ดูชัดๆ“บทบาท-ท่าที”อคส.ตัวการหลักคดีข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์”
ดูชัดๆ “บทบาท-ท่าที” อคส. ตัวการหลักโครงการระบายข้าวถุง รัฐบาล”ยิ่งลักษณ์” ในสำนวนสอบคณะอนุกมธ.ฯ -ผู้บริหารอ้างไม่รู้เรื่อง บริษัทเอกชนทำสัญญาขายช่วง ล่าสุดยังตามของ 5.9 แสนตันคืนไม่ครบ ?
ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาการทุจริตโครงการระบายข้าวถุงของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบ วุฒิสภา ที่มีพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในขณะนี้
มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจหลายประการ เกี่ยวกับ "บทบาท" และ "ท่าที" ของ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบกับโครงการนี้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกและลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทเอกชน เข้ามารับงาน ทั้งการปรับปรุงข้าวถุง รวมถึงตัวแทนจำหน่าย
แต่มีข้อเท็จจริงประการหนึ่งของ อคส. เกี่ยวกับโครงการนี้ ที่สาธารณชนอาจจะยังไม่ทราบ ?
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในสำนวนการตรวจสอบของคณะอนุกมธ.ฯ ที่อยู่มือของ ป.ป.ช. ในขณะนี้ มีการระบุชัดเจนว่า ภายหลังจากที่คณะอนุกมธฯ ตรวจพบหลักฐานว่าบริษัทเอกชน 3 ราย คือ บริษัท สยามรักษ์ จำกัด , บริษัท คอนไซน์เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท ร่มทอง จำกัด ที่ได้รับการคัดเลือกจาก อคส. ให้มารับหน้าที่ผู้แทนจำหน่ายข้าวถุง ได้ไปทำสัญญาขายสิทธิให้กับบริษัทและโรงสี ที่รับหน้าที่ผู้ปรับปรุงข้าวถุงทันที ทำให้ข้าวไม่ได้กระจายไปถึงมือประชาชน
คณะอนุกมธฯ ได้เดินทางไปพบกับผู้บริหาร อคส. พบสอบถามถึงปัญหาเรื่องนี้ และแจ้งให้ทราบว่า ทางคณะอนุกมธฯ ได้ไปตรวจสอบยังร้านค้าจำหน่ายทั่วไป หลายจังหวัดและไม่พบมีการจำหน่ายข้าวถุงของ อคส.แต่อย่างใด
เบื้องต้น ผู้บริหาร อคส. ให้ข้อมูลว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อนและบอกว่า เมื่อเป็นเช่นชั้น คงจะแจ้งให้ "ผู้บังคับบัญชา" สั่งระงับให้โรงสีที่ปรับปรุงหยุดดำเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงข้าวสารถุง เนื่องจากเกรงว่า จะทำความเสียหายตามที่ คณะอนุกมธฯ ได้แจ้งให้กับอคส.
ทั้งนี้ คณะอนุกมธฯ ยังได้กำชับให้ทางอคส. เร่งรัดติดตามข้าวที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ที่รับปรับปรุงและยังไม่ได้จำหน่ายข้าวสารไปยังที่อื่น กลับคืนมาโดยเร็ว ซึ่งทางอคส. ก็รับว่าจะเรียกข้าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบ ของผู้ปรับปรุงกลับคืนให้ แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2556
โดยจำนวนข้าวที่มีการเบิกไปแล้ว มีจำนวนกว่า 5 แสนกว่าตัน คิดเป็นจำนวนเงิน 6 -7 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกมธฯ ระบุในรายงานการสอบสวนว่า จนถึงปัจจุบัน (22 พฤศจิกายน 2556) อคส. ยังไม่สามารถเรียกข้าวที่โรงสีเบิกไปปรับปรุงได้ครบตามจำนวนที่ แจ้งให้ทราบแต่อย่างใด
และจากการตรวจสอบสัญญาขายสิทธิของ บริษัทตัวแทนจำหน่ายข้าวให้กับบริษัทและโรงสีต่อ นั้น มีการตรวจสอบพบหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า มีการจัดทำขึ้นที่ อคส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรื่องโครงการระบายข้าวถุง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในการทำสัญญาขายสิทธิการระบายข้าวระหว่าง บริษัทปรับปรุงข้าว กับ บริษัทที่เข้ามารับเป็นตัวแทนจำหน่าย พบว่า ฝ่ายตัวแทนจำหน่าย ได้นำเงิน ผู้ปรับปรุงข้าวไปชำระให้ อคส. โดยวิธีออกเป็นแคชเชียร์เช็ค และดิวนี้เกิดขึ้นที่ อคส. เมื่อ อคส. ออกใบเบิกข้าวให้ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจำหน่ายก็นำใบเบิกข้าวไปคืนให้กับโรงสีผู้ปรับปรุง เท่ากับว่าเอากระดาษมาค้าขายกันเท่านั้น
ขณะที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า "ที่ว่ามีการทุจริตหลายร้อยล้านบาทจากการนำข้าว 2.5 ล้านตันไปทำข้าวถุงนั้น โครงการเป็นเช่นนั้นจริง แต่เบิกไปทำข้าวถุงเพียง 5.9 แสนตัน ที่เหลือได้สั่งให้คืนคลังทั้งหมด ดังนั้น ตัวเลขที่กล่าวว่านำข้าวไป 2.5 ล้านตันนั้นจึงไม่จริง ทั้งนี้ เรื่องทุจริตทั้งหลายการตรวจสอบยังไม่สำเร็จลุล่วง หากฝ่ายค้านมีข้อมูลใดข้อให้นำส่ง เพื่อนำไปดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป"
ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง มิได้มีการระบุว่า ปัจจุบันสามารถติดตามข้าวจำนวน 5.9 แสนตัน กลับคืนมาได้ครบถ้วนแล้วหรือไม่
------
อ่านประกอบ:
เอ็กซ์คลูซีฟ:แผนผังความเชื่อมโยงเครือข่ายระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
หลักฐานใหม่มัดระบายข้าวถุง-"น้องชาย"บอร์ดอคส.โผล่นั่งบริหาร"สยามรักษ์"