ย้อนตำนาน นักการเมือง "ขาใหญ่" ก่อน“ประชา” ใครบ้างถูกออกหมายจับ คดีทุจริต?
ย้อนตำนานนักการเมืองใหญ่ ขาใหญ่ นอกจาก “ประชา มาลีนนท์” แล้ว ใครบ้าง ถูก “ศาล” ออกหมายจับ ฐานหลบเลี่ยงฟังคำพิพากษาคดีทุจริต?
“นายประชา มาลีนนท์” อดีต รมช.มหาดไทย หนึ่งในจำเลยคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม. มูลค่า 6.6 พันล้านบาท
กลายเป็น "นักการเมือง" คนล่าสุด ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ หลังศาล พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงไม่มาฟังคำพิพากษา คดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงฯ ในช่วงเช้าวันที่ 6 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา
ก่อนจะเลื่อนการอ่านคำพิพากษาคดีนี้ ออกไปเป็นวันที่ 10 กันยายน 2556 แทน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในอดีต พบว่า ก่อนหน้าที่จะถึงคิวการถูกออกหมายจับ ของ “นายประชา" มีนักการเมืองชื่อดัง หลายคน ที่ถูกศาลออกหมาย หลังไม่ปรากฎเข้ารับฟังคำพิพากษาในคดีที่ตนเอง ตกอยู่ในฐานะ "จำเลย" เช่นกัน
@@ นายรักเกียรติ สุขธนะ @@
นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยาและมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ศาลมีคำพิพากษาในปี พ.ศ. 2546 ให้จำคุกและยึดทรัพย์
นอกจากนี้ นายรักเกียรติ ยังเป็นรัฐมนตรีคนแรก ที่ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตรับสินบน ตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานทุจริตรับเงินสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยา ทำให้สาธารณสุขจังหวัดต้องจัดซื้อยาในราคาแพงกว่าปกติตั้งแต่ 50 % ถึงกว่า 300% ในพื้นที่ 34 จังหวัดทั่วประเทศ ความเสียหายโดยประมาณ 181.7 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า
“...จำเลยสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรีทางกฎหมายแต่กลับมาทำความผิดคอรัปชั่นเช่นนี้ จึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ให้ลงโทษจำคุก 15 ปี”
ทั้งนี้ โทษที่นายรักเกียรติได้รับ นอกจากการถูกพิพากษาให้ทรัพย์สิน จำนวน 233.88 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากนี้มีโทษจำคุกตามคดีเช็ค อีก 30 เดือน รวมทั้งสิ้นเป็น 17 ปี 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม นายรักเกียรติ ได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา
หลังเวลาผ่านไปไม่นานนัก มีผู้พบเห็นนายรักเกียรติออกกำลังกายในสวนสาธารณะย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงถูกตำรวจจับกุมตัวมารับโทษตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 และเข้ารับโทษที่เรือนจำคลองเปรมในเวลาต่อมา
ก่อนจะได้รับการลดโทษตามลำดับ และออกจากเรือนจำตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา
เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ได้รับฉายาว่า รกฺขิตธมฺโม จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวังพญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านวังชัย ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเคยเป็นสำนักงานเก่าเมื่อสมัยเป็นนักการเมือง มีบทบาทในการเทศนาและให้ข้อเตือนใจนักการเมืองทั้งหลาย
ล่าสุด นายรักเกียรติ ได้โพสต์รูปของตัวเองซึ่งเป็นภาพการลาสิกขาบท เมื่อเวลา 09.00น.ของวันที่ 9 มกราคม ที่วัดศรีนคราราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
@@ พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร@@
พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทยคนที่ 23 พ้นจากตำแหน่งหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่ต้องใช้ชีวิตในคุกหรืออยู่ระหว่างการหลบหนีคดีความอาญา
ทั้งนี้ ในช่วงการประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2549 และการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จบลง คมช. มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้น เพื่อตรวจสอบปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐมนตรีอีกหลายคนในรัฐบาล
และมีหลายคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกอยู่ในฐานะ จำเลย
สำหรับคดีแรกที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด คือ คดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินรัชดาภิเษก โทษจำคุก 2 ปี
แต่พต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษา เนื่องจากเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ทำให้ถูกศาลออกหมายจับ โดยออกหมายจับเมื่อวันที่ 21 ต.ค. พ.ศ. 2551
ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกออกหมายจับอีกหลายคดีในเวลาต่อมา ได้แก่
1. คดีที่อัยการยื่นฟ้อง พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นจำเลยที่1 กับพวกรวม 27 คน กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัท กฤษฎามหานคร ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 และความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ความผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เนื่องจากไม่มารายงานตัวต่อศาลในนัดสอบคำให้การนัดแรก
2.คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) ให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท เป็นการออกหมายจับ พ.ต.ท. ทักษิณ เมื่อ 16 ก.ย. 2551เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีคดี เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาฟังการพิจารณาของศาลนัดแรก
3.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน ) เป็นการออกหมายจับเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 51 เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาพิจารณาคดีนัดแรก
