"ซัมซามิน" ถก "ประชา" เดือนธันวาฯคุยบีอาร์เอ็น – จยย.บอมบ์ระแงะตายเจ็บเพียบ

ผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยสันติภาพไทย-บีอาร์เอ็น รุดหารือ "ประชา-ภราดร-นิพัทธ์" ถึงทำเนียบรัฐบาล แจ้งดึงพูโล-บีไอพีพีร่วมวง ให้ที่นั่งกลุ่มละ 2 และ 1 ที่นั่งตามลำดับ อ้างจัดทีมใหม่ พูดคุยเดือน พ.ย.ไม่ทัน เลื่อนยาวเป็นธันวาฯ เลขาฯสมช.เชื่อเหตุร้ายจะลดลง ด้านสถานการณ์ใต้ยังป่วน มอเตอร์ไซค์บอมบ์ใกล้งานจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่ระแงะ ทหาร ฉก.อโณทัยดับ 2 เจ็บระนาว

          ดาโต๊ะ สรี อาห์มัด ซัมซามิน ฮาซิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับตัวแทนกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐนำโดยบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซัน ตอยิบ ได้เดินทางเข้าพบพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันพุธที่ 6 พ.ย.2556 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเรื่องการนัดหมายพูดคุยสันติภาพครั้งต่อไป

          ทั้งนี้ ในการพบปะพูดคุยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายรัฐบาลไทย และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมหารือด้วย

ดึง "พูโล-บีไอพีพี" ร่วมโต๊ะ

          พล.ต.อ.ประชา เปิดเผยภายหลังการหารือซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงว่า ได้มีการพูดคุยถึงเนื้อหาที่ได้ดำเนินการมาแล้วในอดีต และจะดำเนินการต่อไปในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งในหลักสำคัญมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอให้ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียพิจารณารวมกลุ่มผู้ที่มีความเห็นขัดแย้งหลายกลุ่มเข้ามาร่วมวงเจรจา ประกอบด้วย กลุ่มบีอาร์เอ็น พูโล และขบวนการแนวร่วมอิสลามเพื่อปลดปล่อยปาตานี หรือบีไอพีพี โดยได้ดำเนินการสำเร็จเกือบ 100% แล้ว

          "ในส่วนของกลุ่มย่อยต่างๆ ได้เข้ามาสมทบแล้ว แต่เนื่องจากจำนวนที่นั่งมีจำกัด จึงให้ที่นั่งกลุ่มพูโล 2 ที่นั่ง จากทั้งหมด 15 ที่นั่ง ส่วนเรื่องสถานที่และวันเวลาในการพูดคุยครั้งต่อไปจะมีการประสานกันอีกครั้ง คาดว่าเป็นเร็วๆ นี้  ขณะที่คณะพูดคุยของฝ่ายไทยจะไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคล" พล.ต.อ.ประชา ระบุ 

          ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องของเรียกร้องและข้อเสนอต่างๆ ของทั้งสองฝ่าย ขณะนี้ได้ข้อยุติหรือยัง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เรื่องพื้นฐานที่เป็นหลักการสำคัญถือว่าคืบหน้าไปมาก และฝ่ายรัฐบาลยังไม่ได้ยื่นข้อเสนออะไร แต่ก่อนการหารือจะต้องมีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรกันอีกครั้งถึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดย สมช.จะเป็นผู้ประสานอย่างต่อเนื่อง

"ภราดร" อ้างจัดทีมคุยใหม่-ถกไม่ทัน พ.ย.

          ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ผู้อำนวยความสะดวกชาวมาเลเซียได้รายงานความก้าวหน้าในกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่ามีพัฒนาการ หลังจากฝ่ายรัฐบาลมีความประสงค์จะให้มีหลายกลุ่มมาพูดคุย จากเดิมที่มีเฉพาะกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยครั้งต่อไปจะมีกลุ่มพูโลและ บีไอพีพี เข้ามาร่วมพูดคุยที่ประเทศมาเลเซียด้วย ซึ่งการพูดคุยในครั้งหน้าจะเป็นการพูดคุยกับกลุ่มที่มีความเห็นต่างที่หลากหลาย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดสรรที่นั่งในการพูดคุยกันจำนวน 15 ที่นั่ง เนื่องจากกลุ่มพูโลมีอยู่ประมาณ 3 กลุ่มย่อย จึงต้องไปจัดตัวแทนมาให้เหลือเพียง 2 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มบีอาร์เอ็นจะเหลือ 4 ที่นั่ง จึงขอเวลาไปจัดคณะพูดคุยกันใหม่ เพราะรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้การพูดคุยในเดือน พ.ย.อาจไม่ทัน จึงขอขยายเวลาไปประมาณต้นเดือน ธ.ค.

          สำหรับกลุ่มบีไอพีพี จะได้ 1 ที่นั่ง ส่วนที่เหลือจะเป็นนักวิชาการ นักกฎหมาย และเอ็นจีโอ (ผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน) ของฝ่ายขบวนการ ทั้งนี้ กลุ่มบีไอพีพี เป็นกลุ่มเก่า ในแง่ของกองกำลังอาจจะยังไม่ถึงกับแข็งแรงมาก แต่ถือว่าเป็นองค์กรทางความคิด ฝ่ายรัฐบาลจึงเปิดโอกาสให้ ขณะที่กลุ่มพูโลถือเป็นขบวนการที่ก่อกำเนิดมาก่อนทุกกลุ่ม มีเครือข่ายในต่างประเทศ แม้ปัจจุบันกองกำลังจะลดน้อยลง แต่ในการชี้แจงของเครือข่ายต่างประเทศถือว่ามีอิทธิพลอยู่พอสมควร

