ปปง.อายัด 28 ล้านสงสัยโยงไฟใต้ กอ.รมน.ชี้สามจังหวัดไม่พร้อมปกครองพิเศษ
ปปง.ลุยแก๊งน้ำมันเถื่อน พร้อมผู้กระทำผิดอาญาฐานอื่นที่เข้าข่ายกฎหมายฟอกเงิน อายัดทรัพย์แล้ว 28 ล้าน เร่งสอบโยงไฟใต้ ด้าน กอ.รมน.เผยผลศึกษาข้อเรียกร้องบีอาร์เอ็นเบื้องต้น สามจังหวัดชายแดนยังไม่พร้อมปกครองพิเศษ ใต้เดือดยิงครูอัตราจ้างดับที่ศรีสาคร ทหารปะทะแก๊งขโมยรถคาดนำไปทำคาร์บอมบ์
ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.2556 ว่า สำนักงาน ปปง.ในฐานะที่รับผิดชอบการดำเนินโครงการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 27 หน่วยงานเพื่อสนับสนุนข้อมูลด้านการข่าว การสืบสวน การติดตาม ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เครือข่ายยาเสพติด และผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมถึงการกระทำความผิดมูลฐานอื่นตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2552
ทั้งนี้ ในการปฏิบัติการร่วมเพื่อปิดล้อมตรวจค้นบุคคล สถานที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการตรวจค้นจับกุมเครือข่ายค้าน้ำมันเถื่อนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อเหตุรุนแรงนั้น สรุปว่าได้มีการตรวจค้นจับกุมจำนวน 15 ราย พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าดำเนินการตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีศุลกากร ยาเสพติด ลักทรัพย์ และรับของโจร จำนวน 13 ราย โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดตั้งแต่เดือน ต.ค.2555 ถึง ก.ค.2556 รวม 28,490,882.41 บาท
ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด ตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ.2556 ผ่านทางเว็บไซด์สำนักงาน ปปง. จนถึงขณะนี้ได้ประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด ตามมาตรา 4 หรือ ยูเอ็น ลิสต์ (บุคคลที่องค์การสหประชาชาติประกาศว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย) จำนวน 287 ราย และรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 5 หรือ ไทยแลนด์ ลิสต์ (บุคคลสัญชาติไทยที่ ปปง.ไทยประกาศว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย) จำนวน 16 ราย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
กอ.รมน.ชี้สามจังหวัดไม่พร้อมปกครองพิเศษ
วันเดียวกัน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่ขบวนการบีอาร์เอ็น กลุ่ม นายฮัสซัน ตอยิบ ซึ่งร่วมกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับรัฐบาลไทย ได้ส่งรายละเอียดอธิบายข้อเรียกร้อง 5 ข้อ เป็นเอกสารความยาว 38 หน้ามายังรัฐบาลไทย โดยในข้อ 4 เรียกร้องให้ตั้งเขตปกครองพิเศษที่ชายแดนใต้เหมือนกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ศึกษารายละเอียดข้อเรียกร้องของบีอาร์เอ็นในเรื่องนี้
"ผบ.ทบ.กำชับให้พิจารณาทุกแง่มุม ซึ่ง กอ.รมน.ได้พิจารณาถึงความพร้อมของประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพิจารณา 2 ด้าน ได้แก่ด้านรัฐศาสตร์ และด้านรัฐประศาสนศาสตร์ จะเห็นได้ว่า กทม.มีประชากรที่รัฐสามารถเก็บภาษีได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และมีความพร้อมในการดูแลตัวเอง กทม.จึงมีความชอบธรรมในการเป็นเขตปกครองพิเศษ แต่ในกรณีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชากรจำนวน 2 ล้านคน คำถามคือมีความพร้อมในเรื่องนี้หรือไม่ ทั้งในเรื่องความพร้อมในการจัดการตนเองโดยอาศัยรายได้ในพื้นที่ และความพร้อมด้านอื่นๆ ซึ่งข้อมูลการพิจารณาของ กอ.รมน.จะนำเสนอต่อที่ประชุม ศปก.กปต. (ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้) ต่อไป"
พ.อ.บรรพต กล่าวด้วยว่า การพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นกลุ่มนายฮัสซันนั้น ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการหาข้อสรุปเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการร่วมกัน จากนั้นจะเป็นโครงการนำร่องเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ รวมถึงการยอมรับของประชาชน ก่อนจะมีการประกาศเจตนาร่วมกัน แล้วกำหนดเป็นแบบแผนที่เป็นรูปธรรมต่อไป
