เช็คชื่อ “อดีตสื่อ” ยอมทิ้ง “ปากกา-วางไมค์” รับหน้าที่ “โทรโข่ง”รัฐบาล
"...นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีอดีตนักข่าว และสื่อมวลชนฝีมือดีหลายคน ที่ทำงานเข้าตานักการเมือง ก่อนจะผันตัวเอง เข้าสู่ถนนเส้นทางสายการเมือง รับหน้าที่ในการเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาล.."

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าอยากรวย อย่ามาทำอาชีพนักข่าว หรือสื่อมวลชน” เพราะอาชีพนี้เงินเดือนไม่สูง แค่มีพอกินพอใช้ ทำงานภายใต้อุดมการณ์อันแรงกล้า ในการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลรัฐบาล เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ประชาชน
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก หากวันหนึ่ง "นักข่าว" หรือ "นักสื่อสารมวลชน" จะยอมตัดสินใจทิ้งปากกา กลิ่นอายแห่งน้ำหมึก หรือไมโครโฟน
เดินตามความฝันครั้งใหม่ มุ่งสู่ศูนย์กลางอำนาจ ทำงานรับใช้พรรคการเมือง เพื่อประชาชน? ตามนโยบายของพรรค ที่ตนชื่นชอบ และให้การสนับสนุน?
ทั้งนี้ นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีอดีตนักข่าว และสื่อมวลชนฝีมือดีหลายคน ที่ทำงานเข้าตานักการเมือง ก่อนจะผันตัวเอง เข้าสู่ถนนเส้นทางการเมือง รับหน้าที่ในการเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาล ในการแจ้งข้อมูลสำคัญต่างๆให้ ประชาชนได้รับทราบในฐานะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รวบรวมข้อมูลประวัติและรายนามสื่อที่ทำหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ที่มีการบันทึกไว้มีนำเสนอดังนี้
1.) วีระกานต์ มุสิกพงศ์ หรือชื่อเดิม วีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.) อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เคยเป็นนักเขียนและนักข่าวของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เริ่มเส้นทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ พ.ศ. 2518 เป็น ส.ส. เขตพญาไท ได้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เมื่อ พ.ศ. 2519
2.) นายดุสิต ศิริวรรณ (8 ตุลาคม 2519 – 20 ตุลาคม 2520) อดีตเคยร่วมกับนายสมัคร สุนทรเวช จัดรายการโทรทัศน์ "เช้าวันนี้ที่ช่อง 5" ทาง ททบ.5 และ รายการ "สมัคร - ดุสิต คิดตามวัน" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี แต่หลังจากนั้นถูกนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา โดยทั้งสองกล่าวหาว่านายสามารถทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพมหานครในรายการโทรทัศน์
3.) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ (2 มีนาคม 2534 - 7 เมษายน 2535) อดีตเคยเป็นพนักงานพิสูจน์อักษร สำนักข่าวไทย อสมท. และเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ก่อนจะมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยาหลายสมัย สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2535 ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และต่อมาได้ลาออกไปสังกัดพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้ง ปี 2544 และย้ายมาลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ จนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ครม.54) ต่อมาในปี 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง ปี 2549 ต่อมาในปี 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
4.) นายวิษณุ เครืองาม (28 เมษายน 2535 – 26 พฤษภาคม 2535) เป็นอาจารย์ และเป็นอดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์มติชน คอลัมน์ “เดินดินกินข้าวแกง” และเป็นคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมน์ “จันทร์สนุกศุกร์สนาน” และเขียนคอลัมน์พิเศษเต็มหน้า 4 ทุกวันอังคาร ตลอดจนจัดรายการโทรทัศน์ “อาทิตย์สโมสร” ทางสถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น 24
จากนั้นจึงได้รักษาการในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีใน ปี 2535 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร และได้เข้าร่วมงานการเมืองอีกครั้งในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2545 โดยรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี (2 สมัย) รับผิดชอบงานเกี่ยวกับกฎหมายของรัฐบาล ต่อมาหลังการรัฐประหารในประเทศไทย 2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเป็นศาสตราภิชานคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5.) นายมนตรี เจนวิทย์กร (16 มิถุนายน 2534 – 23 กันยายน 2535) อดีตเคยเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย(อ.ส.ม.ท.) ในปี 2530 และถูกเลิกจ้างในปี 2531 ในช่วงที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้นจึงได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย
6.) นายจักรภพ เพ็ญแข (9 ธันวาคม 2546 –14 มีนาคม 2548) อดีตเคยเป็นอดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี , ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ , นักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ และเป็นผู้เปลี่ยนแปลงการบริหารงานสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จากเดิมคือ Television of Thailand (Channel 11) ไปสู่การเป็นทีวีแห่งชาติในสภาพที่ 2 ที่เรียกว่า National Broadcasting Services of Thailand
ถัดจากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อมาไม่นาน ก็ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกถึง 2 ครั้ง แต่ต่อมา นายจักรภพ ได้รับแต่งตั้งเป็น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ 2 หลังจากคดียุบพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี และองค์กรต่อต้านเผด็จการเป็นแกนนำจัดเวทีปราศรัยต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ
หลังจากชัยชนะของพรรคพลังประชาชน โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายจักรภพ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชนภาครัฐ ในวันที่ 1 เมษายน ปีเดียวกัน นายจักรภพ เป็นประธานในการเปลี่ยนแปลง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(เอ็นบีที)
