บริจาคเงินให้ ศอ.บต. ช่วยเหยื่อไฟใต้ หักลดหย่อนภาษีได้
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 ตุลาคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการ บริจาคให้กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อช่วยเหลือผู้ได้ รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยดำเนินการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่บริจาคให้กับ ศอ.บต. เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้สามารถนำเงินบริจาคไปคำนวณหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้เท่าจำนวนเงินที่บริจาคแต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
(2) ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้กับ ศอ.บต. เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้สามารถนำจำนวนเงินหรือราคาทรัพย์สินที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 65 ตรี(3) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
(3) การกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีข้างต้น สำหรับการบริจาคให้กับ ศอ.บต. ที่มีการดำเนินการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้กับ ศอ.บต. เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นการส่งเสริมความสามัคคีของคนในชาติให้กลับคืนสู่ความสงบร่มเย็นตามนโยบายของรัฐบาล”
นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวจะเป็นการจูงใจให้บุคคลธรรมดาและภาคเอกชนบริจาคเงินและทรัพย์สินเพื่อให้ ศอ.บต. สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างรวดเร็วขึ้น ในส่วนของผลกระทบต่อรายได้ภาษี คาดว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ทางภาษีเพียงเล็กน้อย”