“ส.ว.สรรหา”จี้ ‘ปู’ ระงับทูลเกล้าฯรธน.
หวั่นระคายเคืองเบื้องยุคลบาท เตือนระวังเจอกล่าวโทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 วอนรอศาลวินิจฉัย พร้อมยกตัวอย่าง ร่างพ.ร.บ.งบปี 57 เลยทูลเกล้าฯ 20วันแล้ว
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แถลงว่า ได้ยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อขอให้ระงับการดำเนินการทูลเกล้าฯ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่มา ส.ว. เนื่องจากวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมากลุ่ม ส.ว.ได้ยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ส่งความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 ว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยล่าสุดทราบว่าประธานวุฒิสภากำลังให้ฝ่ายธุรการตรวจสอบลายมือชื่อส.ว.และจะส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญพร้อมแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบในสัปดาห์นี้ ดังนั้นนายกรัฐมนตรี ควรระงับการดำเนินการทูลเกล้าฯจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการอ้างว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 20 วันนั้นใช้ในกรณีที่ร่างกฎหมายไม่มีการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ แต่หากยื่นให้ศาลตรวจสอบตามมาตรา154 แล้ว ต้องระงับการทูลเกล้าฯ ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย แม้จะพ้นกำหนด 20 วันแล้วก็ตาม ซึ่งล่าสุดกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2557 ก็เลยกำหนดการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วันแล้วเช่นเดียวกัน
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า หากนายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาขึ้นทูลเกล้าฯอย่างเร่งรีบผิดปกติ ตามคำแนะนำของบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาและจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการตรวจสอบร่างกฎหมายที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่าอาจจะมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีนำร่างกฎหมายที่มีปัญหามากมายยังไม่สิ้นข้อสงสัย และอยู่ในระหว่างการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่กลับนำขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างเร่งรีบ เป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง เพราะทำให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจถูกกล่าวโทษว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 157 จึงหวังว่านายกรัฐมนตรี จะระงับนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ในการไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีได้มีเจ้าหน้าที่ลงรับหนังสือที่หมายเลข 1379 โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่านายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการตรวจราชการ โดยในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่จะนำหนังสือดังกล่าวส่งถึงนายกรัฐมนตรี จากนั้นเวลา 10.42 น. ตนได้ไปยื่นหนังสือถึงราชเลขาธิการแล้วเช่นเดียวกันว่าตนได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ระงับการดำเนินการนำร่างรัฐธรรมนูญทูลเกล้าฯ ถวายไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154(2)
ด้านพล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยถึงได้เร่งรีบให้นายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขึ้นทูลเกล้าฯ อย่างเร่งรีบ ไม่ทราบว่าเป็นการทำเพื่อรักษาประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือต้องการสนองความต้องการบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะขณะนี้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะว่า ร่างฉบับนี้มีหลายอย่างที่ไม่เรียบร้อยค่อนข้างมาก อาทิ การแปรญัตติ การกดบัตรแทนกัน และที่สำคัญร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่ามีความสำคัญและมีศักดิ์สูงกว่าร่าง พ.ร.บ.จึงไม่สมควรที่จะผ่านออกไป โดยไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงความถูกต้องก่อน
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การตัดสินว่าสิ่งใดถูกหรือผิดถือเป็นอำนาจของกระบวนรการยุติธรรม ซึ่งเรามั่นใจว่าการจะตัดสินการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ตามมาตรา154 ผู้ที่ต้องชี้ คือศาลรัฐธรรมนูญ และที่ผ่านมาถือเป็นประเพณีปฏิบัติว่า หากเรื่องใดยังไม่ได้ข้อยุติหรือยังมีความสงสัย ต้องยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด และขณะนี้มีผู้ยื่นเรื่องแล้ว และยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ จะเป็นการระคายเคืองหรือไม่ และอยากเตือนไม่ให้นายกรัฐมนตรีนำเรื่องนี้ขึ้นไป เพื่อให้เป็นพระราชภาระ ซึ่งอาจจะมีผู้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรี กระทำการเข้าข่ายล้มล้างการปกครองขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68
ขอขอบคุณข่าวจาก