7.) นายยงยุทธ มัยลาภ (9 ตุลาคม 2549 – 3 ตุลาคม 2550) อดีตเคยทำงานเป็นอายุรแพทย์ ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ใช้เวลาว่างในการเป็นผู้ประกาศข่าวพิธีกรรายการโทรทัศน์ทางช่อง 5 จนได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขาผู้อ่านข่าวดีเด่นชาย ปี 2537 รางวัลเมขลา (รายการคลินิกวันหยุด) รางวัลผู้ใช้ภาษาไทยทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ดีเด่น ปี 2544
อีกทั้งเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 5 สังกัดพรรคนำไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาได้เข้ามารับตำแหน่ง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และได้ลาออกจาตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2550 โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นที่ครหากรณีการถือครองหุ้น จากนั้นจึงได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลพญาไท 2
8.) รองศาสตราจารย์ ดร.ไชยา ยิ้มวิไล ผู้ประกาศข่าว ททบ.5 และเจ้าของธุรกิจสื่อ เข้ามาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์แทนร้อยเอก นายยงยุทธ มัยลาภ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
9.) นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ ผู้ดำเนินรายการสถานีประชาธิปไตย ทางสถานีประชาธิปไตย (ดี-สเตชัน)นผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าว ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี
10.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (28 กุมภาพันธ์ 2555 – 5 มิถุนายน 2555) อดีตเคยเป็นผู้ดำเนินรายการเล่าข่าว รายการ “ข่าวหน้าสี่” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2551 จากนั้นในปี 2552 เข้าร่วมเป็นพิธีกรของสถานีประชาธิปไตย อีกทั้งยังเป็นผู้ดำเนินรายการ “จับข่าวเล่าความ” ออกอากาศทางช่อง variety news และรายการ “ที่นี่เอ็มวีห้า” ทางช่องเอ็มวีทีวี 5 ซึ่งเป็นรายการเล่าข่าว สนทนาเชิงข่าว และวิเคราะห์ข่าว ถัดมาใน ปี 2554 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
11.) นส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ (5 มิถุนายน 2555 – 2 พฤศจิกายน 2555) อดีตเคยเป็นผู้ประกาศรายการ และผู้ประกาศข่าวเด็ด 7 สีภาคค่ำ, พิธีกรรายเกมโชว์ , บรรยายสารคดีโทรทัศน์ต่างๆ ผลงานที่สร้างชื่อคือรายการ จดหมายเหตุกรุงศรี ซึ่งช่อง 7 สี ออกอากาศในช่วงข่าวภาคค่ำ , ควบคุมการผลิตละคร และควบคุมการผลิตรายการสารคดี 1 ในเมืองไทย กระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน 2555 เข้ารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ครม.ยิ่งลักษณ์ 3)
ล่าสุด คนที่ 12 นายธีรัตถ์ รัตนเสวี (21 พฤษภาคม 2556 – ปัจจุบัน) อดีตเคยเป็นผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ผู้ดำเนินรายการเศรษฐกิจ ผู้ประกาศข่าว และผู้อำนวยการผลิต ของโครงการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี และยุติการออกอากาศเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 ระหว่างนั้นรับงานเป็นอาจารย์พิเศษ ให้กับคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างปี 2539 - 2548
ต่อมา นายธีรัตถ์ เข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักโทรทัศน์ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(ส.ส.ท.), บรรณาธิการบริหาร และผู้ประกาศข่าว ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 - 2552 จึงออกมารับงานพิธีกรในรายการ มันนีเวคอัป ทางสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจและการเงิน (Money Channel) อยู่ตลอดปี 2553
ตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2554 นายธีรัตถ์ย้ายมาทำงานกับสถานีโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียมวอยซ์ทีวี โดยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการข่าว และพิธีกรข่าวในรายการเศรษฐกิจ แคชโฟลว, มาร์เก็ตเพลส, วอยซ์มาร์เก็ต ,อินเทลลิเจนซ์ และรายการวิเคราะห์ข่าวภาคเช้า เวคอัปไทยแลนด์ ต่อมาบริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ดำเนินการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยให้เขารับตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายอินเทอร์เน็ตและรูปแบบชีวิต ซึ่งกำกับดูแลทางออนไลน์และสื่อใหม่และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการผลิต ซึ่งกำกับดูแลภาพรวมของการผลิตรายการต่างๆ รวมทั้งยังเป็นพิธีกรข่าวตามเดิม
ในราวปี 2555 นายธีรัตถ์ เข้าเป็นผู้ดำเนินรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ทางเครือข่ายสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ2556 เขาลาออกจากทุกตำแหน่งในวอยซ์ทีวี ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม เป็นต้นมา
ทั้งหมดนี้ คือรายชื่อนักข่าวและสื่อ ที่ผันตัวเองเข้ามารับงานในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ซึ่งยังไม่นับรวมถึงสื่อ อีกหลายคน ที่เข้ามารับนำหน้าที่เป็นทีมงานอยู่เบื้องหลัง คอยดูแลงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับนักการเมืองหลายคน
และบางคนก็ได้ดิบได้ดี หลังใช้ความสามารถทางสื่อมวลชน สร้างผลงาน ให้เป็นที่ประจักษ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล
อาทิ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตนักข่าวนสพ.แห่งหนึ่ง ปัจจุบัน มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) และเพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็น โฆษกด้านเศรษฐกิจด้วย
ส่วนสื่อรายไหน ที่จะเดินเข้าสู่เส้นทางรายการเมืองรายต่อไป คงต้องคอยจับตาดูกัน?
เราก็คงได้แต่หวังว่า สื่อ เหล่านั้น จะยังไม่ลืมอุดมการณ์แห่งความเป็นสื่อ มุ่งมั่นทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน มากกว่าทำงานรับใช้พรรคการเมืองและนักการเมือง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
โดยไม่ลืมหูลืมตา แบบที่ใครบางคน (กำลัง) เป็นอยู่ในขณะนี้ !!
