ดูชัดๆประกาศอำนาจ&ข้อกำหนด-"ยิ่งลักษณ์"สั่งคุมเข้มม็อบ 4 จังหวัด
ดูชัดๆ ประกาศ"อำนาจ-ข้อกำหนด"รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" สั่งขยายพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง 4 จังหวัด คุมเข้มม็อบ!! อ้างมีแนวโน้มเกิดความวุ่นวาย ปลุกระดมมวลชนปิดล้อม-ยึดสถานที่ราชการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ "ผลประโยชน์ของกลุ่มตน"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่ กทม. ทั้ง 50 เขต จ.นนทบุรี ทุกอำเภอ จ.สมุทรปราการ เฉพาะ อ.บางพลี และ จ.ปทุมธานี เฉพาะ อ.ลาดหลุมแก้ว ในช่วงเวลา 21.35 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556
ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่ได้มีการประกาศให้เขตพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิตและแขวงจิตรลดา เขตพระนครเฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม และแขวงบางขุนพรหมและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๐พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อป้องกันและแก้ไขเหตุความรุนแรงจากสถานการณ์การชุมนุม นั้น
เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงตั้งแต่วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นมามีแนวโน้มจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจากการที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนในการปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วมประท้วงปิดล้อม และยึดสถานที่ราชการ โดยมุ่งหวังจะขัดขวางการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และพยายามให้เกิดความยืดเยื้อในการชุมนุมเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ของกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว อีกทั้ง อาจมีผู้ไม่หวังดีเตรียมการก่อเหตุระหว่างการชุมนุมเพื่อหวังผลให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือเกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ ประกอบการบังคับใช้กฎหมายในระบบปกติยังขาดประสิทธิภาพที่เพียงพอในการป้องกัน และระงับเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการในการรักษาความสงบและความปลอดภัย มีเอกภาพ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งเกิดความต่อเนื่องในการใช้อำนาจหน้าที่บังคับใช้ตามกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ. ๒๕๕๑ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๑ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ดังต่อไปนี้
๑. ให้เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
๒. ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกันปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและจัดทำแผนการดำเนินการในการบูรณาการ การกำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด
๓. เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานให้บรรดาประกาศ ข้อกำหนด คำสั่ง หรือการดำเนินการใดของศูนย์อำนวยการ หน่วยงาน พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ใดที่ได้รับมอบหมายจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามประกาศเรื่องพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ยังคงมีผลบังคับใช้โดยต่อเนื่องจนกว่าจะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ เฉพาะในเขตพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิตและแขวงจิตรลดาเขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถมและแขวงบางขุนพรหม และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๕๖ เว้นแต่ในเขตพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิตและแขวงจิตรลดา เขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม และแขวงบางขุนพรหมและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส กรุงเทพมหานคร ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/E/165/1.PDF
0000
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา ยังได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑
ระบุว่าตามที่ได้มีประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ นั้น
เพื่อให้สามารถป้องกัน ควบคุม และแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙และมาตรา ๓๑ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๘มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยความเห็นชอบของ
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ จึงออกข้อกำหนด ดังนี้
๑. ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และพนักงานเจ้าหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ตามที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการมีคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามแผนการดำเนินการ เพื่อป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
๒. ห้ามบุคคลใดเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ ตามที่ผู้อำนวยการ
รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการประกาศกำหนด เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่มีประกาศของบุคคลดังกล่าวว่าเป็นบุคคลที่ได้รับยกเว้น
๓. ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
๔. ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้ ตามที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการประกาศกำหนด
๕. ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามชนิด ประเภท ลักษณะการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการประกาศกำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชนในการนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ จะกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน
เกินสมควรแก่เหตุได้
เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้บรรดาประกาศ หรือคำสั่งใดที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก
ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการกำหนดขึ้น
ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ. ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ยังคงมีผลใช้บังคับใช้ต่อไป จนกว่าจะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๕๖ เว้นแต่ในเขตพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิตและแขวงจิตรลดา เขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม และแขวงบางขุนพรหม
และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส กรุงเทพมหานคร ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/E/165/5.PDF
000
นอกจากนี้ ราชกิจจานุเบกษา ยังได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย
โดยระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ นั้น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๑ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมีอำนาจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติ สั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ที่มีการประกาศพื้นที่และห้วงเวลาปรากฏเหตุการณ์
อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
๑. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. ๒๕๕๑
๒. พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗
๓. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
๔. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๓๐
๕. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐
๖. พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. ๒๔๙๓
๗. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
๘. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒
๙. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕
๑๐. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
พ.ศ. ๒๔๙๐
๑๑. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
๑๒. พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๓. พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๔๒
๑๔. พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
๑๕. พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖
๑๖. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสมาคมและมูลนิธิ
๑๗. ประมวลกฎหมายอาญา
๑๘. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
ทั้งนี้ ให้รวมถึงกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวข้างต้นด้วย
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ให้มีอำนาจดำเนินการโดยให้ถือเสมือนเป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้นโดยการใช้กฎหมายดังกล่าว ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ในการนี้การดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าวมิได้เป็นการทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้รับผิดชอบเดิมหมดไปซึ่งยังครอบคลุมหน้าที่ตามปกติ
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๕๖ เว้นแต่ในเขตพื้นที่เขตดุสิต เฉพาะแขวงดุสิตและแขวงจิตรลดา เขตพระนคร เฉพาะแขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงตลาดยอด แขวงบวรนิเวศ แขวงบ้านพานถม และแขวงบางขุนพรหมและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฉพาะแขวงวัดโสมนัส กรุงเทพมหานคร ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี