นักวิชาการเผยเยาวชนไทยติดพนันออนไลน์หนัก ทำทุกทางเพื่อหาเงินใช้หนี้
เปิดข้อมูลธุรกิจพนันออนไลน์รุ่งเรืองโตร้อยละ 20 ต่อปี วงเงินสะพัดทั่วโลกกว่าสามหมื่นล้าน นักวิชาการเผยเยาวชนไทยติดพนันออนไลน์หนัก ทำทุกทางหาเงินใช้หนี้ ทั้งปล้นชิงทรัพย์-ขายบริการ-ค้ายาเสพติด
องค์การอนามัยโลกกำหนดให้พฤติกรรมติดการพนันเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง เรียกว่า Pathological gambling หรือ โรคติดพนัน อาการคือ แม้ผู้เล่นการพนันจะมีความทุกข์จากการเล่นพนัน แต่ก็หยุดไม่ได้ ยังคงต้องเล่นต่อไป
มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ ร่วมกับ เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน สมาคมครอบครัวศึกษาแห่งประเทศไทย ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน จัดเวทีนโยบายสาธารณะเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน 2556 “ความท้าทายในการจัดการสำหรับบริบทของสังคมไทย” โดยมีการจัดเวทีระดมสมองเพื่อนำเสนอปัญหาและหาทางออกให้การแก้ปัญหาการพนันในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามในเวทีนี้ได้มีการหยิบยกปัญหาของการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนันออนไลน์เข้ามาหารือเป็นประเด็นหลักด้วย
นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสดศรี- สฤษดิ์วงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันการพนันออนไลน์เป็นที่นิยมสำหรับเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการพนันออนไลน์เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปีและรายได้ของธุรกิจนี้ทั่วโลก มีการประมาณการณ์ไว้อยู่ที่ 25,000-31,750 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับประเทศไทยแล้วการพนันออนไลน์จัดอยู่ในประเภทการพนันที่ผิดกฎหมาย โดยรูปแบบการพนันออนไลน์ในปัจจุบันที่ได้รับความนิยมได้แก่ การพนันฟุตบอลออนไลน์ การพนันคาสิโนออนไลน์ และการพนันม้าแข่ง ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้การพนันประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มาจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว และสะดวก ผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จึงทำให้ยากต่อการติดตามกำกับและควบคุม
โดยกลุ่มผู้เล่นการพนันออนไลน์สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มนักศึกษาในสถาบันต่างๆ กลุ่มเจ้าของกิจการขนาดเล็กและขนาดกลาง และกลุ่มที่เล่นเป็นครั้งคราว โดยช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ยังถือเป็นช่องทางหลักในการเล่นการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายในประเทศไทย นอกจากนี้ยังใช้เว็บไซต์และเฟสบุ๊คกลายเป็นสื่อใหม่ที่นักศึกษาใช้เพื่อเป็นแหล่งในการศึกษาข้อมูลที่ใช้เปิดรับข่าวสารเรื่องการพนันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัน ได้ระบุสถิติของการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเยาวชนที่ติดพนันทั้งออนไลน์และไม่ออนไลน์ ซึ่งร้อยละ 61 จะปล้นชิงทรัพย์หรือล่อลวงเงินจากคนใกล้ชิด ร้อยละ 12 ทำร้ายร่างกายคนใกล้ชิด ร้อยละ 9 ขายทรัพย์สินใช้หนี้พนัน ร้อยละ 7 ขายบริการทางเพศ ร้อยละ 6 พยายามฆ่าตัวตาย และร้อยละ 5 ค้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องร่วมกันหามาตรการในการป้องกันให้เด็กและเยาวชนของเราห่างไกลจากการพนันออนไลน์ให้ได้
ด้าน น.ส.ศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้ศึกษาผลกระทบของการพนันออนไลน์ใน 9 ประเทศของต่างประเทศ พบว่ามีปัญหาที่คล้ายคลึงกันคือแนวทางในการควบคุมกำกับดูแลการพนันออนไลน์ หากแต่บางประเทศก็ได้มีการออกกฎหมายที่เข้มงวด อาทิ ประเทศฝรั่งเศสที่อนุญาตให้มีการเปิดบ่อนการพนันออนไลน์ได้ หากแต่เจ้าของกิจการและเครื่องส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตจะต้องตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น และจะต้องมีกฎหมายควบคุมเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปเล่นการพนันออนไลน์ได้
