ประมวลภาพรวม“ปปง.”เปิดเกมไล่บี้อายัดทรัพย์เครือข่ายคืนภาษียกแรก153 ล.
ประมวลภาพรวม "ปปง." เปิดเกมรุกไล่บี้อายัดทรัพย์สินเครือข่ายฉ้อโกงภาษี เบ็ดเสร็จยกแรก 153 ล้าน- “สีหนาท” ลั่น “ผู้ต้องหาจะหนีก็ขอให้หนีตลอดชีวิต” ด้านดีเอสไอ ปัดทำข่าวรั่ว?
คดีฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม ของบริษัทเอกชนกลุ่ม “นายวีรยุทธ แซ่หลก” กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง
เมื่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเกมรุกเดินหน้าไล่บี้ตรวจสอบทรัพย์สินของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างเต็มที่
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น 4 จุด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่คาดว่าได้จากการทุจริตการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ ในรอบปีภาษี 2555-2556 จำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท
สำหรับพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด เข้าตรวจค้นของ ปปง. ได้แก่ 1. ตู้เซฟธนาคารกสิกร 2 ตู้ ภายในห้างเซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งใช้เป็นที่เก็บทรัพย์สิน เช่น ทองคำ หลังใช้เงินจากการขอคืนภาษีผิดกฎหมายไปซื้อมา คอนโดมีเนียม 2 แห่ง ดิเอ็มโพลิโอ เพลส และไบร์ทคอนโด ภายในซอยสุขุมวิท 24 และบ้านทาวน์เฮ้าส์ ซอยมาตานุสรณ์ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ปปง.ยังตรวจสอบพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหารายหนึ่งนำเงินที่ได้จากการทุจริต ไปไถ่ถอนที่ดินพื้นดังกล่าวที่ติดจำนองคืนให้กับบิดา
พ.ต.อ.สีหนาท ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในการเข้าตรวจสอบข้อมูลครั้งนี้ ว่า นายวีรยุทธได้สั่งซื้อทองคำจากบริษัทขายทองแห่งหนึ่งย่านเยาวราชจำนวน 300 ล้านบาท แล้วนำมาฝากไว้ที่ตู้เซฟธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นคอนโดดิเอ็มโพลิโอเพลสราคา 15 ล้านบาท ซึ่งเป็นของนายวีรยุทธ และไบร์ทคอนโดราคา 11 ล้านบาท ของน.ส.สายธาร ทั้งสองแห่งไม่พบผู้ต้องหาอยู่ภายในห้อง และจากการตรวจค้นตู้เซฟทั้ง 2 ตู้ไม่พบทองคำหรือทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด
จากข้อมูลทางธนาคารทราบว่าผู้ต้องหามีการเปิดตู้เซฟไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2556 ก่อนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตามทาง ปปง.ได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารกว่า 5 ล้านบาท หลายสิบบัญชี รวมทั้งคอนโดทั้ง 2 ห้อง มูลค่ากว่า 35 ล้าน นอกจากนี้ยังเตรียมยึดที่ดินอีกกว่า10 แปลง แม้ว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีทาง ปปง.จะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดเพื่อติดตามทรัพย์สินกลับคืนสู่รัฐ
พ.ต.อ.สีหนาท ยังระบุด้วยว่า จากการตรวจห้องพักภายในไบร์ทคอนโด ชั้น 10 ขนาดพื้นที่ 88 ตารางเมตร พบว่าน.ส.สายธาร ยังมีการเข้าอยู่อาศัย พร้อมใช้รถยนต์ยี่ห้อ พอร์ส และเล็คซัค ขับเข้าออกคอนโดเป็นประจำ โดยคอนโดดังกล่าวติดระบบกุญแจนิรภัยทำให้การตรวจค้นไม่สามารถเข้าไปภายในห้องได้ จึงต้องประสานช่างชำนาญการมาทำการเปิดประตู ส่วนห้องพักภายในคอนโดดิเอ็มโพลิโอ เพลส ชั้น 18 ขนาดพื้นที่ 178 ตารางเมตร ของนายวีรยุทธ ตรวจสอบไม่พบการเข้าพักอาศัย ทั้งนี้ในทาง ปปง.จะเซ็นคำสั่งยึดรถหรู ที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆเพิ่มเติม จากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ต่อไป
"ขอให้วางใจว่าทาง ปปง.จะยึดทรัพย์กลับคืนมาได้อย่างแน่นอน ถ้าผู้ต้องหาจะหนีก็ขอให้หนีตลอดชีวิต อย่างคดีฉ้อโกงธนาคารบีบีซีหรือกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด ทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถติดตามทรัพย์สินกลับคืนได้เป็นพันล้านบาท" พ.ต.อ.สีหนาท ระบุกับสื่อมวลชน
ล่าสุดในช่วงเย็น วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ปปง.ได้สรุปทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดีการทุจริตการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ ที่เข้าได้อายัดไว้ตรวจสอบถึงที่มาของทรัพย์สิน ประกอบด้วยเงินในบัญชีธนาคาร จำนวน 102 บัญชี มูลค่าประมาณ 4,500,000 บาท ห้องชุด จำนวน 2 ห้อง มูลค่าประมาณ 25,000,000 บาท รถยนต์ PORCHE CAYENNE TURBO 4.8 V 8 และรถยนต์ LEXUS RX 270 รวมมูลค่าประมาณ 22,000,000 บาท ที่ดิน จำนวน 4 แปลง มูลค่าประมาณ 101,250,000 บาท หลักประกันซื้อขายทองคำ มูลค่า 1,000,000 บาท รวมมูลค่าประมาณ 153,750,000 บาท
ขณะที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ปฏิเสธกรณีข่าวการเข้าค้นเป้าหมาย 4 จุด ในคดีโกงแวตรั่ว ทำให้ ปปง. ไม่สามารถตรวจค้นทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ ว่า ข่าวที่รั่วออกไป ไม่ได้มาจากดีเอสไอแน่นอน และไม่มีผลต่อการทำงานระหว่าง ปปง.และดีเอสไอ
นายธาริต ยังระบุด้วยว่า การตรวจค้น 4 จุดของ ปปง.วันนี้ ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น คอนโดมิเนียม 2 แห่ง และที่ดิน ส่วนทองคำในตู้เซฟธนาคารจากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้ถูกนำออกไปเพราะข่าวการเข้าตรวจค้นรั่ว แต่ทองคำได้ถูกนำออกไปตั้งแต่ช่วงทำทุจริตแล้ว ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องเจ้าหน้าที่ประสานธนาคารห้ามไม่ให้บุคคลใดเปิดตู้เซฟอีก การเข้าค้นครั้งนี้เพราะยังมีข้อสงสัยว่าจะมีทรัพย์สินใดหลงเหลืออยู่บ้าง
“ทั้งนี้ ตามที่มีหนังสือพิมพ์บางฉบับลงข่าวเป้าหมายการเข้าค้นของ ปปง.ล่วงหน้า ไม่เชื่อว่าจะทำให้คนร้ายนำทรัพย์สินเคลื่อนย้ายออกไปได้ทันก่อนเจ้าหน้าที่เข้าค้น ข่าวลงฉบับวันนี้คงไม่มีใครไปเปิดเซฟทัน เพราะธนาคารเปิดตอน 8 โมง ที่ผ่านมาได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวังการทำงานตลอด”
นายธาริต ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งค่าหัว 5 ผู้ต้องหาคดีโกงแวต ว่า ได้รับแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมบางส่วน แต่ยังไม่ชัดเจนจนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่าผู้ต้องหา 3 คนที่การข่าวระบุว่ายังอยู่ในประเทศไทย ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหลบหนีออกไปนอกประเทศ และดีเอสไออยู่ระหว่างพยายามเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายวีรยุทธ แซ่หลก หรือนายธนยุทธ ดลธนโกเศศ อายุ 28 ปี นางสาวสายธาร แซ่หลก อายุ 32 ปี หนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ขณะที่นายสุรเชษฐ์ มหารำลึก อายุ 27 ปี นายประสิทธิ์ อัญญโชติ อายุ 51 ปี และนายกิติศักดิ์ อัญญโชติ อายุ 28 ปี ยังคงกลบด้านอยู่ในประเทศไทย
งานนี้ คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ในท้ายที่สุดสำหรับคดีนี้ ดีเอสไอ กับ ปปง. จะร่วมมือกันติดตามเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 4,000 ล้านบาท ที่ถูกฉ้อโกงไป กลับคืนมาได้เท่าไร
รวมถึงจำนวนผู้ต้องหาที่จะถูกนำตัวมาดำเนินคดีว่าสุดท้ายจะเหลือให้จับกุมอยู่กี่คน?
------
อ้างอิงแหล่งที่มาข้อมูลจาก โพสต์ทูเดย์ , ASTV ผู้จัดการออนไลน์