ครม.ไฟเขียวเยียวยาครูใต้รายละ 4 ล้าน ย้อนหลังตั้งแต่ปี 47

ครม.อนุมัติเยียวยาให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาชายแดนใต้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่รายละ 4 ล้าน ย้อนหลังตั้งแต่ปี 47 พร้อมทุ่มงบอุดหนุนโรงเรียนเอกชนเพิ่ม สร้างสนามฟุตซอลอีก 2.5 พันล้าน สลดรถเจ้าหน้าที่ สพป.ยะลาเขต 2 พุ่งชนต้นไม้ที่กรงปินังดับ 3 ยังไม่ชัดอุบัติเหตุหรือสร้างสถานการณ์ ขณะที่ยิงรายวันยังเพียบ ฝ่ายความมั่นคงปิดล้อมถี่ยิบ วิสามัญฯผู้ต้องหาอีกรายที่รือเสาะ สงสัยเอี่ยวโจมตีอีโอดี

          ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 1 ต.ค.2556 ได้เห็นชอบสนับสนุนให้มอบสวัสดิการให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2547 โดยงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยากำหนดให้ไม่เกินรายละ 4 ล้านบาท ส่วนผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือบางส่วนแล้ว ก็ให้หักจำนวนเงินเยียวยาที่เคยได้รับออกไปจากยอด 4 ล้านบาท

          นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบผลการประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2556 เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ รวม 12,474 ราย วงเงิน 2,080 ล้านบาท แบ่งเป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือ 4 กลุ่ม คือ ประชาชนทั่วไป, เจ้าหน้าที่รัฐ, ผู้ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ก่อเหตุรุนแรง และผู้ที่ถูกควบคุมตัวหรือคุมขังแต่ปรากฏภายหลังว่ามิได้เป็นผู้กระทำความผิด

          ในการประชุมนัดเดียวกัน ครม.ยังเห็นชอบพัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ วงเงิน 915 ล้านบาท และเห็นชอบ มติ กพต.เกี่ยวกับร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2556-2557 และเห็นชอบให้เพิ่มเงินอุดหนุนรายบุคคลให้โรงเรียนเอกชน จากเดิมได้รับเงินอุดหนุนร้อยละ 70 ให้เพิ่มเป็นร้อยละ 85 รวมทั้งเห็นชอบการก่อสร้างหอพัก อาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม พร้อมเห็นชอบให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เดือนละ 2,500 บาทต่อคน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค 2551 ถึง 30 ก.ย 2555 รวม 8,233,627 บาทด้วย

          โอกาสนี้ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า กระทรวงจะรับหน้าที่ดำเนินการส่งเสริมการเล่นกีฬาฟุตซอลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน และไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นช่วงที่มีการแข่งขัน ทั้งนี้ กพต.มีโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล 41 แห่งในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณ 2,500 ล้านบาทเศษ

รถกระบะพุ่งชนต้นไม้-พนักงาน สพป.ยะลาดับ 3

          ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. เวลา 20.15 น. ร.ต.ท.ตรีเพชร แซ่เลียว พนักงานสอบสวน (สบ1) สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุรถพุ่งชนต้นไม้ มีผู้เสียชีวิตหลายราย ที่บ้านกีเยาะ หมู่ 5 ต.กรงปินัง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) เยื้องกับที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรงปินัง

          เมื่อไปถึง พบซากรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บง 2410 ยะลา ชนอัดก๊อปปี้อยู่กับต้นไม้ใหญ่ริมทาง สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวติดอยู่ในซากรถ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางมณฑิรา เบญสาเล็ม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/1 หมู่ 11 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา นางนารีรัตน์ สะเตาะ อายุ 27 ปี และ นางมารีซัน เจ๊ะมิง อายุ 28 ปี ทั้งหมดเป็นพนักงานราชการและลูกจ้างสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2 (สพป.ยะลาเขต 2) อ.บันนังสตา

