ไขเบื้องหลัง ป.ป.ช.ไม่ฟัน“อริสมันต์-เมีย”ปมถือหุ้น“ทีวีแดง”
เปิดมติ ป.ป.ช.เบื้องหลังไม่ฟัน“อริสมันต์-เมีย”ปมถือหุ้น“ดี สเตชั่น”2 ล้าน เหตุถูก ศอฉ.สั่งปิด-ยึดอุปกรณ์เผยแพร่ภาพ กลัวตายเผ่นออกนอกประเทศ นึกว่าบริษัทเลิกกิจการแล้ว “ระพิพรรณ”อยู่คนละบ้าน
ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2556 ได้พิจารณาเรื่องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถือครองหุ้น บริษัท ดี สเตชัน จำกัด จำนวน 200,000 หุ้น มูลค่า 2 ล้านบาท แต่นายอริสมันต์และภรรยามิได้แจ้งการครอบครองทรัพย์สินดังกล่าวต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติว่านายอริสมันต์และภรรยาไม่เจตนาในการปกปิดการถือครองหุ้นดังกล่าวแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ:มติป.ป.ช.ไม่ฟัน“อริสมันต์-เมีย”ปมไม่แจ้งถือหุ้นทีวีคนเสื้อแดง 2 ล้าน)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม2556 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เผยแพร่ข่าวการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 5 กันยายน2556 ในกรณีผลการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกรณีพ้นตำแหน่งแล้ว 1 ปี ว่า
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณากรณีนายอริสมันต์ ไม่แสดงรายการเงินลงทุนที่เป็นหุ้น บริษัท ดีสเตชั่น จำกัด จำนวน 200,000 หุ้น แล้วเห็นว่านายอริสมันต์สำคัญผิดในข้อเท็จจริง หาได้มีเจตนาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินแต่อย่างใด
กล่าวคือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มีคำสั่งให้ปิดและยึดอุปกรณ์เผยแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น จำกัด
นายอริสมันต์เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงได้หลบหนีออกจากประเทศไทย
ตามสภาวการณ์เช่นนี้เชื่อว่านายอริสมันต์ คำนึงถึงเพียงเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยเช่นวิญญูชนทั่วไป คงไม่มีโอกาสคิดปกปิดรายการเงินลงทุนดังกล่าว
และในขณะเกิดเหตุการณ์ฯก็ทำให้เข้าใจได้ว่าบริษัทฯกิจการไปแล้ว เมื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย จึงทราบในภายหลังว่าบริษัทฯยังไม่ได้ปิดกิจการ ซึ่งในปี 2553 เมื่อเฉลี่ยทุนจดทะเบียนรวมของบริษัทฯกับทรัพย์สินรวมแล้ว นายอริสมันต์จะถือครองหุ้นคิดเป็นมูลค่า 1,230,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินของนายอริสมันต์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 21 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของทรัพย์สินทั้งหมด
จึงไม่มีเหตุที่นายอริสมันต์ต้องปกปิดหรือจงใจไม่แสดงรายการเงินลงทุน (หุ้น) ดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ยังได้วินิจฉัยกรณีนางระพิพรรรณ พงศ์เรืองรอง คู่สมรสนายอริสมันต์ มิได้จงใจปกปิดการถือครองหุ้นบริษัท ดีสเตชั่น จำกัด ของนายอริสมันต์ สามีว่า เนื่องจากมิทราบว่านายอริสมันต์ถือครองหุ้นบริษัทดังกล่าว เพราะมิได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน
ส่วนกรณีที่มิได้แสดงรายการหนี้สิน ตามสัญญาการปรับโครงสร้างหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยนั้น เนื่องจากได้มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นก่อนที่นางระพิพรรณจะเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่มีเหตุที่จะต้องแสดงรายการหนี้ดังกล่าวไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบแต่อย่างใด
จึงถือว่ามิได้เป็นการจงใจปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ด้วยความข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรจะต้องแจ้งให้ทราบ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 263 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2 ) พ.ศ.2554