4. คดีทุจริตแปลงสัมปทานมือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เป็นการออกหมายจับเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 51 เพื่อติดตามตัวมาพิจารณาคดีนัดแรก
5. คดีก่อการร้าย ออกหมายจับ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2553 ซึ่งคดีนี้ศาลกำลังจะสืบพยานโจทก์
รวมจำนวนหมายจับทั้งสิ้น 6 คดี
@@ นายวัฒนา อัศวเหม@@
นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงมหาดไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ อดีตหัวหน้าพรรคราษฎร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับตามคำพิพากษาจำคุกในคดีทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
นายวัฒนา อัศวเหม ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551 กรณีสืบเนื่องจากนายวัฒนาใช้อำนาจข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณประโยชน์ และที่เทขยะมูลฝอยซึ่งเป็นที่สงวนหวงห้าม เพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษเพื่อก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก จำเลย 10 ปี และให้ริบพระผงสุพรรณเลี่ยมทองของกลาง พร้อมกับออกหมายจับเพื่อติดตามตัวจำเลย มารับโทษ
ก่อนที่นายวัฒนา จะยื่นขออุทธรณ์คดีดังกล่าว แต่ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณา
ทั้งนี้ หลังจากไปใช้ชีวิตในต่างแดน แบบไร้ร่องรอยอยู่นาน ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา "วัฒนา อัศวเหม" ได้ออกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบางแห่ง ในหนังสือรู้จัก"วัฒนา" รู้จริง "คลองด่าน" ถึงเรื่องราว ความรู้สึก วันพิพากษาคดีคลองด่าน
จากนั้น เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการเสนอของงบประมาณจำนวน 149,000 บาท เพื่อใช้ในการตามตัวนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีทุจริตคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน โดยระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะใช้เป็นค่าดำเนินการในการติดตามตัวนายวัฒนาที่ประเทศกัมพูชา
แบ่งเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ระดับ 9 จำนวน 2 คน รวม 4 วัน วันละ 3,100 บาทต่อคนต่อวัน รวมเป็น 24,800 บาท เป็นค่าที่พัก 3 คืน คืนละ 10,000 รวมเป็น 30,000 บาท ค่าเครื่องบินไปกลับ 48,400 บาท และเป็นค่าเครื่องนำตัวผู้ต้องหากลับ 14,200 บาท ค่าแท็กซี่ 1,600 บาท เพื่อดำเนินการควบคุมตัวนายวัฒนากลับมายังประเทศไทย ซึ่ง กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการติดตามตัวนายวัฒนาคงจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2557 แน่นอน
และล่าสุดในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา “ วัฒนา อัศวเหม” ก็ปรากฏตัวขึ้นที่มาเก๊า โดยมีหลักฐานยืนยันเป็นภาพถ่ายร่วมกัน ระหว่าง “เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ลูกชาย และเพื่อนดาราสาวชื่อดัง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ"
@@ นายสมชาย คุณปลื้ม @@
สมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ ชาวจังหวัดชลบุรี ผู้กว้างขวางในภาคตะวันออก และเคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุขที่มีผลงานมากมายจนทำให้ชลบุรีเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนนักการเมืองจากภาคตะวันออกหลายคน ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี 4 เดือน และยึดทรัพย์ในคดีทุจริตซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว และจำคุก 25 ปี ในคดีจ้างวานฆ่า นายประยูร สิทธิโชติ หรือ กำนันยูร แล้วหลบหนีคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่กองปราบได้จับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม บนรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ฎฎ 9579 กทม. ขณะเดินทางบนถนนมอเตอร์เวย์ขาออก บริเวณด่านเก็บเงินลาดกระบัง จากการตรวจสอบพบว่า นายสมชาย คุณปลื้ม เดินทางเข้ามารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โดยใช้ชื่อปลอมเป็น "นายกิม แซ่ตั้ง"
ภายหลังถูกจับกุม นายสมชาย คุณปลื้ม ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองปราบปราม และส่งไปขอหมายจำคุกที่ศาลอาญา โดยนายสมชายรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ต้องถูกจำคุกในคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชติ (กำนันยูร) ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาจำคุกเขา 25 ปี ศาลอาญาจึงออกหมายจำคุกโดยนับรวมกับโทษในคดีที่ดินเขาไม้แก้วซึ่งศาลจังหวัดชลบุรีพิพากษาให้จำคุกเขา 5 ปี 4 เดือน เป็นจำคุกทั้งสิ้น 30 ปี 4 เดือน
ท่ามกลางโรคที่รุมเร้า จำนวนมากเช่นกัน
ทั้งหมดนี่ คือ ตำนานของนักการเมืองใหญ่ ขาใหญ่ ที่ถูกระบุว่า หลบหนีคดี และถูกศาลออกหมายจับ มาแล้ว ก่อนหน้า “นายประชา มาลีนนท์”
โดยในจำนวนนี้ มีเพียงแค่ นายรักเกียรติ สุขธนะ และ นายสมชาย คุณปลื้ม ที่ถูกตามตัวกลับมารับโทษได้
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกระบุข้อมูลว่า มีที่พำนักอยู่ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดินทางเข้าออก ที่ฮ่องกง และประเทศเพื่อนบ้านของไทยหลายครั้ง ปัจจุบันยังคงใช้ช่องทางการสื่อสารในโลกออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิสเตอร์ ติดต่อสื่อสารกับคนในประเทศไทย อยู่เป็นระยะๆ
ส่วน "นายวัฒนา อัศวเหม" และ“นายประชา มาลีนนท์ ยังไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจนว่าไปพำนักอาศัยอยู่ที่ใดกันแน่
และยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการจับกุมตัว จำเลย ทั้ง 3 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้เมื่อไรกันแน่ ?
----
หมายเหตุ : แหล่งที่มาข้อมูลบางส่วน อ้างอิงจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี