก็วางแผนไว้เพื่อให้ปฏิบัติการได้ อันดับแรก คือ การดูแลสถานที่สำคัญที่ผ่านมาเราสามารถควบคุมได้ ประการที่2 เราต้องควบคุมไม่ให้เกิดการยั่วยุ หรือมีมือที่3 มาก่อเหตุ เพราะการชุมนุมครั้งนี้เหตุการณ์มีโอกาสขยายผลได้ ประการที่3 มีมาตรการทางกฎหมายต่อแกนนำ หรือผู้ปลุกระดมให้ประชาชนเข้าไปในสถานที่ราชการ และประการที่ 4 เรามีแผนเผชิญเหตุกรณีผู้ชุมนุมเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่างๆ ในส่วนของพื้นที่ที่เข้าไปที่กระทรวงการคลังและศูนย์ราชการ เราก็มีมาตรการเป็นขั้นๆ ในการดำเนินการ
ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการทางกฎหมายเป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวังในการใช้เหมือนกัน ผู้ชุมนุมมาตามสิทธิได้แต่ต้องไม่ละเมิด ถ้าละเมิดกฎหมายก็จะมีการดำเนินการในภายหลัง ตอนนี้ก็มีแล้ว สามารถออกหมายจับแกนนำคุณสุเทพได้ที่เข้าไปในกระทรวงการคลัง อายุความประมาณ 10 ปี ส่วนในการดูแลผู้ชุมนุมก็พยายามดูแลเรื่องการจราจรให้สะดวก ดูแลไม่ให้มีการก่อเหตุ หรือมือที่สาม มีการค้นอาวุธ ตั้งด่าน และที่ผ่านมาเราก็สามารถยึดทั้งมีด และอาวุธปืนได้พอสมควร เป็นปืนของการ์ดของกลุ่ม