วุฒิสภา ผ่านกม.ตั้งองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ส่งให้สภาฯ พิจารณาต่อ
วุฒิสภา เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุน 3 บาทต่อหัวประชากร ด้านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคหวังสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบกม.ด้วย
วันที่ 9 กันยายน ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาเสร็จแล้ว จากนั้นสภาฯ จะพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
โดยที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีสาระสำคัญ เพื่อจัดตั้งองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน 15 คนมาจากการสรรหาของผู้แทนองค์กรผู้บริโภค โดยมีหน้าที่ตรวจสอบการกระทำที่ละเลยการคุ้มครองผู้บริโภคและรายงานไปยังหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ พร้อมกับสนับสนุนการใช้สิทธิร้องเรียนหรือการดำเนินคดีของผู้บริโภคและองค์กรผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบการและดำเนินการให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ ยังกำหนดให้รัฐบาลต้องจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปโดยตรงเป็นรายปี จากงบประมาณแผ่นดินประจำปี และต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับการบริหารงานโดยอิสระในค่าใช่จ่ายที่จำเป็น แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 บาทต่อหัวประชากร และในทุก 3 ปี ให้มีการกำหนดอัตราเพิ่มขึ้นในพระราชกฤษฎีกาโดยปรับตามดัชนีค่าครองชีพ
ขณะที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ขอบคุณที่สมาชิกวุฒิสภาที่เห็นชอบ (ร่าง) พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จากที่ร่วมกันผลักดันมากว่า 15 ปี และคาดหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะเห็นชอบกฎหมายฉบับนี้
"ผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้ร่วมกันผลักดันร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. .... นับตั้งแต่มีการกำหนดไว้ในมาตรา 57 ในรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 และมาตรา 61 ในปัจจุบัน เป็นการผลักดันต่อเนื่องแบบมาราธอน มากว่า 15 ปี โดยได้มีประสบการณ์ในการหารายชื่อ 50,000 รายชื่อ และได้รวบรวม 12,208 รายชื่อในการเสนอกฎหมายฉบับนี้ รวมทั้งมีการรณรงค์ และการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย"
ปัจจุบันกฎหมายฉบับนี้ ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา แต่เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบร่างกฎหมายที่มีการแก้ไขของวุฒิสภา ทำให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วมของสองสภาในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ โดยในวันนี้วุฒิสภา เสียงข้างมากจำนวน 115 เสียงจาก 120 เสียง ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต่างมีความหวังว่า กฎหมายฉบับนี้เมื่อถูกส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาจะได้รับการเห็นชอบเช่นเดียวกัน
หากทั้งสองสภาเห็นชอบจะมีการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาจำนวน 9 คน ภายใน 30 วัน และคณะกรรมการสรรหาต้องจัดให้มีคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภายใน 180 วัน
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่ทำให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการคุ้มครองผู้บริโภค และทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นจริง มีสิทธิร้องเรียน ได้รับการการเยียวยาความเสียหาย และรวมทั้งมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค โดยกฎหมายมีหลักการและสาระสำคัญหลายประการ เช่น
1) ความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการจากหน่วยงานรัฐและธุรกิจเอกชน โดยมีการสนับสนุนงบประมาณขององค์การไว้ที่ 3 บาท ต่อหัวประชากร
2) ให้ความเห็นต่อหน่วยงานรัฐในการกำหนดนโยบายหรือมาตรการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค
3) ตรวจสอบการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค
4) เปิดเผยรายชื่อสินค้าหรือบริการที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้
5) เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการสามารถส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินคดีได้
6) สนับสนุนการใช้สิทธิร้องเรียนและการดำเนินคดีของของผู้บริโภคและองค์กรผู้บริโภค