“นิคม”ระบุ ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านลงมติวาระแรกวันนี้
“นิคม”ระบุถกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านลงมติวาระแรกวันนี้ พร้อมตั้งกมธ.ศึกษา เตรียมขอขยายเวลาอีก 30 วัน ยันประชุมร่วมรัฐสภา 11 ต.ค.ไม่มีมีถกแก้ไขรธน. 2 ฉบับ
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่รัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่า การอภิปรายวันแรกมีส.ว.อภิปรายไปแล้ว 45คน ยังเหลืออีก 27คน ในการอภิปรายวันที่ 2 ยังให้เวลาคนละ 15 นาที เหมือนเดิม วันนี้คาด ว่า จะใช้เวลาในการพิจารณาและลงมติในช่วงค่ำไม่เกิน 3 ทุ่ม หลังจากที่ประชุมลงมติรับหลักการวาระแรกแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 27 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากกรรมาธิการสามัญจำนวน 22 คณะ ๆ ละ 1 คน รวมเป็น 22 คน จากตัวแทนของวิปวุฒิ 3 คน และตัวแทนจากรัฐบาล 2 คน อย่างไรก็ตามในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงินตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 30 วัน ขณะนี้เหลือเวลาส.ว.จะพิจารณาได้เหลือแค่ 14 วัน ดังนั้นคาดว่าจะมีการขยายเวลาออกไปอีก 30 วันส่วนกรณีที่ทางกลุ่ม 40 ส.ว.เตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญว่าร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ก็ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหามีการพิจารณาอย่างรวดเร็ว
นายนิคม ยังให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 2 ฉบับ ว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 11 ต.ค.จะไม่มีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากได้กำหนดวาระการพิจารณา คือเรื่องที่เข้าข่ายรัฐธรรมนูญตามมาตรา 190 คือบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรไทยในการเริ่มใช้ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รัฐบาลแห่งสหภาพเมียนม่าร์ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และบุคคลข้ามพรหมแดนที่จุดผ่านแดนเชียงของ ราชอาณาจักรไทย และห้วยทราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจุดผ่านแดนบ่อเต็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และโมฮาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ เนื่องจากสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย และจะเข้าร่วมพบปะปราศรัยกับสมาชิกรัฐสภาเวลา 14.00 น.ที่ประชุมจึงมีการประชุมร่วมรัฐสภาในเรื่องนี้.
ขอขอบคุณข่าวจาก