'หม่อมอุ๋ย'แฉโครการจำนำข้าวเจ๊ง4แสนล. เอกชนจี้รัฐบาลสกัดทุจริต
“หม่อมอุ๋ย"ชี้โครงการจำนำข้าวมีแต่ผลเสียเงินตกถึงมือเกษตรกรแค่ 8 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐต้องแบกขาดทุนกว่า 4 แสนล้านบาท ทำฐานะการคลังแย่ ด้านประธานฯเครือข่ายต่อต้านคอร์รับชั่นจี้รัฐบาลเร่งสกัดจุดรั่วไหลก่อนไม่มีงบเหลือไปพัฒนาประเทศ เตรียมแฉข้อมูลการทุจริตในกระบวนการรับจำนำข้าวทั้งหมดในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาในงาน จรรยาบรรณดีเด่นหอการค้าไทยปี 2556 ว่า นโยบายโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ไม่ได้สร้างการกระจายรายได้ให้กับประชาชนและเกษตรกร แต่กลับเป็นผลเสียมากกว่า เพราะกระทบฐานะการคลังของประเทศ ไม่ยั่งยืน เนื่องจากสร้างผลขาดทุนถึง 205,000 ล้านบาทต่อปี หรือรวมเป็น 410,000 ล้านบาทใน 2 ฤดูกาลรับจำนำข้าว ขณะที่เกษตกรกรมีรายได้เพียง 80,000 ล้านบาท
แนวทางที่จะสร้างการกระจายรายได้อย่างยั่งยืน ต้องเพิ่มฐานรายได้สินค้าเกษตร ด้วยการพัฒนาผลิตภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้แหล่งที่ 2 นอกเหนือจากการเกษตร เช่น พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพิ่มมูลค่าในสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอท็อป ซึ่งเศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคงมากกว่าการส่งออก ซึ่งขณะนี้หลายประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ลดพึ่งพาการส่งออก และเน้นพึ่งพาในประเทศ
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นกล่าวว่า เครือข่ายฯจะจัดสัมมนาใหญ่เรื่องโครงการจำนำข้าวในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 โดยได้ทำการวิเคราะห์นโยบายจำนำข้าวอย่างละเอียดว่าจะมีผลกระทบอะไรบ้างใครได้รับความเสียหาย ใครได้ประโยชน์ มีกระบวนการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไรและมีใครเกี่ยวข้องในการทุจริตบ้างจากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
"ที่ผ่านมาเราได้ชี้ถึงจุดเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตให้รัฐบาลไปแก้ไขแล้วจึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบโครงการจำนำข้าวรอบใหม่ป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในจุดเสี่ยงต่างๆที่ภาคเอกชนได้ให้คำแนะนำๆไว้หากปล่อยให้ทุจริตแบบ 2 รอบที่ผ่านมา จะทำให้ปีนี้ต้องใช้เม็ดเงินที่มากขึ้นในโครงการรับจำนำซึ่งที่ผ่านมามีเงินรั่วไหลไปสู่คนที่ไม่สมควรจะได้รับทำให้ชาวนาและประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งจะยิ่งส่งผลเสียต่อการจัดสรรงบประมาณ เพราะงบประมาณจะหมดไปกับชดเชยการรับจำนำข้าว แทนที่จะนำไปพัฒนาประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว" นายประมนต์ กล่าว
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ยังคงยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้ขาดทุนสูงถึง 4 แสนล้านบาทตามที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการรั่วไหลของเงินที่ให้กับเกษตรกรนั้นตนก็ต้องการหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เพราะตั้งแต่เริ่มโครงการมีการจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยตรงมาตลอด
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ได้มีมติจ่ายเงินชดเชยกับเกษตรกรที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 55/56 ไม่ทันวันที่ 15 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นกลุ่มที่เก็บเกี่ยวในระหว่างวันที่ 16-30 กันยายน 2556 เพื่อให้เกษตรกรขาดทุนน้อยลง โดยจะชดเชยเป็นค่าต้นทุนการผลิต ค่าปุ๋ยให้แก่เกษตรกรในราคาตันละ 2,500 บาท และการอนุมัติเงินให้แก่เกษตรกรที่เข้าโครงการรับจำนำทันแต่ยังไม่ได้รับเงิน อีกทั้งจะหักยอดงบประมาณเงินส่วนต่างที่มีการนำข้าวในโครงการรับจำนำไปบริจาค ช่วยเหลืออุทกภัย ทั้งในและต่างประเทศ การขายข้าวราคาถูกเช่น ข้าวธงฟ้า ข้าวถุงถูกใจ กว่า 7,000 ล้านบาท จากรัฐบาลมาคืนให้กับโครงการรับจำนำ ส่วนจะเป็นเงินจากที่ใดต้องรอการอนุมัติจากสำนักงบประมาณกลางก่อน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใน สัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาต่อไป
ขอขอบคุณข่าวจาก