ยิงครูอัตราจ้างดับที่ศรีสาคร
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.2556 เวลาประมาณ 18.00 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายอีรูฟัน บิลอาลี อายุ 33 ปี ครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านซากอ ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส อยู่บ้านเลขที่ 33 บ้านพงยือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กระสุนถูกบริเวณแก้มซ้ายและหน้าอกเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ นายอีรูฟันกำลังขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์แบบสี่ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ษฉ 9579 กรุงเทพมหานคร อยู่บนถนนสายชนบทท้องที่บ้านตามุง หมู่ 2 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ปะทะเดือดแก๊งขโมยรถ-คาดนำไปทำคาร์บอมบ์
เวลา 08.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.ศิริพงษ์ ทองยัง พนักงานสอบสวน สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ทหารยิงปะทะคนร้ายได้รับบาดเจ็บที่บ้านลูโบะกาเยาะ หมู่ 2 ต.กาลอ อ.รามัน จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บนทางหลวงชนบทสายบ้านกาลอ-บาโงปะแต แยกจากทางหลวงสายโกตาบารู-ท่าเรือไปประมาณ 4 กิโลเมตร มีรถกระบะแบบแค็บ สีบรอนซ์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นไฮแลนเดอร์ หมายเลขทะเบียน ตศ 5444 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนสะพาน ประตูซ้ายเปิดค้างไว้ ด้านหน้ามีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กมต 253 ยะลา จอดพิงขอบสะพานอยู่ มีถุงข้าวแกงตกใกล้ๆ ห่างจากรถไปทางด้านหลังประมาณ 10 เมตรพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย สีดำ รองเท้าแตะ 2 ข้าง มีเลือดเปรอะอยู่บนพื้นและพงหญ้าข้างทาง ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. เอ็ม 16 และอาก้า ตกกระจัดกระจาย รวบรวมได้นับสิบปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.ประจวบ ปานจันทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการของทหาร กองร้อยทหารราบที่ 15232 (ร้อย ร.15232) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของรถกระบะคันที่จอดเสียหลักอยู่บนสเพานซึ่งถูกคนร้ายขโมยมาจากตลาดบ้านต้นไทร ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อตอนสายของวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเห็นบุคคลต้องสงสัยจอดรถคันดังกล่าวไว้กลางสะพาน และลงมายืนคุยกับผู้ต้องสงสัย 2 ที่ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันมาจอดใกล้ๆ เจ้าหน้าที่จึงขับรถเลยขึ้นไปบนเนินเขาแล้วจอดรถ จากนั้นได้ร้องตะโกนให้กลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว รวมทั้งคนในรถด้วยประมาณ 7-8 คนอยู่ในความสงบ แต่จังหวะนั้นกลับถูกคนที่อยู่ในรถกระบะใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น กลุ่มผู้ต้องสงสัยเห็นจวนตัวจึงวิ่งหลบหนีลงไปในหุบเขาข้างทางอย่างไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่ทหารติดตามไปแล้วเกิดปะทะกันอีกระลอกอยู่ครู่ เจ้าหน้าที่จึงติดตามไล่ล่าและมีการยิงปะทะกันอีกหลายระลอก พบรอยเลือดกระจายอยู่ริมลำธาร คาดว่าน่าจะมีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 2 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า บุคคลกลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบกลุ่มของ นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ เปเล่ดำ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.รามัน และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้โจรกรรมรถกระบะมาจากท้องที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เพื่อนำไปประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ โดยนัดแนะมาพบกันและส่งอาหารที่สะพานจุดเกิดเหตุ
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องสงสัยยังได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุ 1 คัน ตรวจสอบพบว่าเป็นของ นายดอรอแม อิแย อยู่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 4 ต.บาลอ อ.รามัน ขณะนี้กำลังติดตามตัวมาสอบปากคำต่อไป