นอกจากนี้แล้วในหลายประเทศยังได้มีการออกกฎหมายควบคุมการพนันออนไลน์ที่ชัดเจน และมีการแยกประเภทว่าแบบใดเรียกว่าการพนันออนไลน์ และแบบใดที่ถูกหรือผิดกฎหมาย อีกทั้งในหลายประเทศยังมีการตั้งคณะกรรมการหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการพนันออนไลน์ที่ชัดเจน รวมถึงมีการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บพนันและการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายและจัดเรตติ้งเนื้อหาและระบบกรองข้อมูลผิดกฎหมายบนอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ และแทบเล็ต และมีการห้ามและควบคุมการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ โดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งในประเทศไทยควรจะดำเนินการในลักษณะนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนที่เข้าถึงการพนันออนไลน์เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น
ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย กล่าวต่อว่า สำหรับในต่างประเทศยังมีการควบคุมการพนันออนไลน์ที่ชัดเจนโดยมีความร่วมมือกับหลายฝ่าย อาทิ การร่วมมือกับธนาคาร ธุรกิจบริการการเงิน ออกมาตรการควบคุมการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต อีมันนี่ บัตรเติมเงินโทรศัพท์ต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้เล่นพนันออนไลน์ พร้อมทั้งเฝ้าระวังและตรวจสอบธุรกรรมการเงินที่น่าสงสัย นอกจากนี้แล้วยังจัดตั้งกองทุนเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ และเผยแพร่โทษภัย ผลกระทบด้านลบ ตัวเลขสถิติ ปัญหาจากการพนันออนไลน์ รวมถึงฐานความผิดและบทลงโทษ จากการเล่นพนันและเปิดเว็บไซต์พนันผิดกฎหมาย และความมีกิจกรรมสร้างความตระหนักในการดูแลเยาวชนไม่ให้เข้าถึงการพนันออนไลน์
รวมทั้งควรมีการควบคุมการออกใบอนุญาตสำหรับกิจการการพนันที่ถูกกฎหมาย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และจะต้องมีแผนธุรกิจที่แสดงให้เห็นว่ามีการป้องกันเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นธุรกิจการพนันที่รับผิดชอบต่อสังคม ที่สำคัญจะต้องมีมาตรการสุ่มตรวจมาตรฐานความปลอดภัยการปฏิบัติตามเงื่อนไข การถอดถอนใบอนุญาต รวมถึงมีระบบตรวจสอบผู้เล่น และอนุญาตให้หน่วยงานที่ดูแลสามารถเข้าดูฐานอายุผู้เล่นได้ตลอดเวลา และต้องมีการหน่วงสัญญาณการใช้งาน และการเพิ่มอัตราค่าบริการรับส่งการพนัน รวมถึงควบคุมระบบสินเชื่อการเล่นพนัน จำกัดวงเงินการเล่นพนัน และเผยแพร่บัญชีรายชื่อผู้เล่นพนันกลุ่มเสี่ยงและจัดเก็บภาษีเพื่อจัดตั้งกองทุนป้องกันการเล่นพนันเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
นอกจากนี้ในเวทีระดมความเห็นยังมีข้อเสนอสำหรับการป้องกันการพนันออนไลน์สำหรับเด็กและเยาวชน โดยเสนอให้มีการพัฒนาและแนวทางปฏิบัติการใช้มือถือสำหรับเด็กและเยาวชน รวมถึงให้มีการจัดเรตติ้งเนื้อหาและเว็บไซต์ และติดตั้งระบบกรองเนื้อหาเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนเข้าสู่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงให้มีการลงทะเบียนการเปิดใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้อินเตอร์เน็ตและเกมส์ออนไลน์เพื่อควบคุมและป้องกันเด็กและเยาวชนสู่วงจรการพนัน พร้อมทั้งออกกฎระเบียบร่วมกับสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการบัตรเงินสด อิเล็กทรอนิกส์ ในการห้ามการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ในการพนันออนไลน์ และกำหนดให้การใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีการลงทะเบียนเพื่อกำหนดอายุของผู้ใช้ได้ อีกทั้งควรมีการปรับปรุงออกระเบียบนโยบายเรื่องการพนันให้ชัดเจน รวมทั้งควรมีการวางมาตรการดูแลการพนันออนไลน์ร่วมกันระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