          ส่วนกองกำลังอาร์เคเค (กลุ่มติดอาวุธที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ในปัจจุบัน) ทางกลุ่มบีอาร์เอ็นจะรอให้มีความชัดเจนเรื่องทิศทางก่อนถึงจะสื่อสารไปยังฝ่ายปฏิบัติการได้ คิดว่าคงจะมาพูดคุยในโอกาสต่อไป

เชื่อหลายกลุ่มร่วมวงส่งผลเหตุรุนแรงลด

          "การที่มีกลุ่มพูโล และกลุ่มบีไอพีพี เข้ามาพูดคุยเพิ่มเติม จะเป็นประโยชน์ต่อการพูดคุย เพราะเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่มีกลุ่มอื่นๆ ด้วย เมื่อกลุ่มเหล่านี้เข้ามาพูดคุย จะทำให้สถานการณ์ความไม่สงบลดตามสัดส่วนลงไป" เลขาธิการ สมช.ระบุ

          ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.ประชา ระบุว่าในอนาคตหากการพูดคุยตกผลึก อาจจะต้องมีการลงนามกัน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกนานหรือไม่ เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า จะใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร แต่ในชั้นนี้รัฐบาลพยายามให้กลุ่มขบวนการลงนามเรื่องเจตนารมณ์ร่วมกันในฝ่ายของเขาเอง เพื่อจะได้ปรากฏความชัดเจนในกลุ่มของเขา อย่างไรก็ตาม เรามีความตั้งใจจะให้การพูดคุยจบให้เร็วในรัฐบาลชุดนี้ แต่ด้วยองค์ประกอบหลายประการจึงต้องพยายามกันต่อไป

บึ้ม "ดาบแชน" ฝีมืออาร์เคเค

          เมื่อซักว่า เรื่องการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความคืบหน้าการตรวจสอบไปถึงไหน เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มปรากฏข้อมูลข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสามารถแยกแยะได้ว่าต้นเหตุของแต่ละเหตุการณ์มาจากกลุ่มไหนในเปอร์เซ็นต์ที่สูงเกินครึ่ง อย่างเหตุการณ์ลอบวางระเบิดสังหาร ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสนั้น เป็นฝีมือของกองกำลังอาร์เคเค

จยย.บอมบ์ระแงะ-ทหาร ฉก.อโณทัยดับ 2 

          ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 6 พ.ย. ร.ต.ท.ชยุต แก้วนุ้ย ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหัวมุมรั้วที่ว่าการอำเภอระแงะ ใกล้กับบ้านพักข้าราชการ ซึ่งกำลังจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาถูก ตั้งอยู่ริมถนน ท้องที่หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง

          ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 8 รายมีทั้งทหารและประชาชน จึงรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลระแงะ นอกจากนั้นยังพบชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และเศษซากของวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ถังแก๊ส น้ำหนัก 10-15 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือกระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

          ขณะเดียวกันยังมีรถกระบะของทหาร ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บต 4966 ปัตตานี และรถกระบะของชาวบ้านถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย จอดเสียหลักอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุด้วย

          จากการตรวจสอบผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 8 ราย ภายหลังเสียชีวิต 2 ราย คือ ส.ต.ประพันธ์ ชมโคกกรวด อายุ 30 ปี สังกัดชุดสุนัขทหาร หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย (เป็นหน่วยทำลายวัตถุระเบิดของกองทัพบก) ถูกสะเก็ดระเบิดจนขาขาด และ ส.ท.ปริญญา ปราบวิชิต อายุ 32 ปี สังกัดเดียวกัน นอกจากนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย ประกอบด้วย 

          1) อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วินัย เหมเดโช อายุ 58 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4509 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 (ร้อย ทพ.4509 ฉก.ทพ.45) ขาขาด
          2) จ.ส.อ.อำนวย ศรบุญชู อายุ 50 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย
          3) จ.ส.อ.สุชาติ เวียงจันทร์ อายุ 50 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย
          4) ส.อ.ทรงไทย นาจรูญ อายุ 25 ปี สังกัด ฉก.ทพ.45
          5) พลทหารดนุพล ลิ่มอรุณ อายุ 22 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย
          6) นายมะอุเซ็ง บาแย ประชาชนที่กำลังเดินชมงานจำหน่ายสินค้าราคาถูก

          สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ประกอบระเบิดแสวงเครื่องไว้ในถังแก๊สขนาดเล็กผ่าครึ่ง น้ำหนัก 10-15 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ซุกไว้ในช่องลับสำหรับใส่หมวกกันน็อคใต้เบาะรถ ไปจอดทิ้งไว้ตรงหัวมุมรั้วที่ว่าการอำเภอระแงะ ซึ่งฝั่งตรงข้ามมีการจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาถูก เมื่อ จ.ส.อ.อำนวย หัวหน้าชุดสุนัขทหารดมกลิ่นของหน่วยเฉพาะกิจอโณทัยและพวก นำสุนัขลงจากรถกระบะเพื่อเคลียร์พื้นที่จัดงานและสถานที่ราชการโดยรอบ จังหวะที่สุนัขเข้าไปดมกลิ่นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายติดตั้งระเบิดไว้ภายในนั้น (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงได้ใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดทันที ทำให้สุนัขสงครามตายคาที่ ส.ต.ประพันธ์ ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เช่นเดียวกับ ส.ท.ปริญญา ส่วน จ.ส.อ.อำนวย และพวก รวมถึงทหารพรานที่กำลังเดินตรวจสอบความเรียบร้อยภายในงานได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ

          หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก เข้าควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย 2 คน เป็นชายอายุ 22 ปีและ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ไปซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งทำให้กำลังพลของทหารสูญเสียไปอีก 2 นาย