เผารถแบ็คโฮ-ยิงโชเฟอร์แท็กซี่ปางตาย
วันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย.เวลา 01.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงเผารถแบ็คโฮ ซึ่งจอดไว้บริเวณซอยดือโล๊ะ บ้านกาสัง หมู่ 3 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้รถได้รับความเสียหายบริเวณเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถแบ็คโฮเป็นของ นายสาหะ จิตอสอ อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เบื้องต้นยังไม่ทราบชนวนเหตุของการเผา
เวลา 20.30 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายหามาดะห์ วาเดร์ อายุ 29 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 493/2 หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านน้ำชาในหมู่บ้านบลูกาฮูลู หมู่ 4 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะที่ นายหามาดะห์ แวะจอดรถแท็กซี่สายศรีสาคร-รือเสาะ-ยะลา ของตนเองเพื่อแวะดื่มน้ำชาหลังเสร็จงาน ทั้งนี้ กระสุนยังพลาดไปดู นายอาซัน เจ๊ะลงลูซง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ ซึ่งกำลังจอดรถจักรยานยนต์เพื่อเข้าไปดื่มน้ำชาภายในร้านด้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
รัวกระสุนดับผู้รับเหมา-สองสามีภรรยาสังเวยอีกคู่
วันพุธที่ 18 ก.ย.เวลา 17.40 น. พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มรถยนต์ของชาวบ้าน บนถนนสายตันหยงมัส-ป่าไผ่ ช่วงหน้ากุโบร์บ้านฮูลูปาเระ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน กข 554 นราธิวาส จอดเสียหลักอยู่ริมถนน ภายในห้องโดยสารพบศพ นายดอรี มามะ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 269/4 หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส สภาพศพฟุบคาพวงมาลัย นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คือ นายซูกิฟลี สะตอปอ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235/1 หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส และเยาวชนอายุ 17 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ตันหยงมัส เช่นกัน พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลระแงะ
สอบสวนทราบว่า นายดอรีเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนอีก 2 คนเป็นลูกน้อง ก่อนเกิดเหตุนายดอรีขับรถไปส่งลูกน้องที่บ้าน ขณะกำลังจอดรถมีคนร้ายขับรถกระบะเข้าประกบ และใช้อาวุธปืนยิงใส่ ทำให้นายดอรีเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกน้องของนายดอรีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. และ 11 มม. ยิง นายมะแอ สมาแอ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 บ้านตันหยงเปาว์ หมู่ 4 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ และนางแมะเตะ สมาแอ ภรรยาวัย 51 ปี ได้รับบาดเจ็บ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองจิก เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาบนถนนสายบ้านบางไร่-บ้านตันหยงเปาว์ หมู่ 6 ต.บางเขา อ.หนองจิก เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังไปเยี่ยมบุตรชายที่โรงเรียนปอเนาะสกุลศาสน์ หมู่ 2 ต.ตุยง อ.หนองจิก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ต เบญจรงค์ เจริญพร รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานรดน้ำศพ พลทหารธาริน ปิสิน ทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 8032 (ร้อย ร.8032) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 14 ก.ย. จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ภายหลังสิ้นใจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถกระบะที่ถูกโจรกรรมจาก อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจนพบที่ อ.รามัน จ.ยะลา และมีการยิงปะทะกับกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ขับรถมา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : ข่าวจากส่วนกลางโดยสำนักข่าวเนชั่น