ประมวลผล “ม็อบราชดำเนิน” เคลื่อนพล 13 จุดทั่วกรุง
"จะยึดกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักตรวจเงินแผ่นดิน ที่ถือเป็นหัวใจหลักของระบอบทักษิณ เราจะปฎิวัติโดยประชาชน ข้าราชการด้านในขอให้ตัดสินใจว่าจะร่วมกับเราหรือไม่ น้ำไฟจะไม่ไหลอีกแล้ว และหากรัฐบาลไม่ยอมแพ้จะยึดทุกกระทรวง"
ค่ำคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตส.ส.ปชป. แกนนำกลุ่มต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกาศยกระดับการชุมนุมเดินสายไปยังจุดยุทธศาสตร์สำคัญ 13 จุด
ซึ่งประกอบด้วย 1.กองบัญชาการทหารสูงสุด 2.กองบัญชาการกองทัพอากาศ 3.กองทัพบก 4.กองบัญชาการกองทัพเรือ 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.กองบัญชาการตำรวจนครบาล 7.สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 8.สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 9.สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 มีนายชาญวิทย์ วิภูศิริ นำไป 10.สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 11.สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ 12.กระทรวงมหาดไทย และ 13.สำนักงบประมาณ
ทั้งฝ่ายรัฐ และ ฝ่ายม็อบ ต่างก็ลุ้นกันว่าเมื่อม็อบเดินเข้าหา จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือไม่
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมบรรยากาศทั้งหมด เพื่อให้เห็นภาพความเคลื่อนไหวในทุกจุดของผู้ชุมนุม
เวลา 08.00 น. นายสุเทพ ประกาศแนวทางการเคลื่อนไหว โดยได้ย้ำสถานที่ที่จะเดินทางไปรวม 13 แห่ง
เวลา 08.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผบ.เหล่าทัพ ได้ยกเลิกภารกิจการเดินทางไปบันทึกเทปโทรทัศน์กล่าวคำอาเศียรวาท เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่เนื่องจากช่อง 5 เป็นสถานที่หนึ่งที่จะมีผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามา จึงจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจไปก่อน
ก่อนที่เวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางเข้าร่วมประชุมครม. และประชุมหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์
เวลา 09.00 น. พิธีกรบนเวทีราชดำเนินเริ่มแบ่งมวลชนให้เดินทางดาวกระจายตามสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ 13 แห่ง โดยประกาศชื่อแกนนำที่จะนำไป แล้วให้มวลชนที่สนใจไปร่วมชุมนุมที่แกนนำ จากนั้นผู้ชุมนุมได้เดินเท้าออกจากเวทีราชดำเนิน
กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายชุมพล จุลใส อดีตส.ส.ปชป. นำมวลชนไปถึงเวลา เวลา 10.14 น. โดยมวลชนโดนตำรวจปิดกั้นอยู่แยกมิสกวัน ทั้งนี้นายจุมพลได้ปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. ได้เดินออกมารับดอกไม้จากกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยนายจุมพล แทนพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส.ปชป. นำมวลชนเดินทางถึงสตช. เต็มบริเวณโดยรอบ และสะพานเชื่อมสถานีบีทีเอสสยาม พร้อมต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชูป้ายคัดค้าน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ทั้งหมด 15 กองร้อย
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้ารักษาการณ์อย่างด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย
กองบัญชาการทหารสูงสุด นายสกลธี ภัททิยกุล นำขบวนเดินทางมาถึง เวลา 11.30 น. โดยใช้เวลาปราศรัยเชิญชวนข้าราชการทหาร ให้ออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน กระทั่งในขากลับที่ต้องผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสกลธีได้เชิญชวนประชาชนไปขับไล่นายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอ
กองบัญชาการกองทัพบก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตส.ส.ปชป. เดินทางมาถึงกองทัพบก เวลา 10.20 น. พร้อมตั้งเวทีเวทีปราศรัย โดยมีพ.อ.วัชระ นิตยะสุทธิ์ รองเลขาทบ. และพ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก หน้ากองบัญชาการกองทัพบก เป็นตัวแทนมารับมอบดอกไม้
กองบัญชาการกองทัพเรือ นายสนธิญาณ. ชื่นฤทัยในธรรม บก.ทีนิวส์ เดินทางถึงกองทัพเรือ ฝั่งธนบุรี เวลา 11.10 น. โดยมี พล.ร.ต.กาญจน์ ดึอุบล เลขานุการ ทร. เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด และได้เดินทางออกจากองทัพเรือเมื่อเวลา 11.45 น.
กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง นาย วิทยา แก้วภราดัย อดีตส.ส.ปชป. นำมวลชนไปยังฐานทัพอากาศดอนเมือง ยื่นหนังสือมอบดอกไม้ให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบทอ. เรียกร้องใหัออกมายืนเคียงข้างประชาชน
สำนักงบประมาณ นายสุเทพ นำมวลชนจำนวนมากเดินทางถึงเวลา 11.50 น. โดยที่กระทรวงการคลังมีประชาชนจำนวนหนึ่งรอรับอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นนายสุเทพ ขึ้นปราศรัยว่า ขอนั่งกินข้าวก่อน แล้วจะบุกเข้าไปข้างใน
ต่อมาเวลา 13.42 น. นายสุเทพ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับผู้ชุมนุมอีกครั้ง โดยระบุว่า จะยึดกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักตรวจเงินแผ่นดิน ที่ถือเป็นหัวใจหลักของระบอบทักษิณ เราจะปฎิวัติโดยประชาชน ข้าราชการด้านในขอให้ตัดสินใจว่าจะร่วมกับเราหรือไม่ น้ำไฟจะไม่ไหลอีกแล้ว และหากรัฐบาลไม่ยอมแพ้จะยึดทุกกระทรวง
กระทั้งเวลา 15.10 น. นายสุเทพ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยว่า จะอยู่ร่วมกับมวลชนที่นี่ และขอให้ทุกครั้งขยับเข้าไปอยู่ในรั้วของสำนักงบประมาณเพื่อง่ายต่อการดูแล ในคืนนี้เราจะปักหลักที่นี่ แต่เวทีราชดำเนินยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามเราจะชนะระบอบทักษิณภายใน 3 วันอย่างแน่นอน พร้อมขอชายฉกรรจ์ 600 คนเคลื่อนตัวไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย
กระทรวงมหาดไทย นายสุพล จุลใส นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร นำมวลชนมาถึงเวลา 09.30 น. ซึ่งได้ปราศรัยโจมตีนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ทำหนังสือไม่ให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นออกมาชุมนุม แต่นายจารุพงษ์กลับขึ้นเวทีคนเสื้อแดงเสียเอง
สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 นายชาญวุฒิ เวชโพธิศิริ นำมวลชนเดินทางมาถึง เวลา 11.00 น. พร้อมทั้งมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้ผู้บริหารช่อง 7
สถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย ช่อง 11 นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.ปชป. นำมวลชนเดินทางมาถึง เวลา 11.30 น. โดยกลุ่มมวลชนจำนวนมากได้ปิดการจราจรบนถนนภาวดีรังสิต หน้าสถานี 1 ช่องทาง โดยนายถาวร ระบุว่า จะรอให้ตัวแทนของช่อง 11 ออกมาเจรจา ถ้าไม่มีจะปักษ์ชุมนุม
ต่อมาเวลา 12.41 น. มีรายงานว่า มวลชนได้นำลวดหนามบริเวณหน้าประตูทางเข้าออก พร้อมอ้างว่ารอเจ้าหน้าที่มารับหนังสือนานแล้ว แถมขอเข้าห้องน้ำก็ไม่ให้ กระทั่งเวลา 13.09 น. รองผู้อำนวยการสถานีฯ ได้เดินทางออกมารับหนังสือข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมจากนายถาวร ทำให้ผู้ชุมนุมพอใจ ก่อนจะจัดขบวนกลับถนนราชดำเนิน
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.ปชป. นำมวลชนมาถึงเวลา 11.50 น. โดยมีการโปกธงชาติ เป่านกหวีด จนต้องปิดถนนพระราม 4 พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ให้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งนี้ผู้ชุมนุมปักหลักอยู่หน้าช่อง 3 เป็นเวลานาน จนกระทั่ง 16.00 น. จึงเริ่มทยอยกลับมายังเวทีราชดำเนิน
ส่วนความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ปั่นป่วนเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แยกวัดเบญจมบพิตร โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อลวดหนาม แท่งแบริเออร์ ทิ้งลงคลอง
แต่จากนั้นนายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำคปท. ได้ประกาศให้ผู้ร่วมชุมนุมกลับไปชุมนุมที่แยกนางเลิ้ง เนื่องจากเป้าหมายหลักคือการยึดกระทรวงการคลัง ได้เรียบร้อยแล้ว
ทั้งหมดคือภาพรวมการเคลื่อนไหว “ดาวกระจาย” ของ “กลุ่มต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ที่มี “สุเทพ” เป็นหัวเรือใหญ่
ทุกที่ไปแค่เยี่ยมเยือนแล้วกลับ มีเพียง “กระทรวงคลัง-สำนักงบ” เท่านั้น ที่ “สุเทพ” ขอยึดไว้ จับให้ดีนี่อาจจะเป็นสมรภูมิรบที่ใหม่ เพราะล่าสุด “ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย” (ศอ.รส.) ออกมากดดันให้ผู้ชุมนุมออกจากสถานที่แล้ว
หาก “ม๊อบ” ยังอารยะชัดขืน มีหวังเป็นชนวนวุ่นวายได้
ภาพประกอบจากเว็บไซต์ www.manager.co.th