          สอบสวนเพื่อนผู้ตายซึ่งเห็นเหตุการณ์เพราะขับรถตามหลัง ทราบว่า ผู้ตายทั้ง 3 รายทำหน้าที่เกี่ยวกับการเงินใน สพป.ยะลาเขต 2 พักอยู่ในเขต อ.เมืองยะลา ก่อนเกิดเหตุได้ช่วยกันปิดงบดุลวันสิ้นปีงบประมาณ 2556 เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับพร้อมกัน โดย นางมณฑิรา เป็นผู้ขับรถกระบะคันที่เกิดเหตุ มีนางนารีรัตน์ และ นางมารีซัน นั่งไปด้วย ระหว่างทางมีรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนขับตามและแซงขึ้นหน้าไป จากนั้นได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้น แล้วรถของนางมณฑิราก็เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ริมถนนอย่างจัง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ทั้งๆ ที่เป็นเขตชุมชน มีแต่ได้ยินเสียงเหมือนรถยางแตก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นอุบัติเหตุ ถูกฆาตกรรม หรือการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

ยิงรายวันยังเพียบ 3 วัน สังเวย 3 ศพ

          สำหรับเหตุรุนแรงในพื้นที่ยังมีเกิดขึ้นประปราย โดยเมื่อเวลา 15.15 น.วันอังคารที่ 1 ต.ค. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายมนูญ ดำแดง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233/3 บ้านตะบิงติงงี หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณสามแยกหน้าสถานีอนามัยบ้านบางลาง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา ขณะนายมนูญขี่รถจักรยานยนต์ไปล่าสัตว์ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร

          วันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. เวลา 17.05 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิง นายอับดุลเลาะ ดาหาลี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/4 หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตบริเวณริมถนนบ้านดางากาแน หมู่ 2 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ โดยมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ข้างๆ ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายอับดุลเลาะ มีอาชีพรับซื้อยางพาราให้กับนายจ้างใน อ.ยี่่งอ จ.นราธิวาส ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงสาย กระทั่งมีผู้พบเป็นศพในช่วงเย็นวันเดียวกัน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน

          กลางดึกวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. เกิดเหตุยิงกันบนถนนระหว่างตำบล ข้างตลาดนัดคอมิส บ้านปากู หมู่ 5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยผู้ถูกยิงเสียชีวิตคือ นายมะสัมมี หะมะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 1 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน ตรวจสอบทราบว่าผู้ตายเพิ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.ทุ่งยางแดง และจะรายงานตัวในวันที่ 1 ต.ค. แต่มาถูกยิงโดยไม่ทราบสาเหตุเสียก่อน

วิสามัญฯผู้ต้องหาคดีมั่นคง-สงสัยเอี่ยวโจมตีอีโอดี

          ด้านผลการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง เวลา 13.30 น.วันอาทิตย์ที่ 29 ก.ย. เจ้าหน้าที่ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบริเวณถังขยะริมถนนสายศรีสาคร-รือเสาะ หน้าบ้านเลขที่ 30/2 บ้านตะโละ หมู่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เจ้าหน้าที่จึงใช้ปืนยิงทำลาย ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

          เวลา 23.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 อาศัยอำนาจตามกฎอัยการเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่บ้านบือเจาะบองอ หมู่ 7 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงหลบซ่อนตัวอยู่ เมื่อไปถึงปรากฏว่าคนที่อยู่ในบ้านใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันนาน 30 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลง พบศพ นายอับดุลเลาะ บือราเฮง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/3 หมู่ 7 บ้านสโลว์บูกิตจือแร ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) จำนวน 4 หมาย และน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 4 นาย เมื่อวันที่ 16 ส.ค. และเหตุโจมตีชุดอีโอดีของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย ที่บ้านบลูกาสะนอ ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส (รอยต่อ อ.รือเสาะ) เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.ที่่ผ่านมาด้วย

          เวลา 07.00 น.วันจันทร์ที่ 30 ก.ย. ตำรวจ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส สนธิกำลังกับทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกบุกเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่บ้านลูโบ๊ะดีแย หมู่ 6 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ และสามารถจับกุม นายอาซือมาน เซ็ง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 6 บ.ลูโบ๊ะดีแย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพยายามฆ่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมยึดของกลางเป็นอาวุธปืนพกขนาด .38 และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อย่างละ 1 กระบอก

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : สภาพรถกระบะของเจ้าหน้าที่ สพป.ยะลาเขต 2 ซึ่งเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ที่ อ.กรงปินัง จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)

ขอบคุณ : ข่าวจากส่วนกลางโดยสำนักข่าวเนชั่น