"จาตุรนต์" ชี้ปฏิรูปการศึกษายกระดับคุณภาพได้ อยู่ที่นำนวัตกรรม เร่งทำระบบทดสอบกลาง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเสวนาการนำนโยบายกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ"การรวมพลังยกระดับคุณภาพการศึกษา"ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น ว่า การปฏิบัติการศึกษาต้องเชื่อมโยงทั้งระบบจึงต้องรับฟังและส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่ดีและเป็นประโยชน์ ซึ่งในความหลากหลายไม่ใช่ว่าไม่สนใจกันแต่ให้แลกเปลี่ยนกันและดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาปฏิบัติร่วมกันไม่เช่นนั้นจะเป็นความหลากหลายที่ไร้คุณภาพ
อย่างไรก็ตามการศึกษาหนีไม่พ้นเรื่องการทดสอบ ประเมินผลและวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แต่ที่ผ่านมากว่า 20 ปี ที่ประเทศไทยไม่มีระบบทดสอบกลางทำให้ไม่รู้ว่า ผลการจัดการศึกษาในภาพรวมของประเทศเป็นอย่างไร
ทั้งนี้การปฏิรูปการศึกษาที่จะทำได้ต้องปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน และปรับระบบการทดสอบให้เป็นกลาง เพราะหากยังเหมือนเดิมก็ไม่มีใครสนใจ โดยเฉพาะระบบการคักเลือกเด็กเข้าสู่มหาวิทยาลัยที่จัดสอบเองตามอัธยาศัยทำให้เกิดการเปลี่ยนระบบการจัดการศึกษาของนักเรียน
"ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าเด็กไทยเรียนแค่ ม.5 กลายเป็นการศึกษาพื้นฐาน 11 ปี เพราะตอนอยู่ ม.6 ไม่มีเวลาเรียนต้องวิ่งลอกไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกสัปดาห์ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าห้ามมหาวิยาลัยรับตรงแต่ควรใช้ข้อสอบกลางในการคัดเลือกให้เหมือนกันทุกแห่งเพื่อให้เด็กอยู่ในระบบจนจบมัธยมปลาย"
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่าที่รับทราบข้อมูลและที่ได้เห็นจากการลงพื้นที่พบว่าค่อนข้างชัดเจนในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่นำนวัตกรรมและประสบการณ์ บวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้อย่างหลากหลายและเต็มตัวจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการสอนวิชาภาษาไทย ที่นำเทคนิคการเรียนรู้การสะกดคำและการแจกลูกคำมาใช้ทำให้เด็กกล้าคิด กล้าแสดงออกมากขึ้น แต่ทั้งนี้เรื่องการนำองค์ความรู้มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันยังมีไม่มาก ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำคือการนำองค์ความรู้ที่ดีไปเผยแพร่เพื่อให้สถานศึกษาอื่นๆนำไปเป็นแบบอย่างและประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสมต่อไป รวมถึงการพัฒนาครูต้องหาวิธีพัฒนาที่เข้มข้นต่อเนื่องโดยควรยกเลิกการอบรมที่ใช้เวลาสั้นๆเพราะไม่เกิดประโยชน์ใดเลย
นอกจากนี้ขอฝากให้สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)แนะนำนักเรียนเรื่องการเรียนต่อสายอาชีพในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้อเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีงานทำไม่เช่นนั้นจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กเรียนสามัญเพื่อไปตกงานในอนาคต
