สดจาก"ป้อมมหากาฬ"ฟังเสียง"ไพร่"ถึง"คุณชายสุขุมพันธุ์"ปมขับไล่ที่อยู่อาศัย
ฟังเสียงจาก"ไพร่" ชุมชนป้อมมหากาฬ"ถึง "คุณชาย" ผู้ว่ากทม.ฯ สุขุมพันธุ์" วันนี้ชีวิต"คน"มีค่าน้อยกว่าสวนสาธารณะใช่ไหม?
ปัญหาการรื้อถอนขับไล่ที่คนในชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งอยู่แนวกำแพงเมืองโบราณ ฝั่งตรงข้าม วัดราชนัดดา ของ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลานานกว่า 21 ปี
กำลังถูกจับตามองจากสังคมอย่างมาก!!
เมื่อล่าสุดหลังจากที่ นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดการกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา(สนย.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ลงนามในหนังสือแจ้งให้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50 กว่าหลังคาเรือน ย้ายออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 30 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา
โดยนายศักดิ์ชัย ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า เหตุที่ต้องทำหนังสือแจ้งชุมชนดังกล่าว เป็นเพราะกทม.กำลังถูกตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับปัญหานี้ เนื่องจาก กทม.เคยมีการเจรจาให้ชุมชนย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว เมื่อหลายปีที่ผ่านมา พร้อมจ่ายเงินชดเชยให้บ้างส่วนไปแล้ว
“สตง. ได้ทำหนังสือแจ้งเพื่อสอบถามการดำเนินการมายัง กทม.เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา กทม.จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งทำหนังสือให้ออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน เนื่องจากบ้านเรือนประมาณ 28 ครัวเรือน จากทั้งหมดประมาณ 56 หลังคาเรือนนั้น ยินยอมรับเงินและทำการโอนบ้านให้ กทม.ครบ 100%แล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่อาศัยอยู่ปัจจุบันไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ ส่วนอีกประมาณ 28 ลังคาเรือนที่เหลือ เป็นผู้รับเงินไป 75%แต่ยังไม่ได้โอนบ้านให้ กทม. ส่วนปัญหาการหาพื้นที่ใหม่ ให้ผู้ย้ายออกไปอยู่นั้น”
นายศักดิ์ชัย ยังย้ำด้วยว่า หาก กทม.ไม่มีการดำเนินการตามกฎหมาย กทม.อาจจะเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเอง เพราะมีคนร้องเรียนว่าในกรณีดังกล่าวเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาและศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ ดำเนินการรื้อย้ายชุมชนชอบตามกฎหมายแล้ว เพื่อให้ กทม.พัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นสวนสาธารณะ ตามที่ได้ออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535และ กทม.สามารถดำเนินการได้เพียงเฟสเดียวตั้งแต่ปี 2543 จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้
หลังคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ของ นายศักดิ์ชัย ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชน ส่งตรงไปถึงคนในชุมชนป้อมมหากาฬ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา คนในชุมชนป้อมมหากาฬ ได้เรียกประชุมสมาชิกในชุมชนวาระด่วน เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ว่ามีคนในชุมชนจำนวน 28 ครัวเรือน ได้ยอมรับเงินค่ารื้อถอนจากกทม.เรียบร้อยแล้ว
ปรากฏว่าคนในชุมชนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยใครไปรับเงินจากกทม. และทุกคนยังยืนว่าจะไม่ย้ายออกไปจากที่ดินบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด
“ขณะนี้มีข่าวจากกทม.ออกมามาก แต่เรื่องใหญ่ที่สุด ก็คือ การที่นายศักดิ์ชัย ออกมาระบุว่ามีคนในชุมชนจำนวน 28 หลังคาเรือนไปรับเงินค่าชดเชย 25% ที่เหลือค้างอยู่ ซึ่งถือเป็นคนจำนวนไม่น้อยจาก 50 กว่าหลังคาเรือนที่เหลือกันอยู่ พร้อมระบุว่า คนในชุมชนส่วนใหญ่อยากจะย้ายออก แต่เพราะผู้นำชุมชนไม่ยอมให้ย้ายออก"
"ผมพูดตรงๆ เลย ใครจะย้ายออกไปเชิญ ขอให้ช่วยยกมือขึ้นให้ผมดูหน่อย ผมจะไม่ห้ามไม่พูดอะไรเลย จะให้พี่น้องขอเราช่วยขนย้ายสิ่งของให้ด้วย”
นายธวัชชัย วรมหาคุณ ผู้นำชุมชนป้อมมหากาฬ ประกาศลั่นกลางที่ประชุมคนในชุมชนเพื่อพิจารณาวาระด่วนดังกล่าว
แต่ปรากฏไม่มีคนในชุมชนยกมือขึ้นแม้แต่คนเดียว พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครไปรับเงินจากกทม. ด้วย
“ใครที่ยืนยันว่า จะไม่ย้ายออกไปไหน เราจะอยู่ที่บนแผ่นดินของเราต่อไป ขอให้ยกมือขึ้นมา”
นายธวัชชัย ผู้นำชุมชนป้อมมหากาฬ ประกาศลั่นกลางที่ประชุมคนในชุมชนอีกครั้ง
ปรากฏว่า ทุกคนในชุมชนต่างยกมือขึ้นสนับสนุนพร้อมเพรียงกัน
