ชง ‘ยิ่งลักษณ์’ ดันเมืองสื่อสร้างสรรค์เป็นวาระแห่งชาติ-จี้บรรจุแผนพัฒนาตำบล
ภาคประชาสังคมชงรบ. ดัน ‘เมืองสื่อสร้างสรรค์’ สื่อดี-พื้นที่ดี-ภูมิดี เป็นวาระแห่งชาติ จี้อปท.บรรจุเป็นแผนพัฒนาตำบล ผจก.สสย. คาดกม.กองทุนสื่อสร้างสรรค์คลอดทันปี 57 หวังหนุนเสริมเมือง 3 ดีได้
วันที่ 28 พ.ค. 56 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับ แผนงานส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน (สสอ.) และแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) จัดงานเมือง 3 ดี วิถีสุข:สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดี
โดยในเวทีเสวนา ‘เมือง 3 ดี วิถีสุขทุกคนร่วมสร้าง (ได้)’ รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผอ.สำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ถ้าคนในสังคมไทยร่วมกันทำ 3 เรื่องดี ได้แก่ 1.สื่อดี จะทำอย่างไรให้สื่อที่อยู่รอบตัวเราดี สร้างสรรค์ และสร้างปัญญา 2.พื้นที่ดี โดยทุกคนสามารถมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกัน และ 3.ภูมิดี เชื่อว่าหากมีสื่อและพื้นที่ดีแล้ว ทุกคนก็จะมีภูมิที่ดี ไม่เฉพาะภูมิคุ้มกันเท่านั้น แต่รวมถึงภูมิปัญญาด้วย จนทำให้เราสามารถเห็นตัวตนของเราและชุมชนได้
ขณะที่เมื่อมองไปยังต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ จะเห็นว่าแม้จะมีพื้นที่เล็กกว่าไทย แต่กลับสามารถจัดสรรพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะประเด็นมิได้อยู่ที่พื้นที่หรืองบประมาณจะมีเท่าไหร่ แต่ขึ้นอยู่กับการรวมตัวเพื่อร่วมคิดร่วมทำ ซึ่งไทยยังขาดตรงจุดนี้ เช่น พื้นที่ว่างใต้ทางด่วนในกรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้ประโยชน์สูงถึง 42% โดยหากไม่มีการพัฒนาอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมได้ ดังนั้นจึงเสนอให้ชุมชนรวมตัวกันพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว และเมื่อสภาพแวดล้อมดีก็จะสามารถสร้างสุขได้
“ศ.นพ.ประเวศ วะสี และนักวิชาการหลายท่านย้ำว่าสิ่งที่ต้องทำนอกเหนือจากการนำคนเป็นตัวตั้งนั้น ปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการให้คนมีชีวิตอยู่ภายใต้สุขภาวะที่ดีก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันด้วย”
ด้านน.ส.เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนใช้เวลาอยู่กับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือนานวันละ 3-7 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นสื่อที่ไม่ดีดังกล่าวก็เข้ามาคุกคามชีวิตของเรามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราต่างต้องการสื่อที่ดีมากขึ้นด้วย ฉะนั้นจำเป็นต้อง “ขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดี” และใช้สื่อที่ดีสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชุมชนต่อไป
ทั้งนี้เกี่ยวกับความพยายามผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์นั้น ขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และคาดว่าภายในส.ค. 56 จะเข้าสู่วาระการพิจารณาในวาระสองได้สำเร็จ ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้คลอดออกมาภายในปี 57 จะสามารถเข้ามาสนับสนุนโครงการเมือง 3 ดีได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“เมือง 3 ดีเกิดขึ้นได้แน่นอน โดยนักปราชญ์หลายคนบอกว่าหากเราจะเปลี่ยนแปลงโลก ไม่ต้องใช้คนเยอะ แค่คนสองคนก็สามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างแรงบันดาลใจ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ” ผู้จัดการสสย. ทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการเสวนา ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมได้ยื่นข้อเสนอเรียกร้องผ่านรศ.จุมพล รอดคำดี ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะ 5 ถึงรัฐบาลชุดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ความว่า ภาคีภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ ภาคราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สถาบันศาสนา ขอสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีพลังในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์สื่อดี ยกย่องเชิดชูครูภูมิปัญญา และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นต้นแบบของการศึกษาเรียนรู้
นอกจากนี้ยังปรารถนาที่จะเห็นความจริงใจและความจริงจังของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเมืองสื่อสร้างสรรค์ โดยประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ มีแผนแม่บทยุทธศาสตร์ นโยบายในการจัดสรรงบประมาณอย่างเป็นรูปธรรม และให้อปท.ขับเคลื่อนเมืองสื่อสร้างสรรค์ในแผนพัฒนาตำบล มีการจัดสรรงบประมาณและมีรูปธรรมการดำเนินงานที่ชัดเจนอีกด้วย.