เปิดคำให้การ“สยามรักษ์”มัด"เจียเม้ง"เอี่ยวระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
เอ็กซ์คลูซีฟ: เปิดคำให้การ “สยามรักษ์” บริษัทเก่าเลขาฯ รมว.พณ รับสภาพไม่เคยทำธุรกิจค้าข้าว ได้สัญญาระบายข้าวถุง จากอคส. ปุ๊บ ขายสิทธิต่อทันที ไขปริศนา "เจียเม้ง" ตัวละครเอกคดีนี้
หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า บริษัท สยามรักษ์ จำกัด เป็นบริษัทเก่าของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และบริษัทแห่งนี้ทำธุรกิจส่งออก ดอกไม้หอมอบแห้ง เป็นหลัก แต่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้เข้ามาเป็นตัวแทนระบายข้าวถุงราคาถูกของรัฐบาล เพื่อกระจายต่อไปยังร้านจำหน่ายทั่วไปให้ถึงมือประชาชน
แต่ภายหลังจากเข้าทำสัญญาเป็นตัวแทนระบายข้าวจากอคส. ดังกล่าว บริษัท สยามรักษ์ ได้ทำการขายสิทธิ์ ต่อให้บุคคลอื่นทันที
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในช่วงการตรจสอบข้อมูลเรื่องการระบายข้างถุงของคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบเรื่องการระบายข้าวถุง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ที่มีพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา เป็นประธาน
นายทวีศักดิ์ หิรัญรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามรักษ์ จำกัด ได้ติดต่อขอเข้าพบ พล.ต.ท.ยุทธนา เพื่อขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ คณะอนุกมธฯ
โดย นายทวีศักดิ์ ยอมรับว่า ตนเองเป็นตัวแทนจำหน่ายข้าวสารถุงของ อคส. แต่ไม่เคยมีอาชีพเกี่ยวกับการค้าข่าวมาก่อนแต่อย่างใด จึงไม่สามารถนำข้าวไปจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ ได้ และเห็นว่า สัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ทำไว้ สามารถนำขายส่งหรือขายปลีกได้
จึงได้ขายช่วงการระบายข้าว ต่อให้กับ โรงสีที่ทำการปรับปรุงข้าวไปทันที โดยได้ทำสัญญา กับนายศุภกร แซ่เฮ้ง โดยการแนะนำของเจ้าของบริษัท เจียเม้ง บริษัท สิงโตทอง และบริษัทโชควรลักษณ์ รุ่งเรือง จำกัด
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่ว่า ข้าวที่เบิกออกมาจากคลังอคส. หายไปไหนนั้น นายทวีศักดิ์ ยีนยันว่า ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ยังตรวจสอบพบว่า ในการเข้ามารับหน้าที่เป็นตัวแทนระบายข้าวถุงให้กับ อคส. บริษัท สยามรักษ์ อ้างว่า มีร้านจำหน่ายข้าวสารทั่วประเทศ ประมาณ 1,420 ร้าน
โดยระบุร้านค้าส่งขนาดใหญ่ ในต่างจังหวัด จำนวน 180 ร้าน ในกรุงเทพฯ ปริมาณ จำนวน 100 ร้าน ซึ่งในจำนวนนี้ ได้ระบุชื่อร้านตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ 12 ร้าน
แต่จากการดำเนินทางไปตรวจสอบข้อมูลของคณะอนุกมธฯ ตามรายชื่อร้านที่บริษัท สยามรักษ์ ระบุถึง ได้รับการยืนยันว่า ไม่รู้จักบริษัท สยามรักษ์ แต่อย่างใด
เพียงแต่เคยเป็นลูกค้าของบริษัท เจียเม้ง ซึ่งเป็นโรงสี ขนาดใหญ่ และจากการตรวจสอบ ร้ายจำหน่ายข้าวทั่วไป ในจังหวัดต่างๆ ก็ไม่มีข้าวสารในรูปแบบที่ อคส. จัดทำข้าวสารถุง วางจำหน่ายแต่อย่างใด
ทั้งๆ ที่ในการสอบถาม อคส. ยืนยันว่า ไดให้โรงสี ที่ปรับปรุงข้าวสารถุง ๆได้อนุมัติให้เบิกข้าวสาร ในโกดังของรัฐไปจำนวน ถึง 1 ล้านตัน จึงสงสัยว่า ข้าวสารที่ อคส. ได้จ้างให้มีการปรับปรุงบรรจุถุงเพื่อขายให้กับประชาชน ในราคาถูกนั้นหายไป
ขณะที่นายศุภกร อ้างต่อคณะอนุกมธฯ ว่าบริษัทเจียเม้ง เป็นผู้ชักชวนให้มาทำสัญญากับบริษัท สยามรักษ์ โดยจะได้รับรายได้จากการจำหน่ายข้าวถุงละ 2 บาท หากมีลูกค้าสนใจติดต่อสั่งซื้อข้าว ทางบริษัทจะให้ผู้ซื้อติดต่อโดยตรงไปที่ บ.เจียเม้ง พร้อมกับให้ผู้ซื้อโอนเงินให้กับ บ.เจียเม้งโดยตรง ดังนั้นเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่ผ่านบริษัท
บริษัท เจียเม้ง จำกัด จึงกลายเป็นตัวละครเอกสำคัญ ในคดีโครงการระบายข้าวถุง ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. อยู่ในขณะนี้