"เราจะสู้กันต่อไป เพราะมีเสียงลือว่ามีใครบางคนในกทม.ที่ต้องการสร้างผลงานเพื่อหวังไปนั่งในตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตบางบอน กำลังหาทางทำอะไรบางอย่าง ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครย้ายชุมชนป้อมมหากาฬได้ แต่เขาจะทำให้ได้"
นายธวัชชัย วรมหาคุณ ผู้นำชุมชนป้อมมหากาฬ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การต่อสู้ปกป้องที่ดินของคนในชุมชนป้อมมหากาฬ กับกทม. เกิดขึ้นมานานกว่า 21 ปีแล้ว และพวกเราอยากจะให้มันสิ้นสุดในยุคนี้ เพื่อที่ลูกหลานของเราจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานกับสภาพแบบนี้ของพวกตนอีก
“เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน กทม.เคยมาติดต่อให้พวกเราย้ายออกไปจากพื้นที่ เขายืนยันกับเราว่า จัดเตรียมที่อยู่ไว้ให้ใหม่แล้ว อยู่แถวๆ มีนบุรี หนองจอก ทำเป็นรูปแบบโครงการหมู่บ้านให้ และยินยอมจ่ายเงินค่ารื้อถอนให้พวกเรา จำนวน 75 % จากเงินทั้งหมด 100 % ช่วงนั้น คนในชุมชนก็ยอมรับโดยดี"
"แต่ปรากฏว่าเมื่อไปดูสภาพโครงการที่กทม.ระบุ กลับไม่มีอะไรดีตามที่ กทม.ระบุไว้ แถมการเข้าอยู่อาศัย จะต้องมีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า และผ่อนรายเดือนให้อีก พวกเราก็ทำตาม เอาเงินที่ได้จากกทม.มาแล้ว ไปผ่อนชำระให้บ้านใหม่กัน แต่ผ่อนและชำระมาหลายปี จนเงินที่ได้มาหมด โครงการที่บอกพวกเราก็ยังไม่มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมเลย มันอยู่ไม่ได้ พวกเราเลยตัดสินใจที่จะอยู่ในชุมชนกันต่อไป และต่อสู้กับ กทม.มาตลอดแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ”
นายธวัชชัย ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ต่อสู้กันมาหลายปี ในสมัยที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม. ชุมชนเคยนำเสนอทางออกเรื่องนี้ โดยการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกับพื้นที่ไปเสนอให้ นายอภิรักษ์พิจารณา แต่ปรากฏว่านายอภิรักษ์ ถูกทักท้วงจากฝ่ายข้าราชการประจำว่าแผนดังกล่าวไม่สามารถทำได้ ชุมชนจะต้องย้ายออกไปจากพื้นที่ เพราะมีการออกกฎหมายเวนคืนที่ดินไปแล้ว ถ้าไปทำอะไรไม่ถูกต้องจะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แผนฯที่จัดทำขึ้นเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวจึงถูกยกเลิกไปโดยปริยาย
“สถานการณ์ของชุมชนในขณะนี้ ถือว่าในช่วงอันตราย เราไม่รู้ว่ากทม.จะส่งคนเข้ามารื้อถอนบ้านพวกเราเมื่อไร ตอนนี้ก็มีการจัดเวรยามป้องกันกันเต็มที่ แต่ถ้ามีการส่งคนเข้ามารื้อถอนจริง พวกเราก็พร้อมที่จะสู้ตายเพื่อปกป้องบ้านของเรา”
อย่างไรก็ตาม คนในชุมชน ก็หวังว่าจะได้รับความเมตตาที่ดีจากกทม. โดยเบื้องต้นเราได้จัดทำข้อเสนอใหม่ ที่จะไปยื่นให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. คนปัจจุบันให้พิจารณา
ไม่ว่าจะเป็นการเสนอตัวเป็นผู้ดูแลสวนสาธารณะและจัดเวรยามให้กับกทม. ตามแผนการนำพื้นที่บริเวณนี้ไปสร้างเป็นสวนสาธารณะของ กทม. และการผ่อนชำระค่าเวนคืนที่ดินให้กับกทม.
“พื้นที่ ที่ดินตรงนี้เป็นบ้านของพวกเรา ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ต่อสู้กันมา เราไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหรือเงินสนับสนุนอะไรจากภาครัฐ เพราะสภาพของพวกเราเหมือนคนที่ถูกทอดทิ้ง แต่เราก็อยู่กันมาได้ มีการรวมตัวจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์นำเงินมาซ่อมแซมรักษาบ้านโบราณซึ่งมีประวัติศาสตร์ของชาติอันยาวนานให้คงอยู่ต่อไปได้ ซึ่งบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ก็เป็นมรดกต่อทอดของ อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ รวมอยู่ด้วย"
"ส่วนเรื่องเงินอีก 25% ที่กทม.ยังค้างจ่ายให้เรา เราขอปฏิเสธไม่ยอมรับ และยืนยันว่า ไม่มีคนในชุมชนมีความคิดที่จะย้ายออกจากแผ่นดินของเราเป็นอันขาด แม้ว่ากทม.อาจจะมองว่าชีวิตของพวกเรามีคุณค่าน้อยกว่าสวนสาธารณะก็ตาม ”
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2556 นี้ ชาวชุมชนป้อมมหากาฬ กับภาคีต่างๆ ในพื้นที่กทม. มีกำหนดการที่จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ที่ศาลาฯ กทม. อย่างเป็นทางการ
และอาจจะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด้วย
นี่คือ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของชุมชนป้อมมหากาฬ ชุมชนเก่าแก่ ที่อาศัยอยู่ริมกำแพงวัง บนเกาะกรุงรัตนโกสินทร์แห่งสุดท้าย ในประเทศไทย
เสียงของ "ไพร่" (ตัวจริง) กลุ่มสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ส่งถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.โดยตรง