อานันท์ ปันยารชุนเรียกร้องคนไทยช่วยเหลือผู้ประสบภัยฟิลิปปินส์อย่างเร่งด่วน
อานันทร์ ปันยารชุน ชวนคนไทยแสดงพลังความมีน้ำใจร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยฟิลิปปินส์ หลังไทยเคยได้รับการช่วยเหลือจากยูนิเซฟ เมื่อ 9 ปีที่แล้ว

18 พฤศจิกายน 2556 นายอานันท์ ปันยารชุน ทูตองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยเรียกร้องให้ประชาชนไทยช่วยกันบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีและทูตยูนิเซฟ กล่าวว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งกับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของเด็กจำนวนมหาศาลจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ขณะนี้มีเด็กประมาณ 5.4 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราโดยด่วน และยูนิเซฟกำลังส่งความช่วยเหลือฉุกเฉินครั้งใหญ่ไปที่นั่น เรากำลังระดมทุนจำนวน 61.5 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อรับมือกับวิกฤตอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
“ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาช่วยกันบริจาคตอนนี้เพื่อช่วยให้ยูนิเซฟส่งความช่วยเหลือไปถึงเด็กทุกคนที่ต้องการ” นายอานันท์กล่าว
ทูตยูนิเซฟยังกล่าวอีกว่า เงินบริจาคจากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปช่วยเหลือเด็กและครอบครัวผู้ประสบภัยตลอดช่วง 6 เดือนจากนี้ไป และจากการประเมินสถานการณ์พบว่า มีประชากรประมาณ 12.9 ล้านคนที่ประสบภัยครั้งนี้ และอีก 1.9 ล้านคนต้องพลัดพรากจากที่อยู่อาศัย โดยเกือบ 790,000 คนเป็นเด็ก นอกจากนี้มีเด็กประมาณ 1.5 ล้านคนที่เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารอย่างเฉียบพลัน และมีสตรีตั้งครรภ์หรือที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตรอีก 800,000 คนที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านโภชนาการ ขณะนี้ ยูนิเซฟได้จัดส่งข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติจากประเทศต่างๆ กว่า 30 คนไปยังพื้นที่ประสบภัย และกำลังตั้งสำนักงานในเมืองทาโคลบันและพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ นอกจากนี้ยูนิเซฟได้ทยอยสิ่งของเครื่องใช้อีกจำนวนมาก เช่น ที่พักพิง ยา สารทำให้น้ำสะอาดชนิดเม็ด และอุปกรณ์เพื่อสุขอนามัยไปยังพื้นที่ประสบภัยโดยเครื่องบินและเรือ
นายอานันทร์ ปัญยารชุน กล่าวว่า ยูนิเซฟ องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) และกองทัพของฟิลิปปินส์ได้ช่วยกันปรับปรุงระบบน้ำในเมืองทาโคลบัน ซึ่งสามารถกลับมาใช้ได้งานอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยตอนนี้เป็นแหล่งน้ำดื่มสะอาดสำหรับประชากรทั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองและเขตใกล้เคียงประมาณ 200,000 คนต่อวัน เรื่องน้ำและเครื่องใช้เพื่อสุขอนามัยเป็นสิ่งที่ยูนิเซฟให้ความสำคัญเนื่องจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาด ในวันที่ 14พฤศจิกายน ยูนิเซฟได้ส่งที่เก็บน้ำขนาดใหญ่ ตลอดจนสารทำให้น้ำสะอาดชนิดเม็ด 7,000 กล่องและเครื่องใช้เพื่สุขอนามัยอีก 3,000 ชุดไปยังเมืองทาโคลบัน และสนับสนุนการสร้างระบบจัดการขยะและสิ่งปฏิกูล รวมถึงสุขาเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังจัดทำระบบบำบัดน้ำในจังหวัดคาปิส ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดื่มสะอาด 5,000 ลิตรต่อวัน และจัดส่งถังเก็บน้ำขนาด 5,000 ลิตรจำนวนมากไปยังเมืองร็อกซัส
“ในขณะเดียวกัน ยูนิเซฟกำลังจัดส่งอาหารสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินและเครื่องมือตลอดจนอบรมเจ้าหน้าสำหรับการจัดตั้งศูนย์เพื่อดูแลด้านโภชนาการและอาหารสำหรับเด็กเล็ก และกำลังร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกและกรมอนามัยของฟิลิปปินส์ เพื่อจัดการฉีดวัคซีนป้องกันหัดและโปลิโอให้แก่เด็กๆ ในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า โดยจะเริ่มที่เมืองทาโคลบันตอนสึนามิถล่มชายฝั่งอันดามันของประเทศไทยเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผู้คนทั่วโลกต่างมีน้ำใจช่วยกันบริจาค ซึ่งทำให้ยูนิเซฟมีเงินทุนกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐในการช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยในประเทศไทย ในเวลานี้ เป็นเวลาที่เราควรจะตอบแทนและแสดงให้โลกได้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยเช่นกัน” นายอานันท์กล่าว
ภาพจากเว็บไซต์http://www.unicef.or.th/supportus/en/newsPhoto.php?id=14
